PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562

โจทย์ไม่ใช่ทักษิณแล้ว

หลัง 7 มีนาคม สึนามิจะเกิด

ไม่ใช่คำทำนายทายทักดวงเมืองของโหร แต่เป็นการแทงหวยแบบโคตรเซียนการเมือง

ตามท้องเรื่องจุดพลิกผันใหญ่เลือกตั้งรอบนี้ จะเริ่มจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษา

คดียุบพรรคไทยรักษาชาติ จากปม “บิ๊กเซอร์ไพรส์” แคนดิเดตพิเศษบัญชีนายกรัฐมนตรี

นาทีนี้วงการเซียนบอลต่อลูกครึ่งควบสอง วงการมวยราคาต่อรองไหลไปที่ 7–1 ถึง 8–1 ไม่มีคนรอง

เพราะส่วนใหญ่แทงหวย “ยุบ” มากกว่า “รอด”

และตามภาพข่าวแบบที่ “เดอะอ๋อย” นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ พายเรือให้ “เสี่ยแดง” นายพิชัย นริพทะพันธุ์ “เสี่ยเต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ช่วยกันตะโกนเรียกแขก

โชว์ฟอร์มกันคึกคัก กระตุ้นต่อมฮึกเหิมกองเชียร์

แต่จริงๆสิ่งที่แฝงอยู่ นั่นคือยุทธศาสตร์โหมโรงกระแส หาจังหวะ หาช่องผ่องถ่ายฐานคะแนนของพรรคไทยรักษาชาติ ถ้าโดนล้มโต๊ะ ยุทธศาสตร์แตกแบงก์พันไม่เป็นไปตามแผน

บางพื้นที่ส่อ “แต้มโบ๋” ไม่มีทั้งไทยรักษาชาติและเพื่อไทย

ทีมดูไบต้องแก้เกมสลับคิวกันวุ่นแน่ และต่อจากปมยุบพรรคก็ยังไม่จบง่ายๆ ตามปรากฏการณ์ทางกระแสที่ประเมินล่วงหน้าได้ กับ “Side Effect” ผลกระทบที่จะลามไปถึงพรรคเพื่อไทย ทัพหลวงของดูไบ

ตามไกด์ไลน์ที่นายเจษฎ์ โทณวณิก ที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สายตรง “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นำร่อง โยงถึงปม “ยุบพรรค” ตามปรากฏการณ์ทางกายภาพที่เห็นๆกัน การสับขาหลอก แบ่งโซน แยกพื้นที่กันลง ส.ส.เขตกับ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ระหว่างพรรคไทยรักษาชาติกับพรรคเพื่อไทย

ส่อเข้าข่าย “ฮั้ว” เสี่ยงโดนลากขึ้นเขียงฟันได้อีกช็อต

แต่นั่นยังไม่ “ลุ้นตัวโก่ง” เท่ากับ “มาตรา 112” โดยกระแสที่จะไหลลามโดยอัตโนมัติ กับพวกรักสถาบันที่จ้องเอาเรื่อง ฟ้องเอาผิดพฤติการณ์ดึงเบื้องสูงมายุ่งการเมืองโดยผิดจารีตประเพณี

เป็นเรื่องที่คนไทยผู้มีสามัญสำนึกไม่กล้าแม้แต่จะคิด

มันคือจุดที่ฝ่ายคุมอำนาจ ต้องรีบสกัด “ลูกติดพัน” เกมโหนเบื้องบน เสริมพลังอำนาจชนทหาร

สถานการณ์ทีม “ทักษิณ” ไม่อยู่ในจุดที่จะชิงความได้เปรียบในเกมถนัดเลือกตั้ง

ขณะที่อีกฝั่ง กำลังเร่งจังหวะปิดเกม ในสถานการณ์ที่คู่แข่งสะดุดหัวคะมำ “ทำแต้มหก”

ตามโปรแกรมลุ้นกัน วันที่ 10 มีนาคมนี้ เวทีเมืองย่าโมโคราช บ้านเกิด “นายกฯลุงตู่”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. จะประเดิมขึ้นเวทีเดี่ยวไมโครโฟน

“เชียร์แขก” ให้พรรคเพื่อไทย

ในจังหวะโหมโรง “นายกฯลุงตู่” กับ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ประสานเสียงบนเวทีบีโอไอ ตอกย้ำความจำเป็นต้องให้ “นายกฯลุงตู่” ไปต่อ ไม่ใช่สืบทอดอำนาจ

แต่เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติเพื่อรองรับอนาคตระยะยาว

ไม่มีครั้งไหนในประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยมีโครงการลงทุน

และขับเคลื่อนได้เท่ารัฐบาลนี้

ตามเกมที่เหล่า “อ๋องการเมือง” พรรคพลังประชารัฐ เร่งเร้าให้ “แคนดิเดตนายกฯ” เดี่ยวๆของบัญชีพรรค เดินสายโชว์ตัวกับประชาชนผู้สนับสนุน ตามความชอบธรรมในวิถีเลือกตั้ง

เพราะไม่เช่นนั้น สถานการณ์ความยากลำบากจะตกไปอยู่ที่

“จอมยุทธ์กวง” ต้องไขก๊อกจากตำแหน่งมาลงพื้นที่หาเสียงช่วยทีมพลังประชารัฐแทน

และถ้า “สมคิด” ทิ้งหางเสือคุมเศรษฐกิจ นักลงทุนแกว่งแน่

เรื่องของเรื่อง การได้ “ลุงตู่” ขึ้นเวทีเป็นทีเด็ด นาทีนี้ข่าววงในพรรคพลังประชารัฐมั่นใจ แต้มแซงขึ้นมาอยู่อันดับที่สอง รองแค่พรรคเพื่อไทย แต่เหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์

โจทย์เหลือแค่ปั่นตัวเลข บล็อกพรรคร่วมกดดันต่อรอง “ลุงตู่”

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในจังหวะทีมหนุน “ลุงตู่” เร่งแซงเข้าป้าย มันก็มีอะไรที่แฝงอยู่

ตามร่องรอยร้าวๆที่มองเห็นแต่ไกล กับลีลาล่าสุดของนายสุชาติ ตันเจริญ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ประกาศดังๆบนเวทีปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดยโสธร ยืนยันเลยว่า รัฐบาล “นายกฯลุงตู่” รอบต่อไป ไม่ใช่รัฐบาลทหาร

จะไม่มีทหารอยู่คณะรัฐมนตรี

ในอารมณ์ย้อนศรแก้เผ็ดกันในที ก่อนหน้านี้นายสุชาติก็ถูกทีมทหารข้างตัว พล.อ.ประยุทธ์ สะกิดให้ “ลุงตู่” ออกมาเตะสกัดนโยบาย “ส.ป.ก.ทองคำ” จนหัวทิ่มหัวตำ

“สุชาติ” หัวคะมำ อดตีกินแต้มเนื้อๆกับชาวบ้าน

เรื่องของเรื่อง โดยสถานการณ์มันสะท้อนภาพ “สารแขวนลอย” อย่างเด่นชัด ภายในค่าย “พลังประชารัฐ” แยกเป็นสองเนื้อระหว่างนักการเมืองกับทหาร “หัวเหลี่ยม” ที่คานเกมอำนาจกัน

โจทย์การบ้านยากๆหลังเลือกตั้ง ถ้า “นายกฯลุงตู่” ได้ตีตั๋วต่อ

งานหินเลย ต้องจูนนักการเมืองกับทหารเป็นเนื้อเดียว.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น: