#มอร์มูฟเป็นข่าว ก็แปลก ... เพราะนี่ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ แต่หลายคนไม่ให้ความสนใจ เป็นผลกระทบอย่างยิ่งต่อตัวเรา ณ ปัจจุบันตลอดถึงลูกหลานเหลนโหลนอีกหลายชั่วอายุคนจนกว่าโลกจะถึงกาลอวสาน สำหรับเรื่องของ ‘ภัยพิบัติโลกร้อน’
โดยล่าสุด รายงานจากสหประชาชาติเตือนเรื่องภัยพิบัติจากโลกร้อนในอีก12ปี ชี้ชัดในปี พ.ศ.2573 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอาจสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และจะทำให้เกิดความเสี่ยงเรื่องหายนะจากธรรมชาติ เช่น ภาวะแล้งจัดไฟป่า น้ำท่วมใหญ่ รวมทั้งการขาดแคลนอาหารสำหรับผู้คนนับล้านๆ คนทั่วโลกได้ การจำกัดปัญหาสามารถทำได้ในทางวิทยาศาสตร์แต่ที่สำคัญกว่าคือความตั้งใจทางการเมือง
Source : https://www.voathai.com/a/ipcc-report-global-w…/4605410.html
โดยเรื่องนี้ รายงานจากคณะกรรมการของสหประชาชาติด้านความร่วมมือระหว่างรัฐบาล เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก (IPCC) คาดการณ์จากระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศของโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ระบุ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ตามเป้าจะต้องอาศัยความเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางทั้งในรูปแบบการใช้พลังงาน การคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม และการอยู่อาศัยในเขตเมือง
"เห็นได้ชัดว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change นั้นกำลังเกิดขึ้นให้เห็นกับตา หากไม่มีมาตรการแก้ไขและรับมืออย่างเร่งด่วนจะยิ่งส่งผลเสียหนักมากยิ่งขึ้น ดังตัวอย่างที่เห็นได้จากภาวะแล้งจัดที่ทำให้ขาดน้ำในเมืองเคปทาวน์ของแอฟริกาใต้ คลื่นความร้อนจัดในทวีปยุโรป และฝนที่ตกอย่างหนักจากพายุเฮอร์ริเคน Harvey กับพายุเฮอร์ริเคน Florence ในสหรัฐฯ เป็นต้น" รายงานของ IPCC ระบุ
📌 ภัยพิบัติโลกร้อนส่งผล (แล้ว) ต่อแนวปะการังรวมทั้งแนวปะการังยักษ์ Great Barrier Reef ของออสเตรเลีย โดยคาดว่าปะการังของโลกจะตายลง 70% ถึง 90% จากภาวะโลกร้อนหากไม่มีการเร่งแก้ไข.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น