PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2562

วัดใจลุงตู่ด่านสุดท้าย

ยังปิดจ๊อบไม่ลงตัว “ครม.ลุงตู่” ภาค 2

เอาที่ชัวร์ๆมีแค่โควตาในส่วนพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์” ที่ได้ครองกระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ ครบเครื่องตามดีลเดิมที่ “ขาใหญ่” บางรายเคยไปเจรจานอกรอบไว้

ในช็อตที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ต้องออกโรงทุบโต๊ะ แบ่งเค้ก ครม.ด้วยตัวเอง บริหารความพึงพอใจให้พรรคร่วมรัฐบาลจนนิ่งได้ในระดับหนึ่ง

ยอมกลืนเลือด ปล่อยให้ “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” ได้สัมปทานขุมทรัพย์ “พาณิชย์-คมนาคม” แลกกับการลดแรงเสียดทานการทำงานระหว่างพรรคที่ตั้งท่าแตกหัก ตั้งแต่ยังไม่ทันออกสตาร์ตการทำงาน

แม้รายชื่อทีม ครม.ของพรรคร่วมรัฐบาลที่ปรากฏออกมาตามหน้าสื่อจะมีเสียงยี้ แต่ต้องทำใจรับสภาพตามเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกันมา

ตามสถานะที่กำลังจะแปรเปลี่ยนไปของ “ลุงตู่” ในฐานะนายกฯที่มาจากกลไกประชาธิปไตยอย่างถูกต้องตามกติกา ไม่ได้มีอำนาจเด็ดขาดชี้ขาดการตัดสินใจได้เหมือนในอดีต

ทำได้แค่เจียระไนทีม ครม.ชุดใหม่ให้ดูขี้เหร่น้อยที่สุด

ยังไงก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีพวกเต้าหู้ยี้แทรกเข้ามาในทีม

“ลุงตู่” โชว์ฝีมือเคลียร์ใจ ประสานผลประโยชน์พรรคร่วมรัฐบาล สยบรอยร้าวนอกพรรคได้สำเร็จ จะเหลือที่ยังชุลมุนอยู่คือ ศึกในพรรคพลังประชารัฐ

ที่ดูเหมือนจะจบแต่ยังไม่จบ

แม้ล่าสุด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะระบุได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนพรรคพลังประชารัฐให้ “บิ๊กตู่” เรียบร้อยแล้ว เพื่อกลบแรงกระเพื่อมการแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี

แต่ก็ซ่อนร่องรอยขบเหลี่ยมการเกลี่ยโควตารัฐมนตรีไม่ลงตัวของกลุ่มก๊วนต่างๆภายในพรรคไม่มิด

เรื่องของเรื่องก็เป็นผลต่อเนื่องจากการเสียโควตากระทรวงสำคัญให้พรรคร่วมรัฐบาล ทำให้การจัดสรรเก้าอี้ ครม.ในทีมพลังประชารัฐรวนตามไปด้วย

จากที่เคยแบ่งสัมปทาน จัดสรรเก้าอี้กันไว้เรียบร้อย ต้องมาเขย่ากันใหม่ กลุ่มสามมิตรที่เสียกระทรวงหลักให้กับ “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” เลยต้องมาแย่งเค้กกับก๊วนอื่นๆ

อย่างที่เห็นกรณี “เดอะตั้น” นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พยายามทวงโควตาเก้าอี้ รมว.พลังงานคืนมา ไม่ยอมรับเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ ตามที่มีการสับโผกันวุ่นวาย หลังจากโผ ครม.ล่าสุดเก้าอี้กระทรวงพลังงานเปลี่ยนมือไปเป็นของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร

สอดรับไปกับการปั่นกระแสขุดคุ้ยคดีความในอดีตของบรรดาตัวเต็งรัฐมนตรีในกลุ่มสามมิตร ถลกแผลเก่าให้สังคมตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

สร้างปมหวาดระแวง ไม่รู้คนในปล่อยของล่อกันเองหรือไม่ เพื่อกันท่าไม่ให้ถูกแย่งโควตารัฐมนตรี

เลยเถิดไปถึงขั้นปั่นข่าวเตรียมโละทีมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ให้ “ลุงตู่” ถือธงนำ นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคด้วยตัวเอง เปลี่ยนทีมบริหารใหม่ยกลอต

ก็ต้องวัดใจ “บิ๊กตู่” กล้ารับความเสี่ยงที่จะตามมาหรือไม่ อย่างที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้แง่คิด หากพรรคถูกคดีร้ายแรง ผลร้ายจะตกมาถึงหัวหน้าพรรคด้วย

นั่นหมายถึง ถ้าพลังประชารัฐถูกยุบพรรค “ลุงตู่” ย่อมหมดอนาคตตามไปด้วย เผลอๆมีคดีอาญาติดตัวพ่วงท้ายมาอีก จะกล้าเสี่ยงหรือไม่

สถานการณ์พลังประชารัฐชักอลเวงขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยนิ่งสุดกลับมีแรงกระเพื่อม ทั้งปล่อยข่าวและแย่งเก้าอี้กันชุลมุน

พวกขาใหญ่ไม่มีเหนียม ประกาศเป็นเจ้าของโควตารัฐมนตรี ประเคนเก้าอี้ให้คนในครอบครัวนั่ง

ล็อกเก้าอี้ รมต.เหมือนเป็นสมบัติประจำตระกูล

ขณะเดียวกัน มือเศรษฐกิจอย่าง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ มีท่าทีลังเลเรื่องไปต่อ หากไม่ติดสัญญาใจกับ “ลุงตู่” จะอยู่ช่วยทำงาน

ตามการประเมินทิศทางลมแล้ว คงทำงานลำบาก เพราะเสียกระทรวงหลัก “คมนาคม-พาณิชย์” ให้พรรคร่วมรัฐบาล ไม่สามารถคอนโทรลนโยบายหลักได้ต่อเนื่อง ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ทีมงาน 4 กุมารของ “สมคิด” ที่ถูกวางตัวเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ก็หลุดโผจากตำแหน่งโค้งสุดท้าย

ทีมเศรษฐกิจหลักมาไม่ฟูลทีม เพราะต้องถูกเฉือนถูกแบ่งโควตา เพื่อจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงล็อก

ต้องลุ้นวัดใจ “ลุงตู่” ในด่านสุดท้าย จะสกรีนรายชื่อรัฐมนตรีให้เหมาะสมได้แค่ไหน

หากปล่อยให้เสือ สิงห์ กระทิง แรด เพ่นพ่านเต็มรัฐบาลใหม่

“ลุงตู่” จะตามกำราบไหวรึเปล่า.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: