PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ภูมิใจไทยไฟเขียวชาดา ส่งน้องสาวนั่งรมช.เกษตรแทน

ก๊วนด้ามขวานเดือด-วืดหมด ‘นิพันธ์’ ข่มขู่เตรียมสูญพันธุ์ พลังประชารัฐส่งแกนนำคุยดำรงค์!

เก้าอี้ดนตรี พปชร.ยังป่วนไม่จบ ถึงคิว “กลุ่มด้ามขวาน” ทวงความเป็นธรรมบ้าง “นิพันธ์ ศิริธร” ขู่มี 13 ส.ส.ยังไม่ได้ซักเก้าอี้ งวดหน้าเตรียมสูญพันธุ์ได้เลย โยน “บิ๊กตู่” ชี้ขาดเก้าอี้ “กลุ่มอีสาน” แจ้นส่งแกนนำจับเข่าคุย “เสี่ยเอี้ยง” “ชัช” ปฏิเสธจับมือ “ดำรงค์ พิเดช” ต่อรอง “ชาดา” ส่งน้องสาวนั่ง รมช.เกษตรฯ แทน เจ้าตัวยอมรับมีจุดโหว่ทำวืด “เสี่ยหนู” ไฟเขียวยึดตามโควตา “อิสสระ” ปัด กปปส.ยึดพรรคไม่สำเร็จเลยป่วน เดือดมือปล่อยข่าวฉะเลิกเป็นอีแอบได้แล้ว “นิพิฏฐ์” เชื่อคัดเลขาฯ-ผู้ช่วย รมต.ไม่มีคลื่นใต้น้ำ พท.เย้ยพรรคร่วมแทงหลังกันพรุน จ่อตั้ง กก.บห.ชุดใหม่เน้นพวกตัวจริง “ธนาธร” จัดระดมทุนเข้าพรรค โพลชี้คนจับตาว่าที่ รมว.เกษตรฯมากสุด ผิดหวังพวกหน้าเดิมรุมทึ้งรางข้าว

กลุ่มก๊วนการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ยังคงทยอยออกมาระบายความอัดอั้น หลังไม่ได้รับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีอย่างทั่วถึง ล่าสุดนายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าหาก 13 ส.ส.ใต้ไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี การเลือกตั้งครั้งต่อไปก็เตรียมสูญพันธุ์ได้เลย

โยน “บิ๊กตู่” ตัดสินเก้าอี้ “กลุ่มอีสาน”

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า หลังจากที่นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มอีสาน ขู่ทบทวนบทบาทการทำงานร่วมกับพรรค หลังถูกเมินไม่ได้รับจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี บรรดาแกนนำของพรรคพลังประชารัฐได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว ภายหลังนายเอกราชออกมาแถลงข่าว แต่เห็นว่าโผ ครม.ในส่วนของพรรคค่อนข้างนิ่งแล้วกว่าร้อยละ 90 แต่หากจะทบทวนหรือพิจารณาจัดสรรรายชื่อใหม่ ต้องเป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตัดสินใจ

ถึงคิว “กลุ่มด้ามขวาน” ทวงบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ส.ส. 13 คนในพื้นที่ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ หรือกลุ่มด้ามขวาน ก็รู้สึกไม่พอใจที่ทางกลุ่มไม่ได้รับการจัดสรรตำแหน่งใดๆ ทั้งที่ได้ ส.ส.เข้ามาถึง 13คน ทำให้กลุ่ม ส.ส.ใต้ เตรียมทวงถามความเป็นธรรมเช่นกัน โดยรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีในโควตาภาคใต้เบื้องต้นที่เสนอคือ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) หัวหน้าทีมเลือกตั้งภาคใต้ของพรรค

“นิพันธ์” ขู่เตรียมสูญพันธุ์ได้เลย

เมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีของกลุ่มภาคใต้ 13 เสียง ที่ไม่มีตำแหน่งใน ครม.ว่า ที่ผ่านมาเราอยู่แบบเงียบๆ ไม่เคยกดดันหรือต่อรองใดๆ ทางกลุ่มได้ประสานกับทางผู้ใหญ่เป็นการภายใน ด้วยหลักการและเหตุผล ยืนยันว่าเราไม่เคยไปกดดันอะไร เพราะสาเหตุที่คนภาคใต้เลือกพรรคพลังประชารัฐเข้ามา ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าไม่มีคนในสัดส่วนของภาคใต้เข้าไปนั่งบริหารคงสู้เขาไม่ได้ เพราะตอนนี้ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์จัดเต็มทั้ง 2 พรรค หากยังปล่อยไว้แบบนี้มั่นใจว่าพลังประชารัฐจะสูญพันธุ์ที่ภาคใต้แน่นอน ในวันที่ 17 มิ.ย. เวลา 15.00 น. ทางกลุ่มจะเปิดที่ทำงาน “กลุ่มด้ามขวานไทย” บริเวณแยกถนนพิชัย เป็นสถานที่ทำงานของกลุ่ม มี ส.ส. จำนวน 13 คน รวมถึงจะประชุมกำหนดท่าทีการทำงานกับพรรคด้วย

แจ้นส่งแกนนำเคลียร์ใจ “ดำรงค์”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐได้รับทราบข้อเรียกร้องของนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย แต่ยืนยันว่าโควตากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังคงเป็นของพรรคชาติไทยพัฒนา ก่อนหน้านี้ยื่นข้อเสนอให้นายดำรงค์เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่นายดำรงค์เห็นว่า นโยบายของพรรครักษ์ผืนป่าฯไม่ตรงกับพรรคชาติไทยพัฒนา จึงปฏิเสธ พรรคพลังประชารัฐเตรียมส่งแกนนำหารือกับนายดำรงค์ในสัปดาห์นี้ เชื่อว่า 2 เสียงของพรรครักษ์ผืนป่าฯยังคงอยู่เป็นหนึ่งพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน

“อุตตม” ย้ำทำงานไม่มีแบ่งภาค

ต่อมาช่วงค่ำ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กระบุว่า ยืนยันการทำหน้าที่ตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน ไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นภาคอะไร พรรคจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนทุกคนทั่วประเทศ สมาชิกของพรรคทุกคนจึงมีหน้าที่เดินเข้าหาพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ ให้เหมือนวันเลือกตั้งที่เขามอบความไว้วางใจ มอบคะแนนเสียงให้กับเรา ทำหน้าที่ประสานนโยบายจากรัฐบาลไปสู่พี่น้องประชาชน ต้องยึดมั่นทำหน้าที่เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนผ่าน 12 นโยบายพรรค ในนโยบายรัฐบาลที่ร่าง

กล่อม “เอี้ยง” ให้เชื่อใจนายกฯ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ขู่จะถอนตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระหากพรรคพลังประชารัฐไม่ให้เข้าไปร่วมงานในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามที่เคยตกลงไว้ ว่า รายชื่อ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯที่จะพิจารณาเพียงคนเดียว ควรให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของนายกฯ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณาตามความเหมาะสม อยากให้ทุกฝ่ายยึดผลประโยชน์ประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก

พลิกลิ้นไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้ว

นายธนกรกล่าวด้วยว่า กรณีนายเอกราช ช่างเหล่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่า กลุ่มภาคอีสานตอนบนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่งนั้น ผู้บริหารของพรรคให้ความสำคัญกับทุกภาค และดูถึงความเหมาะสมเป็นหลัก พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นผู้พิจารณา ต้องให้เกียรติการตัดสินใจ ส่วนที่ระบุกันว่านายเอกราชอยู่ในกลุ่มสามมิตรนั้นไม่เป็นความจริง ขณะนี้ไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้ว มีแต่พลังประชารัฐเพียงหนึ่งเดียว ตำแหน่งรัฐมนตรีมีจำกัด มีคนผิดหวังสมหวังเป็นธรรมดา ทุกอย่างทำความเข้าใจกันได้ ที่ผ่านมา ทุกคนทำงานให้พรรคเต็มที่ กลุ่มสามมิตรไม่เคยมีปัญหา แต่ที่ผ่านมามีความพยายามโยงกลุ่มกับทุกเรื่องให้เสียหายตลอด

“ชัช” ปฏิเสธจับมือรักษ์ผืนป่า

นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคพลังท้องถิ่นไทจะจับมือกับพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ว่า ยืนยันพรรคพลังท้องถิ่นไทไม่มีเรื่องต่อรองขอตำแหน่งรัฐมนตรี นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย อาจมองว่าตนมี 3 เก้าอี้ นายดำรงค์มี 2 เก้าอี้น่าจะรวมกันได้ แต่ยืนยันไม่มีเรื่องนี้ เหตุที่นายดำรงค์ออกมาเรียกร้อง อาจเป็นเพราะอยากเข้าไปทำงานในส่วนนั้น เพราะมีความรู้ความชำนาญงานด้านนั้นอยู่ แต่ตนพูดแต่แรกแล้วว่าอยากให้ประเทศเดินหน้า อยากทำงานเพื่อประเทศเดินต่อไปก็พอใจแล้ว ไม่ได้คิดถึงเรื่องตำแหน่ง ยืนยันคำเดิมตั้งแต่แรก และช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอนายดำรงค์

“ชาดา” ส่งน้องสาวนั่ง รมช.เกษตรฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ที่เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พิจารณาแล้วนั้น ปรากฏว่ารายชื่อของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่ทางพรรคส่งมาให้ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ติดปัญหา จนถูกตีกลับมาให้พรรคพิจารณาใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่านายชาดาได้เสนอชื่อ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาว ที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ให้พรรคพิจารณา

ยอมรับมีจุดโหว่-คืนโควตาแล้ว

นายชาดากล่าวชี้แจงกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ยังไม่ได้มีการหารือกับน้องสาวเรื่องเสนอชื่อเป็น รมช.เกษตรฯแทน เนื่องจากยังติดธุระกันอยู่ ตนไม่ได้กังวลกับกระแสโจมตีจนทำให้ชื่อหลุดโผ ยอมรับว่าตนมีช่องโหว่ เคยถอนตัวและคืนโควตารัฐมนตรีให้พรรคไปแล้ว เพื่อให้พรรคพิจารณาคนที่เหมาะสม เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การเป็น รมต. แต่ต้องการเข้ามาผลักดัน พ.ร.บ.ข้าว และ พ.ร.บ.อ้อย ให้กับเกษตรกร

“เสี่ยหนู” ชงชื่อตามโควตา “ชาดา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 17 มิ.ย.นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะส่งรายชื่อรัฐมนตรีของพรรคให้นายกฯพิจารณา ในส่วนที่เป็นปัญหาคือ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่ติดปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ กระทั่งถูกส่งตีกลับมาให้แก้ไข โดยทางพรรคยังคงให้โควตานายชาดา เสนอผู้ที่เหมาะสมมาแทน และนายชาดาได้ส่งชื่อ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาว นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานีให้นายอนุทินแล้ว และจะนำรายชื่อทั้งหมดส่งให้นายกฯต่อไป ส่วนตำแหน่งอื่นคงยังเหมือนเดิม

“จุติ-นิพนธ์” สลับเก้าอี้กันลงตัว

ด้านนายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการทำหนังสือเวียนสลับโควตารัฐมนตรีในพรรค ระหว่างนายจุติ ไกรฤกษ์ กับนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า เรื่องสลับตำแหน่งเป็นความพอใจของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ความขัดแย้งหรือแย่งตำแหน่งกัน เดิมที่ประชุมให้นายนิพนธ์เป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และให้นายจุติเป็น รมช.มหาดไทย เท่าที่ได้พูดคุยกับทั้งสองฝ่าย ต่างไม่ถนัดในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย เกรงจะทำผลงานให้พรรคได้ไม่เต็มที่ เช่น นายนิพนธ์บอกไม่ถนัดงานด้านพัฒนาสังคม แต่ถนัดงานปกครองท้องถิ่น โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนนายจุติก็ไม่ถนัดงานมหาดไทย ยิ่งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ไม่มีประสบการณ์เลยถ้าเป็นงานสังคมจะสร้างประโยชน์ให้พรรคมากกว่า

ต้องการทำงานที่ตัวเองถนัด

นายอิสระกล่าวว่า หลังที่ประชุมเห็นชอบทั้ง 7 ตำแหน่งแล้ว ปรากฏนายนิพนธ์มาหาตนบอกว่าไม่ถนัดงานพัฒนาสังคม แต่ถนัดงานมหาดไทย ทำงานท้องถิ่นมาตลอดสามจังหวัดชายแดนก็คลุกคลีตีโมงมา ถ้าสลับสับเปลี่ยนกันได้คงดี แต่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ไม่กล้าเปลี่ยนเองเพราะเกรงใจที่ประชุม โดยเฉพาะตนที่อภิปรายในที่ประชุมไว้มาก เลยบอกไปว่าถ้าเป็นความพอใจของผู้สลับตำแหน่งก็ไม่ขัดข้อง จากนั้นได้ไปนั่งคุยกับนายจุรินทร์ที่ห้องของนายสุธรรม ระหงษ์ ผู้อำนวยการพรรค นี่คือที่มาของหนังสือเวียน ทุกคนพูดคุยยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ได้ขัดแย้งกัน

ปัด กปปส.ยึดพรรคไม่ได้เลยป่วน

นายอิสสระกล่าวว่า ส่วนที่มีการพาดพิงว่ากลุ่ม ส.ส.ที่เป็นอดีต กปปส. จะกลับมายึดพรรคแต่ไม่สำเร็จจึงกวนน้ำให้ขุ่น ไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยโวยวายอะไรเมื่อพรรคเห็นชอบแล้วก็จบ เราเคารพมติพรรค แต่เวลาอภิปรายมันเป็นเรื่องธรรมดาต้องพูดกัน ทักท้วงว่าทำไมในภาคอีสานถึงไม่ได้โควตารัฐมนตรี ทั้งที่ได้ ส.ส.เขตถึง 2 คน ที่ จ.อุบลราชธานี คือนายวุฒิพงษ์ นามบุตร และ น.ส.แนน บุญย์ธิดา สมชัย เมื่อที่ประชุมชี้แจงแล้วก็จบ

ฉะเลิกเป็นอีแอบกุข่าวทำลายล้าง

นายอิสสระกล่าวอีกว่า ถ้าบอกว่า กปปส.จะมายึดพรรค ขอให้ไปย้อนดูการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ว่าเหตุใดตนในฐานะอดีต กปปส. ถึงไม่ไปสนับสนุน นพ.วรงค์ ร่วมกับนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา แต่ช่วยนายอภิสิทธิ์ จนกระทั่งได้รับชัยชนะ จึงไม่ใช่เรื่อง กปปส.ป่วน เพราะภารกิจ กปปส.จบไปตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2557 “ไม่ทราบว่าเป็นความพยายามของใคร ฝ่ายไหน ที่พยายามตอกลิ่มพรรคให้เกิดความขัดแย้งไม่เลิกราเสียที อย่าเป็นอีแอบแอบส่งข่าวให้สำนักโน้นสำนักนี้มาด่ากัน จะได้จับเข่าคุยกันทำความเข้าใจว่าจะเอาอย่างไร ขอให้หยุดเป็นอีแอบสักที”

“นิพิฏฐ์” เชื่อไม่มีคลื่นใต้น้ำ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในที่ประชุมทุกคนได้มีโอกาสซักถามข้อข้องใจจนเป็นที่พอใจ จนที่ประชุมมีมติ อนุมัติรายชื่อออกมา 7 คน การอภิปรายแสดงความคิดเห็นกันหลากหลายถือเป็นความเห็นต่าง ขออย่ามองว่าเป็นความขัดแย้ง นี่คือบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค ซึ่งพรรคการเมืองอื่นไม่มี เมื่อถามว่าจะทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำภายในพรรคอีกหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ตอบว่า เชื่อว่าไม่มีคลื่นใต้น้ำ หลังจากนี้ทุกคนต้องร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย ส่วนพรรคต้องกำกับดูแลงานของรัฐมนตรี และตัวรัฐมนตรีแต่ละคนต้องมาชี้แจงงานของตัวเองที่ทำในกระทรวงนั้นๆ ต่อที่ประชุม ส.ส.ทุกวันอังคาร ซึ่งจะเป็นเวทีที่ให้ ส.ส.ของเราสามารถซักถามรัฐมนตรีได้ด้วย

คัดเลขา รมต.ไม่มีกระเพื่อมซ้ำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดสรรคนของพรรคไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น ที่ปรึกษารัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมหรือความวุ่นวายภายในพรรคอีกหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ตอบว่า เรามีหลักเกณฑ์จัดสรรบุคคลส่วนนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคมอบ หมายให้ตนพิจารณาหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยจัดเป็นกลุ่มอดีต ส.ส. อดีตผู้สมัคร ส.ส. เพื่อดูว่าส่วนใดบ้างควรถึงคราวได้รับตำแหน่ง แต่ถ้าพรรคได้รับจัดสรรมาน้อย ต้องให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นผู้พิจารณา เมื่อถามว่ามีว่าที่รัฐมนตรีบางคนถูกยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาคุณสมบัติกรณีที่ถือครองหุ้นสื่อ นายนิพิฏฐ์ตอบว่า คิดว่าการตรวจสอบเรื่องกรณีถือครองหุ้นสื่อคงใช้เวลาอีกนาน เพราะตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้แจ้งนัดหมายใดๆต่อผู้ถูกร้อง รวมเวลาแล้วเรื่องดังกล่าวน่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือน ต้องให้โอกาสแก่ ส.ส.ที่ได้เป็นว่าที่รัฐมนตรีไปก่อน

“ระวี” อาสาเป็นองครักษ์พิทักษ์

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ หนึ่งในแกนนำกลุ่ม 10 พรรคเล็กกล่าวว่า ทั้ง 10 พรรคเล็กไม่มีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกับรัฐบาล เราต้องการสร้างการเมืองใหม่ การตัดสินใจอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หากเห็นว่าพรรคเล็กเหมาะสมให้ตำแหน่งมาเราก็รับ เราก็ตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีการอิจฉาริษยากันหากพรรคใดพรรคหนึ่งจะได้ตำแหน่ง แม้ไม่จัดสรรตำแหน่งให้ ก็ยังยืนยันกลุ่ม 10 พรรคเล็กยังคงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปแน่นอน ส่วนงานในสภาฯ พรรคพลังธรรมใหม่จะเป็นพรรคฝ่ายค้านในรัฐบาล คือถ้าเห็นว่าเรื่องอะไรที่รัฐบาลหรือรัฐมนตรีทำผิด เช่น คอร์รัปชัน เราจะเตือนรัฐบาลก่อนในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล หากรัฐบาลทำถูก ทั้ง 10 พรรค พร้อมจะสนับสนุน และเป็นองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล เราจะสู้กับฝ่ายค้านให้ แต่หากรัฐบาลทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ฟัง ไม่สนใจสิ่งที่เราเตือน เราก็พร้อมถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล

แนะ “บิ๊กตู่” ปรับเปลี่ยนลีลาผู้นำ

นพ.ระวีกล่าวว่า เงื่อนไขที่รัฐบาลจะอยู่ยาวได้คือ 1.ต้องบริหารซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส 2.ต้องทำงานเร็ว และ 3.ต้องทำงานเป็น หากทำได้ครบทั้ง 3 เงื่อนไข รัฐบาลอยู่ได้ครบ 4 ปีแน่นอน แต่ถ้ามีโกง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต แค่ 6 เดือนก็อยู่ไม่ได้แล้ว นายกฯต้องปรับตัว เพราะลีลานายกฯของ คสช.กับลีลานายกฯ ในระบอบประชาธิปไตยต่างกัน ขณะนี้ฝ่ายค้านถือว่ามีพลังมาก เป็นเลือดคนรุ่นใหม่ คุมอำนาจของระบบออนไลน์ มีพรรคเพื่อไทยที่คุมพื้นที่มหาศาล รัฐบาลจึงมีงานหนักมาก ต้องมีการบริหารและประสานงานที่รวดเร็ว ต้องปรับตัวถ้าไม่ปรับตัวไม่ถึงปีก็ไม่รอด ปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขคือ ปากท้องความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน 3 เรื่องนี้หากรัฐบาลทำได้ก็อยู่ครบ 4 ปี หรืออาจมากกว่านั้น

พท.เย้ยพรรคร่วมแทงกันพรุน

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ดูจากรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่จะร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว ไม่มี อะไรแปลกใหม่ เป็นสมาชิก คสช. และกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์และคณะอยู่ต่อ บางพรรคยอมกลืนน้ำลายตัวเองยอมผิดสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และรายชื่อ ครม.ส่วนใหญ่เคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อนแทบทั้งนั้น รู้เห็นฝีไม้ลายมือกันอยู่ ส่วนตัวเห็นว่าการเดินหน้านโยบายของรัฐบาลคงเป็นไปได้ยาก เพราะแต่ละพรรคต่างมีนโยบายของตัวเอง ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างทำ สุดท้ายอาจไปคนละทิศละทาง และประชาชนจะเดือดร้อนไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา การที่รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้นานหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นกับฝ่ายค้านในสภาฯ แต่อยู่ที่ฝ่ายรัฐบาลเองเป็นตัวแปร วันนี้ ครม.ยังไม่ออกมาแต่มีการปล่อยข่าวให้ร้ายกันแล้ว

ตอกลิ่มหักดิบพรรคตระบัดสัตย์

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีจนไม่สนใจสายตาประชาชน หาก พล.อ.ประยุทธ์รักประเทศจริงคิดกอบกู้ชื่อเสียงที่ตกต่ำมากกว่า 5 ปี ต้องเด็ดขาดกล้าตัดสินใจ หักดิบยอมปล่อยทิ้งพรรค การเมืองบางพรรคบ้าง ก่อนที่จะโดนงูเห่าฉก สุภาษิตโบราณชัดเจนอยู่ว่า ชาวนากับงูเห่าเป็นอย่างไร แม้พวกต่อรองเก้าอี้จะอกหักวันนี้ไม่สามารถกลับมาเป็นฝ่ายค้านที่สง่างามและสมศักดิ์ศรี ที่ผ่านมามีการทำบันทึกความจำของประชาชน เกี่ยวกับพรรค การเมืองบางพรรคที่กล้าตระบัดสัตย์ และยังเตือนความจำว่า พล.อ.ประยุทธ์ เคยดูถูกนักการเมือง จนเป็นเหตุให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทนไม่ไหวต้องออกมาตอบโต้ แต่ตอนมาร่วมหอลงโรงกันได้ ทำให้วันนี้ประชาชนเฝ้าถามถึงอุดมการณ์และหลักการของพรรคเหล่านี้ว่า คืออะไร

กก.บห.พท.ชุดใหม่เน้นตัวจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย ว่าการประชุมเพื่อเลือกตำแหน่งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่เป็น ส.ส.มาเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ลิสต์รายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไว้แล้ว พร้อมเชิญคนรุ่นใหม่ทางการเมืองมาหารือ โดยจะชี้ให้เห็นถึงความสำคัญในการทำงานพรรค และงานด้านสภาฯ สำหรับกรรมการบริหารชุดใหม่จะมีส่วนผสมของอดีต ส.ส. ที่มีประสบการณ์การเมือง และ ส.ส.ปัจจุบัน โดยกรรมการบริหารชุดใหม่จะเป็นตัวจริง มีอำนาจตัดสินใจในการขับเคลื่อนพรรค ไม่ใช่แค่ตุ๊กตาเหมือนที่ผ่านมา มีการวางอัตราส่วนคนรุ่นใหม่กับผู้มีประสบการณ์อย่างละครึ่ง ส่วนตำแหน่งโฆษกพรรค ทางแกนนำอยากให้เป็น ส.ส. เพื่อทำหน้าที่ชี้แจง ตอบโต้ทางการเมืองผ่านทั้งเวทีสภาฯ และเวทีนอกสภาฯได้ในคราวเดียวกัน โดยเชื่อว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะตัดสินใจลาออกในเร็ววันนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนให้เสร็จก่อนสิ้นเดือน มิ.ย.

“ธนาธร” จัดระดมทุนเข้าพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณดิ โอโซน ข้าง บขส.ใหม่ เพลินใจ 5 ต.ทับมา อ.เมืองระยอง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้าร่วมกิจกรรมกับทีมอนาคตใหม่ จ.ระยอง มีการขายบัตรเข้าร่วมงานใบละ 200 บาท จะได้เข็มกลัด ส่วนบัตรใบละ 490 บาท จะได้เสื้อกับเข็มกลัด มีผู้เข้าร่วมงานหลายร้อยคน นอกจากนี้ ยังมีการขายของที่ระลึกอื่นๆ อาทิ ผ้าพันคอ หมวก สมุด เพื่อระดมหารายได้เข้าพรรคอนาคตใหม่ และยังมีการประมูลของรักของหวงของนายธนาธร เป็นเนกไทสีเหลืองที่แม่ซื้อให้ และเคยใส่เข้าสภาเพียงแค่ครั้งเดียว มีนายสราวุฒิ คำตะสีลา ประมูลไปในราคา 70,000 บาท ขณะที่สแตนดี้รูปนายธนาธรพร้อมลายเซ็น นายธนวัฒน์ แสงอุไร ประมูลไปได้ที่ราคา 20,000 บาท

พปชร. เอาคืน 20 ส.ส.ฝ่ายค้าน

อีกเรื่อง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า กำลังรวบรวมรายชื่อ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และข้อมูลการถือครองหุ้นของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน 7 พรรค ที่มีชื่อเป็นผู้ถือครองหุ้นในบริษัทประกอบกิจการประเภทหนังสือพิมพ์ และสื่อมวลชน เพื่อทำคำร้องยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเข้าข่ายขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายประมาณ 20 คนขึ้นไป เห็นว่าควรต้องตรวจสอบให้ครบทุกพรรคเพื่อความชัดเจน และปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

“ปณิธาน” มั่นใจไร้ม็อบป่วนซัมมิต

นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยว่า สถานการณ์ทั่วไปปกติดี ความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ อาจมากขึ้น เพราะเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น และกฎระเบียบต่างๆที่ผ่อนคลายลง เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเริ่มมีการผลักดันให้เกิดการชุมนุมล่อแหลมต่อกฎหมาย และกระทบต่องานสำคัญ เช่น การประชุมผู้นำอาเซียน มีการเตรียมการรองรับอยู่แล้ว เพียงแต่ประเมินให้ละเอียดขึ้น แยกอะไรคือกิจกรรมทางการเมืองที่คนกำลังตื่นตัว ต้องเปิดกว้างและผลักดันให้อยู่ในกรอบปกติ แต่อะไรที่เป็นการปลุกระดมให้เผชิญหน้าขนาดใหญ่ ผิด พ.ร.บ.ชุมนุม สาธารณะ เรามีมาตรการอยู่ ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าขณะนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล และไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร

“บิ๊กตู่” สั่งเกาะติดกลุ่มปลุกระดม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กำชับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่นอกเหนือจากการชี้แจงข้อเท็จจริงตอบโต้จากข่าวบิดเบือนต่างๆในโซเชียลมีเดียที่ทำกันอยู่แล้ว ขอให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง ระวังอย่าให้มีการปลุกระดม เพราะมีกลุ่มคนที่ต้องการสร้างสถานการณ์ ให้วิเคราะห์ให้ดี ชี้แจงให้ทันการณ์ ที่ผ่านมาถือว่าดีอยู่แล้ว แต่อยากให้เร็วกว่านี้ ทำทั้งเชิงรุกและเชิงรับที่ต้องทันกาลด้วย

โพลจับตา รมว.เกษตรฯมากที่สุด

วันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “รัฐมนตรีที่ควรเฝ้าจับตามอง” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,256 คน พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 41.16 รมว.เกษตรและสหกรณ์ อันดับ 2 ร้อยละ 19.82 รมว.ศึกษาธิการ และอันดับ 3 ร้อยละ 17.68 รมว.พาณิชย์ ส่วนลักษณะบุคคลที่ไม่ควรให้เป็นรัฐมนตรี ร้อยละ 52.39 ระบุว่า บุคคลที่มีข่าว หรือภาพลักษณ์ไม่โปร่งใส ไม่ซื่อสัตย์ รองลงมาคือคนไม่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับ มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีชื่อเสียงเป็นเจ้าพ่อมาเฟียผู้มีอิทธิพล มีชื่อเสียงว่าสนใจแต่ผลประโยชน์ของจังหวัดของตนเองมากกว่าทั้งประเทศ และเคยเป็นรัฐมนตรีแต่ไม่มีผลงานอะไรเลย

ผิดหวังพวกหน้าเดิมรุมทึ้งเก้าอี้

ด้านสวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นกรณี “ประชาชนกับความหวังต่อรัฐบาลใหม่” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,226 คน พบว่าร้อยละ 61.45 เห็นว่าแก่งแย่งตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ ร้อยละ 50.37 ผิดหวังได้นักการเมืองหน้าเดิมๆ ร้อยละ 35.16 คิดว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ส่วนที่พึงพอใจ ร้อยละ 42.86 ระบุว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และร้อยละ 40 พอใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ ส่วนที่ยังไม่พอใจร้อยละ 56.08 ระบุว่า ที่มาไม่สง่างาม สืบทอดอำนาจ ร้อยละ 36.17 จัดสรรตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ และร้อยละ 20.24 รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่อยากฝากบอกนายกฯให้พัฒนาบ้านเมือง ทำเพื่อส่วนรวม เป็นผู้นำที่ดีฟังเสียงประชาชน รองลงมาคือ ทำตามสัญญานโยบายที่หาเสียงไว้ ช่วยกันทำงานเห็นแก่ประโยชน์ของชาติ ไม่ทุจริตคอร์รัปชัน โปร่งใส และไม่ถูกครอบงำทำงานเป็นอิสระ

ตจว.ใส่ใจการเมืองสูงกว่าคนกรุง

ขณะที่นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจประชาชน 1,094 ตัวอย่าง ถึงปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขเร่งด่วน โดยร้อยละ 84.4 ระบุแก้ปัญหาปากท้องเศรษฐกิจค่าครองชีพสูง รายได้ตกต่ำ รองลงมาเป็นปัญหาความไม่ยุติธรรม ความไม่เป็นธรรมทางการเมือง ปัญหาการพัฒนาประเทศ ปัญหาคมนาคม อุบัติเหตุ จราจร ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาการศึกษา น้ำท่วมขัง และปัญหาสวัสดิการพนักงานลูกจ้าง ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างของคนต่างจังหวัด มีสัดส่วนที่เห็นถึงความไม่เป็นธรรมทางการเมืองสูงกว่าคนกรุงเทพฯ อยู่ระหว่างร้อยละ 5.6 ต่อร้อยละ 2.6

“ลายจุด” หนุน “ประยุทธ์” อยู่ต่อ

วันเดียวกันเวลา 13.00 น. ที่ห้องประกอบ หุตะสิงห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (ดีอาร์จี) จัดเสวนา “จากประชามติร่างรัฐธรรมนูญสู่การสืบทอดอำนาจหลังเลือกตั้ง” นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด หัวหน้าพรรคเกียน กล่าวว่า การจะเกิดการชุมนุมใหญ่ โค่นล้มรัฐบาลเผด็จการเหมือนปี 35 ต้องมีเงื่อนไขที่ทำให้คนมองว่าทนต่อไปไม่ไหวแล้วต้องออกมาร่วมกัน หรือทุกพรรคการเมืองเกิดฉันทามติจับมือกัน แต่มองว่าสถานการณ์ยังไม่เอื้อให้ทำเช่นนั้น และยังมองถึงข้อดีของการมี พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปคือ จะทำให้ประชาชนมีสติและเรียนรู้ที่จะศึกษาประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมายังไม่มีผู้นำคนไหนกระตุ้นความสนใจการเมืองให้คนได้เท่านี้ โดยเฉพาะเยาวชน จึงควรใช้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นประโยชน์ ยิ่งอยู่ยาว 8 ปี เด็กวันนี้จะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ นี่อาจเป็นรูปแบบ หนึ่งของการสร้างอารยธรรมที่เปลี่ยนแปลงสังคม เมื่อไรที่จิตสำนึกประชาชนเปลี่ยนได้ รากฐานโครงสร้าง อำนาจต่างๆที่วางไว้ในสังคมจะเปลี่ยนไปด้วย รอวันนั้นดีกว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ชนิดที่ต้อง เกิดสงครามกลางเมือง และเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังรอได้เช่นกัน

ขอให้คนรุ่นใหม่ปล่อยพลังธรรมชาติ

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ หัวหน้าโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กล่าวว่า ปรากฏการณ์พลังเยาวชนทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ มองว่าไม่ใช่หน้าที่ของใครที่จะนำพลังเหล่านี้ออกมาใช้ โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ควรปล่อยให้เจ้าของพลังเหล่านี้ได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ในพื้นที่ที่ปลอดภัยของตัวเอง เช่น ในห้องเรียน ปล่อยให้มีประเด็นแล้วเกิดข้อถกเถียงกันจะมีประโยชน์มากกว่า ไม่จำเป็นต้องไปชูป้ายหน้าหอศิลป์ หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอีกแล้ว ส่วนกรณีที่ทางไอลอว์รณรงค์เข้าชื่อ 1 หมื่นรายชื่อในโครงการปลดอาวุธ คสช. เพื่อใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เรียกร้อง ให้ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช.ที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ จะนำไปยื่นต่อรัฐสภา ในวันที่ 24 มิ.ย.



ไม่มีความคิดเห็น: