PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ยุทธศาสตร์คัดท้ายหางเสือเรือเหล็ก : ค้ำรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ

ทุกคนพูดตรงกันว่าประชาชนคาดหวังกับพรรคพลังประชารัฐเพราะเป็นรัฐบาลชุดแรก หลังจากไม่มีการเลือกตั้งมา 5 ปี จุดนี้เป็นพลังสำคัญ ทำให้ทุกคนภายในพรรคหล่อหลอมเข้ากันได้”

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกให้เห็นภาพภายหลังแกนนำของพรรค เคลียร์ใจกับกลุ่มสามมิตรได้ข้อยุติโควตารัฐมนตรี

พร้อมขยายให้เห็นภาพว่าภายในพรรคถ้ามองให้ลึกลงไป มันไม่แปลกที่เกิดเหตุดังกล่าว หลายพรรคก็เคยเผชิญเหตุแบบนี้ แตกต่างกันที่เราเป็นพรรคเกิดใหม่และลงสนามเลือกตั้งทันที

โดยหลอมรวมกลุ่มบุคคลต่างๆ ซึ่งมีแนวอุดมการณ์ทางการเมืองสอดคล้องกัน

อยากให้ประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งและต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า

แต่การหล่อหลอมยังไม่เต็มที่ ทุกคนก็เข้าใจก็มุ่งมั่นลงสนามเลือกตั้ง

เมื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ก็ต้องเดินหน้าฟอร์มตั้งรัฐบาล จัดโผ ครม.

ระหว่างอยู่ในขั้นตอนนี้ สมาชิกในพรรคย่อมมีความเห็นต่าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งเป็นพรรคเกิดใหม่ เวลาพูดคุยกันอาจเสียงดังไปนิด มีอารมณ์กันบ้าง

อยากให้มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความเห็นต่างกันเยอะ แต่ก็จบลงได้ด้วยดี

หลังถอยคนละก้าวเพื่อเดินไปข้างหน้า

สภาพแบบนี้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะไปไหวหรือไม่

ขอตอบว่ามันเป็นสัญญาณสะท้อนว่าเราเดินหน้าเพื่อประเทศชาติและประชาชน

วันนี้เป็นสัญญาณที่ดี ผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน

ภายในพรรคพลังประชารัฐเริ่มขยับปรับโครงสร้างพรรคใหม่อย่างไร โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายอุตตม บอกว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้พูดคุยกัน

ส่วนตัวยังไม่ได้ยินอะไรจากนายกฯ ท่านมีภารกิจหลายด้าน คงต้องรอดูอีกที

หลังมีชื่อจะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ก็มีกระแสข่าวว่านายกฯพยายามเชื่อมทุกกลุ่มภายในพรรคให้ขึ้นตรงโดยไม่ผ่านกลุ่มใด เพื่อสร้างเอกภาพภายในพรรค นายอุตตม บอกว่า ในฐานะเราเสนอชื่อท่านเป็นผู้เหมาะสมนั่งนายกฯ ย่อมมีความใกล้ชิดกับพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อเป็นผู้นำรัฐบาลย่อมมีความสัมพันธ์กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่ได้เข้าแทรกแซง เชื่อมั่นนายกฯเข้าใจว่าถ้าพูดถึงเอกภาพของรัฐบาล เอกภาพต้องเกิดขึ้นภายในพรรคก่อน

เอกภาพไม่ได้เกิดจากการชักนำของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เอกภาพสร้างจากคนในพรรคไม่ใช่ขึ้นอยู่กับใคร

ฉะนั้นท่านนายกฯจะดูภาพรวมของรัฐบาล และยึดโยงกับพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนให้เกิดเอกภาพภายในพรรค

การต่อรองทางการเมืองภายในพรรคมีโอกาสเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีวิธีรับมือเพื่อป้องกันแต่ละกลุ่มใช้จังหวะนี้เอาคืนหลังไม่พอใจจัดโผรัฐมนตรี อาจเกิดปัญหาขัดแย้งภายในพรรคตามมาได้ นายอุตตม บอกว่า ไม่มีปัญหา ทุกเรื่องคงนำไปหารือภายใน เปิดเวทีให้ทุกคนได้แสดงความเห็น

และผู้มีอำนาจในพรรคจะพิจารณาเป็นด่านสุดท้าย

ขอย้ำอีกครั้งว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนคาดหวังมากว่าประเทศต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้า

ฉะนั้นการทำงานนับจากนี้ทั้งภายในพรรคและพรรคร่วมรัฐบาล ต้องทำงานเป็นทีมและทำงานเต็มที่

เริ่มจากเตรียมดูร่างแถลงนโยบายรัฐบาลที่เสร็จแล้ว

ขั้นตอนต่อไปจะส่งให้พรรคร่วมรัฐบาลตรวจสอบ

เพื่อเพิ่มหรือตัดในบางประเด็นให้สอดคล้องกับนโยบายของแต่ละพรรคที่ได้ประกาศหาเสียงไว้

นโยบายของรัฐบาลต้องเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายของรัฐยุทธศาสตร์ชาติ และชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่นำมาใช้จ่ายดำเนินนโยบาย

เพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันเข้ารับหน้าที่ โดยไม่มีการลงมติ


พรรคร่วมฝ่ายค้านเริ่มตรวจสอบเข้มข้น ภายในพรรคพลังประชารัฐมีข้อกังวลอย่างไรบ้าง เพราะสภาพภายในพรรคยังไม่มีเอกภาพและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะวาง ม.44 หลังมี ครม.ชุดใหม่ นายอุตตม บอกว่า ปัญหาภายในพรรคจบแล้วและได้สร้างภูมิคุ้มกันให้เราเข้มแข็งขึ้น

อย่ามองปัญหาที่ยุติไปแล้วจะเกิดซ้ำขึ้นมาใหม่ ภายในพรรคสามารถทำงานร่วมกันได้ และพรรคร่วมรัฐบาลก็คุยกันรู้เรื่อง

ฉะนั้นเมื่อฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบ ถือว่าเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย

ขอให้ทำหน้าที่ตรวจสอบเต็มที่ตามกรอบของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ

ยิ่งโลกยุคนี้รัฐบาลต้องเจอการตรวจสอบผ่านโซเชียลมีเดียอีก

ยิ่งถูกตรวจสอบก็ทำให้เราทำงานเข้มข้นขึ้น เพื่อผลักให้นโยบายต่างๆสำเร็จตามเป้าหมาย

ยุคนี้ทำงานสำเร็จไม่พอ โดยเฉพาะผมต้องเน้นการทำงานและการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบเป็นระยะ

หากทำงานแล้วไม่ได้สื่อสารต่อสาธารณะก็อาจจะเกิดความไม่เข้าใจกันได้

ฉะนั้นรัฐบาลต้องเน้นยุทธศาสตร์การสื่อสารถึงการบริหารงานเป็นระยะ

หลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา รัฐบาลเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ต่อสภาผู้แทนราษฎร แต่มีกระแสข่าวรัฐบาลอาจผลักดันกฎหมายนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ เสนอต่อรัฐสภา เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการโหวตยุครัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ นายอุตตม บอกว่า แนวคิดนี้ในพรรคยังไม่เคยมีใครพูด

ส่วนตัวเชื่อว่าจะเสนอร่าง พ.ร.บ.ประมาณฯตามปกติ เข้าสภาวาระ 1 รับหลักการ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาฯ เข้าสู่วาระ 2-3 และเข้าวุฒิสภาพิจารณาต่อ

ขณะนี้หลายฝ่ายเป็นห่วงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณมีโอกาสเลื่อนประกาศใช้ช่วงต้นเดือน ม.ค.63 อาจกระทบต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะงบประมาณใช้แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร นายอุตตม บอกว่า ในฐานะเคยอยู่รัฐบาล ชุดก่อน เข้าใจว่าคงมีงบกลางสำหรับรับมือในส่วนนี้ไปก่อน


เชื่อรัฐบาลใหม่หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะสามารถจัดสรรงบกลางที่เหลืออยู่ เพื่อแก้ไขปัญหาไปก่อน จนประกาศใช้งบประมาณใหม่ เพื่อขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจในภาพรวมทุกมิติ ยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทย

ที่สำคัญรัฐบาล โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ ทำงานเป็นทีมระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เพราะทราบดีว่าเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเศรษฐกิจไปไม่ได้ ย่อมมีผลกระทบต่อรัฐบาลตั้งแต่วันแรก

แต่อีกปัญหาอาจกระทบต่อรัฐบาล คือ คดีเดิมของรัฐมนตรีหลายคนถูกตรวจสอบย้อนหลัง ตรงนี้จะรับมืออย่างไร นายอุตตม บอกว่า เมื่อถูกพาดพิงก็ต้องชี้แจง อย่าไปเสียสมาธิ ต้องมุ่งมั่นทำงานเพื่อชาติต่อไป

คดีปล่อยสินเชื่อกรุงไทยก็ถูกหยิบยกขึ้นมาโจมตี นายอุตตม บอกว่า คดีนี้ในส่วนของผมผ่านกระบวนการตรวจสอบและได้พิสูจน์ชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด โดยคดีสิ้นสุดที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เมื่อไม่ผิดอย่าไปบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อหวังผลทางการเมือง

ในฐานะเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แกนนำจัดตั้งรัฐบาล มียุทธศาสตร์ป้องกันเรือเหล็กเกิดสนิมเนื้อในอย่างไร เพื่อให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำมีเสถียรภาพ นายอุตตม บอกว่า...

...เรือเหล็กมีความเข้มแข็ง แม้มีเสียงปริ่มน้ำก็ต้องระวังสนิม

แต่เรามียากันสนิม ไม่ปล่อยให้เกิดสนิมเนื้อในตามยถากรรม

ทั้งการทำงานในสภาฯต้องประสานอย่างใกล้ชิด

รัฐมนตรีและ ส.ส.ต้องสื่อสารกัน เร่งมือสร้างผลงานรัฐบาล

เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้เรือเหล็กลอยล่องลำนาวาไปได้.


ทีมการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: