PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สุตรผสมช่วยชาวนา

22ส.ค.62 ไทยรัฐ

ความเดือดร้อนของประชาชนอยู่ในพระเนตรพระกรรณตลอดเวลา

ตามภาพข่าวคณะองคมนตรีประกอบด้วย นายพลากร สุวรรณรัฐ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ เข้าประชุมร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและปัญหาภัยแล้ง

โดยปรากฏการณ์สะท้อนการแก้ไขวิกฤติ “น้ำ” ที่เป็นปัญหาซ้ำซากของประเทศไทย

ดินแดนเกษตรกรรม ถูกยกระดับเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่นอกเหนือจากภารกิจของฝ่ายการเมืองโดยลำพัง

นั่นหมายถึงการทำงานอย่างจริงๆจังๆเพื่อเนื้องานบริหารจัดการน้ำที่จับต้องได้มากกว่ารัฐบาลนักการเมืองยุคที่ผ่านๆมาที่แก้ปัญหาแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปเป็นปีๆ

แค่หวังหัก “หัวคิว” ส่วนต่างจากงบฯชดเชยเกษตรกรเป็นฤดูไป

และมาถึงจุดนี้ ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาแบบครึ่งๆกลางๆเท่านั้น สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดการทุจริตคอร์รัปชันซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวบ้านต้องไม่มีแม้แต่บาทเดียว

ขณะที่อีกด้าน ตามฉากประเดิม “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เดินทางเข้าพรรคพลังประชารัฐ จัดพิธีกรรมรับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร.อย่างเป็นทางการ

ประกาศตัวแสดงตนเป็น “นักการเมืองเต็มขั้น” พร้อมปฏิบัติการ “ตีปี๊บ” ทันที จะทำให้ยี่ห้อพลังประชารัฐยิ่งใหญ่ เลือกตั้งรอบต่อไปต้องได้ที่นั่ง ส.ส.ไม่ต่ำกว่าต้นทุนปัจจุบัน 116 ที่นั่ง

“พี่ใหญ่” วางมาด “นักการเมืองอาชีพ” เต็มฟอร์ม

แต่ก่อนหน้านั้นในทางการเมืองก็ถือว่าเสียท่าเสียเหลี่ยมไม่น้อยกับการที่ พล.อ.ประวิตรนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ปล่อยให้ “อู๊ดด้า” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

“มัดคอ” ตีกิน ประกาศประกันรายได้ราคาปาล์ม 4 บาท ครัวเรือนละ 25 ไร่

รวบรัดโชว์เป็นผลงานโบแดงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำได้ตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เร่งจังหวะดึงคะแนนนิยมในปักษ์ใต้ที่ไหลทะรูดทะราดกลับมา

แกนนำรัฐบาลยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” ที่หาเสียงเรื่องปาล์มไว้ได้แต่มองตาปริบๆ

เรื่องของเรื่อง แม้ในมุมการบริหารก็ถือว่าเป็นผลงานรวมของรัฐบาล แต่ในมุมการเมืองตามธรรมชาติของรัฐบาลผสม มันหนีไม่พ้นเรื่องของการขบเหลี่ยมเฉือนคม

เบียดซีนกันดึงคะแนนนิยม รักษาเครดิตที่หาเสียงไว้กับชาวบ้าน

เพื่อผลในการทำแต้มเลือกตั้งรอบต่อไป

ในเมื่อเกษตรกรชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน คือฐานเสียงใหญ่ของประเทศ คะแนนเป็นกอบเป็นกำ

มันก็ไม่แปลกที่จะเกิดคิว “กั๊ก” เหลี่ยมกัน ตามรูปเกมที่ยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” ไม่มีทางยอมปล่อยให้ทีมประชาธิปัตย์ที่คุมทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ตีกิน” แต้มไปเนื้อๆเน้นๆ

แบบที่ฟันประกันราคาปาล์มไปต่อหน้าต่อตา “บิ๊กป้อม”

ล่าสุดตามคิวที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นั่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2562

พร้อมกับพิจารณาโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2562/63

แล้วก็เป็นนายจุรินทร์ที่ให้ข่าวเองว่า นบข.ได้อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และเห็นชอบมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเรื่องของค่าเก็บเกี่ยว และค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว โดยการประกันรายได้ราคาข้าวเปลือก 5 ชนิด อาทิ ข้าวหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละ 14 ตัน

โดยใช้วงเงินงบประมาณ 21,000 ล้านบาทในโครงการข้าวนาปี

รวมกับการช่วยค่าเก็บเกี่ยวหรือสนับสนุนการผลิต 500 บาทต่อไร่ จำนวนครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่

สรุปเป็น “สูตรผสม” ตามรูปเกม “อุลตร้าอุตตม” นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คงงัดวิชากำลังภายใน “บี้” กับทีมประชาธิปัตย์เต็มที่

ในการเบียดแทรกนโยบาย พปชร.เอี่ยวมาตรการช่วยชาวนา

เพราะตอนหาเสียงเลือกตั้งทีมพลังประชารัฐได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำจากชาวนาทั่วประเทศ อย่างที่เห็น 2-3 วันก่อนหน้านี้ ตัวแทนสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยบุกพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหอกทีมยุทธศาสตร์หาเสียงพรรคพลังประชารัฐ

ทวงสัญญา พปชร. ที่หาเสียงเอาไว้ว่า ในรอบการผลิต 1 ปี จะช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว 2,000 บาทต่อไร่ รวมรายละไม่เกิน 20 ไร่ และช่วยเหลือ

ค่าปรับปรุงบำรุงดิน 1,500 บาทต่อไร่ รวมรายละไม่เกิน 20 ไร่

ขืนปล่อยประชาธิปัตย์ตีกิน “ประกันราคา” ไปเพียวๆ เอาเครดิตไปฟื้นแต้มอยู่พรรคเดียว

เลือกตั้งรอบหน้า “พลังประชารัฐ” จะเอาอะไรไปหากิน.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: