PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ยิ่งลักษณ์: พร้อมคุยหาข้อสรุปทุกฝ่าย คืนอำนาจ ทำได้หรือไม่ ?

วันที่ 02 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19:07:02 น.-มติชน
 
 นายกรัฐมนตรีแถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุม เรียกร้องทุกกลุ่มหารือเพื่อทางออกของประเทศ ระบุเปิดรับทุกข้อเสนอที่อยู่ภายใต้กฎหมาย เผยไม่ยึดติดทั้งการลาออก ยุบสภา ถ้าเป็นคำตอบที่ผู้ชุมนุมจะสงบ และกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แจงมีความจำเป็นต้องปกป้องสถานที่ราชการไว้บริการประชาชนทั้งประเทศ 

 วันนี้ (2 ธ.ค.56) เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมในขณะนี้ว่า ต้องเรียนว่าในทางออกของประเทศจะมีผู้ที่เรียกร้องหลายแนวทางไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยุบสภา ลาออก และล่าสุดที่ทาง กปปส. เรียกร้องคือการคืนอำนาจ ซึ่งต้องขออนุญาตเรียนชี้แจงว่า มีความหมายที่แตกต่างกัน ยุบสภา พี่น้องประชาชนคงทราบแนวทาง ส่วนการลาออกคือขั้นตอนที่มีกระบวนการที่มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ทั้งสองแนวทางคือยุบสภาและการลาออกนั้น อยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่มีกฎหมายรองรับ

แต่คำว่า"คืนอำนาจ"นั้นเรียนว่า ในส่วนที่ได้รับฟังข้อเสนอของผู้ชุมนุมก็ต้องกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า ในส่วนของรัฐบาลนั้นไม่ได้มีการยึดติดใด ๆ อะไรที่เราก้าวไปสู่หนทางในการที่จะหารือเพื่อให้เกิดความสงบในประเทศนั้นเรายินดีอยู่แล้ว และสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องในเรื่องของการคืนอำนาจนั้นต้องเรียนว่า การคืนอำนาจนี้ในส่วนของการที่จะมองวิธีการแก้ปัญหานั้นเรายังมองไม่เห็นทางในเรื่องของภายใต้ข้อกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญที่จะรองรับ เพราะเป็นการคืนอำนาจเข้าสู่ประชาชน และประชาชนก็เข้ามาบริหารประเทศ รวมถึงการร่างกฎหมาย มาตรากฎหมายใหม่ ซึ่งในส่วนนี้เรายังมองไม่เห็นกระบวนการในการรองรับของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ได้เรียนผ่านนายสุเทพไป

“จริง ๆ แล้วต้องเรียนว่าเมื่อคืนนี้เป็นการร้องขอ ดิฉันเองได้ร้องขอทางด้านของผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้หารือเพื่อเราอยากจะเห็นแนวทางในการพูดคุยกัน เราเชื่อว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน ถ้าเราหารือด้วยกันเราอาจจะมีโอกาสในการที่จะพูดจากัน ก็ได้รับทราบข้อเสนอมาแล้ว อย่างที่เรียนว่าคำว่าคืนอำนาจ ในส่วนนี้คือผู้เรียกร้องไม่ต้องการที่บอกว่าเลยไปในส่วนของการลาออกหรือการยุบสภา” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ต้องเรียนว่าดิฉันจะไม่ทำตัวให้เป็นเงื่อนไข และไม่ทำตัวให้เป็นปัญหากับพี่น้องประชาชน ถ้าอะไรที่ดิฉันจะทำให้พี่น้องประชาชนมีความสงบสุขคืนมา ดิฉันยินดีค่ะ แต่ต้องขอความกรุณาว่า ในส่วนของนายกรัฐมนตรีนั้นที่ทำได้คือการทำภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นใจดิฉันเถอะค่ะว่าในส่วนของการเรียกร้องของผู้ชุมนุมนั้น เราไม่รู้จะเอาข้อกฎหมายข้อไหนมารองรับ ดังนั้นจึงขอถือโอกาสนี้เรียกร้องพี่น้องประชาชนทุกคน เรียกร้องทุกคนทุกกลุ่ม ในการหารือเพื่อทางออกของประเทศ รัฐบาลไม่มีทิฐิ รัฐบาลไม่มีสิ่งที่จะต้องมายึดเหนี่ยวในเรื่องของอำนาจ แต่อยากเห็นความสงบของประชาชนค่ะ”

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการวางบทบาทของกองทัพว่า กองทัพได้วางบทบาทในฐานะที่เป็นกลาง และเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่อยากเห็นความสงบ ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีเองไม่ยึดติดทั้งเรื่องของการลาออก หรือยุบสภา ถ้าคำตอบนั้นเป็นคำตอบที่ผู้ชุมนุมจะสงบ และกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่วันนี้สิ่งที่ได้รับการยื่นมาคือการคืนอำนาจ ซึ่งในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญนี้ในข้อกฎหมายยังไม่มีอำนาจในข้อระเบียบนี้ ในการรองรับ ต้องไปหารือกัน จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ที่มีความรู้เรื่องข้อกฎหมายต่าง ๆ หารือทางออก และวันนี้เรียนว่ารัฐบาลยังเปิดทุกออพชั่นในการที่จะหารือเพื่อให้เกิดความสงบต่อไป

“วันนี้รัฐบาลได้เสนอทุกอย่างแล้ว ในทุกทาง ต้องเรียนว่าเราอยากเห็นทางออก ต้องขอว่าทางไหนที่จะเป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่ ก็คงต้องมีวิธีทางหรือวิถีทางที่จะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกกลุ่ม ถ้าอะไรที่เป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ และอะไรที่ทำให้ประเทศสงบได้ ดิฉันก็ยินดีค่ะ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า วันนี้สถานที่ราชการยังเปิดอยู่ และข้าราชการทุกคนภายใต้หน้าที่ที่จะต้องดูแลบริหารประเทศและการบริการให้กับประชาชนยังคงต้องทำงานอยู่ วันนี้ไม่ได้ปิด แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องสถานที่บ้าง ก็ขอให้กระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หาสถานที่เพื่อที่จะบริการพี่น้องประชาชนเพื่อไม่ให้การบริการต่าง ๆ ติดขัดขาดความต่อเนื่อง อาจจะมีปัญหาเรื่องสถานที่บ้างแต่งานทุกอย่างก็ได้ดำเนินไป สำหรับผลกระทบนั้นรัฐบาลมีความเป็นห่วงสถานการณ์ อยากขอร้องทุกฝ่าย ซึ่งรัฐบาลได้พยายามดูแลความมั่นคง จึงขอความร่วมมือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ใช้กำลังรุนแรงกับพี่น้องประชาชน เรามีความจำเป็นต้องปกป้องสถานที่ราชการเพราะสถานที่ราชการต่าง ๆ ต้องมีไว้บริการพี่น้องประชาชน 60 กว่าล้านคน

ขอความกรุณาในการอย่าปิดสถานที่ราชการเลย ขอให้ราชการได้ทำงาน วันนี้ข้าราชการไม่ได้เลือกข้างไหน แต่ข้าราชการทุกคนพึงที่จะต้องทำหน้าที่ของตนเองเพื่อบริการพี่น้องประชาชน

“ดิฉันยังยืนยันว่า ภาพประวัติศาสตร์เก่าที่พี่น้องประชาชนต้องเจ็บปวด ต้องสูญเสียเลือดเนื้อ ต้องเสียชีวิต ดิฉันเชื่อว่าภาพนี้ไม่มีใครอยากให้เห็นค่ะ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงข้อเรียกร้องของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรภายใต้ข้อกฎหมายหรือระเบียบในเรื่องของรัฐธรรมนูญที่ร้องรับ และยืนยันว่ายังเปิดทุกทางที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน และเปิดทุกเวลาในการที่จะหารือและเจรจา

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีจะบอกกับคนที่เลือกนายกรัฐมนตรีมาอย่างไร ถ้านายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ อย่างที่ได้เรียนว่าอะไรที่เป็นความสุขของคนทั้งประเทศนั่นคือเสียงส่วนใหญ่ของพี่น้องประชาชน ฉะนั้นก็ต้องมีขั้นตอนในการที่จะรับฟังความคิดเห็นว่าข้อเสนอเรียกร้องนั้นพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยและบ้านเมืองกลับสู่ความสงบ ดิฉันยินดีค่ะ”

นายกรัฐมนตรียังได้ตอบข้อซักถามของสื่อต่างชาติด้วยว่า ข้อเรียกร้องของ กปปส. ไม่สามารถทำได้ และการควบคุมมวลชน เจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้ความรุนแรง โดยขอให้ต่างชาติมั่นใจว่า จะไม่เกิดความรุนแรงอย่างในอดีต

“ รัฐบาลได้ขอให้กองทัพเข้ามาให้ความช่วยเหลือและให้การสนับสนุนรัฐบาล เพื่อการเปิดการเจรจากับฝ่ายของคุณสุเทพ ซึ่งเมื่อคืนนี้ดิฉันได้พบและรับฟังข้อเรียกร้องของทางคุณสุเทพ ทำให้ทราบว่าเงื่อนไขที่คุณสุเทพต้องการไม่ใช่การลาออกและการยุบสภา แต่ต้องการให้ดิฉันคืนอำนาจนายกรัฐมนตรีให้แก่ประชาชน ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีกฎหมายใหม่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เป็นไปตาม
กฎหมายรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของคุณสุเทพ แต่สิ่งที่คุณสุเทพเรียกร้อง รัฐบาลไม่ทราบว่าจะดำเนินการได้อย่างไร ดังนั้นรัฐบาลจึงเปิดรับข้อคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้มีการ
เจรจา และเพื่อความสงบสุขแก่ประชาชนไทย

เรามีความห่วงกังวลชาวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยว เหมือนกับที่รัฐบาลห่วงประชาชนไทย รัฐบาลใช้ความอดทน และอดกลั้น รวมถึงการไม่ใช้กำลังความรุนแรงในสถานการณ์ต่าง ๆ สิ่งที่รัฐบาลทำเป็นเพียงการป้องกัน และขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา และรัฐบาลพร้อมที่จะให้มีการเจรจา” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า อยากขอเรียกร้องทุกกลุ่มให้ช่วยหาทางออกด้วย เพราะรัฐบาลเต็มใจที่จะพูดคุยกัน เพราะเรายังมองหาทางออกไม่เจอในส่วนของการที่จะแก้ปัญหานี้ภายใต้ข้อกฎหมายหรือระเบียบต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งรัฐธรรมนูญที่รองรับ

ไม่มีความคิดเห็น: