บทบรรณาธิการของ Washington Post บอกว่า ถ้ามีการทำรัฐประหารไม่ว่าจะด้วยรถถังหรือนกหวีด รัฐบาลสหรัฐฯ จะต้องมีมาตรการตอบโต้แน่นอน รวมทั้งการตัดความช่วยเหลือผ่าน USAID (เอ็นจีโอหลายแห่งเตรียมตัวนะครับ) เขาบอกโดยสังเขปว่า
โชคร้ายที่การเดินขบวนต่อต้านประชาธิปไตยกำลังเป็นความนิยมในบรรดาประเทศกำลังพัฒนา เพราะบรรดาขุนนางอำมาตย์ต่างหวาดกลัวพลังจากการเลือกตั้ง เช่นเดียวกับม็อบในเมืองไทยที่กำลังสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาpในกทม. โดยหวังว่าให้ทหารเข้ามาแทรกแซงเพื่อโค่นล้มรัฐบาล หลายปีก่อนก็ใช้กลไกศาลซึ่งมีคำวินิจฉัยที่น่ากังขา เพื่อกำจัดรัฐบาลในร่างทรงทักษิณมาแล้วสองชุด
ที่น่าขันก็คือ พรรคประชาธิปัตย์กลับสนับสนุนการทำรัฐประหารเงียบครั้งนี้ ปัญหาของพรรคนี้คือ ไม่เคยชนะการเลือกตั้งมาเลยตั้งแต่ปี 2544 ตอนที่พรรคทักษิณได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกอย่างถล่มทลาย โดยเป็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมด้วย และในขณะที่รัฐบาลทักษิณชุดต่อ ๆ มามีวุฒิภาวะมากขึ้น เข้าถึงประชาชนมากขึ้น แต่พรรคฝ่ายค้านกลับยิ่งกลายเป็นพวกสุดโต่ง (radical) มากขึ้น จนถึงขั้นสนับสนุนคณะบุคคลจากคนส่วนน้อย เพื่อแทนที่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง และขับไล่ทักษิณและตระกูลออกจากการเมือง
Washington Post เชื่อว่าถ้าเกิดการทำรัฐประหารขึ้นมา ไทยจะต้องเจอกับแรงต่อต้านจากรัฐบาลสหรัฐฯ แน่นอน เพราะตามกฎหมายสหรัฐฯ (มาตรา 508 Foreign Assistance Act) กรณีที่ประเทศใดเปลี่ยนรัฐบาลด้วยการทำรัฐประหาร รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องตัดความสัมพันธ์ (cutoff) ตัดความช่วยเหลือใด ๆ กับประเทศนั้น กรณีอียิปต์ที่มีการทำรัฐประหาร แต่ไม่ถูกแซงชัน ถือเป็นข้อยกเว้น
สรุปว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารแบบโฉ่งฉ่างหรือเงียบฉี่ ไทยเสี่ยงจะถูกตัดความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ แน่นอน แต่ถึงไม่เป็นอย่างนั้น Washing Post เตือนผู้ชุมนุมต่อต้านประชาธิปไตยว่าอย่าลำพองใจเกินไป เพราไม่มีประเทศไหนหลุดพ้นวงจรความรุนแรงได้หลังการทำรัฐประหาร ดูอียิปต์เป็นตัวอย่าง เอวังฯ #bkkshutdown
http://www.washingtonpost.com/opinions/thailands-anti-democracy-protests-merit-a-rebuke-from-the-us/2014/01/15/ca2205a8-7e1b-11e3-95c6-0a7aa80874bc_story.html
Foreign Assistance Act http://www.usaid.gov/ads/policy/faa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น