PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

เสธน้ำเงิน : แฉ..ลั่นกลองรบ จากแก้ว 3 ประการ..กลายเป็นแก้ว 3 พิการ

10 มี.ค.57 แฉ..ลั่นกลองรบ จากแก้ว 3 ประการ..กลายเป็นแก้ว 3 พิการ

อาการดิ้นพล่านของแก๊งค์อั้งยี่แดง ที่งัดสารพัดแผนชั่วใต้ดิน มาก่อการร้ายสากลป่วนการชุมนุมของมวลชน กปปส.นั้น ถูกจับตาติดตามไม่กระพริบมาตลอดจากกองทัพ เบื้องหลังการย้ายผู้ชุมนุมไปรวมอยู่สวนลุมฯ จุดเดียวนั้น เป็นเพราะบิ๊กสีเขียวแจ้งไปยังกำนันว่า ได้มีการจับกุมอาวุธสงคราม ระเบิด ปืน ของกลุ่มกองกำลังแก๊งค์อั้งยี่แดง ในทางการข่าวความมั่นคงจะมีการก่อเหตุเข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุมในช่วง 26 ก.พ - 4 มี.ค.57

จึงขอให้กำนันย้ายรวมมวลชนไปอยู่จุดเดียว เพื่อที่ชายชุดเขียวในเครื่องแบบ จะเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยได้ง่าย..การหารือลับกันครั้งนั้นมีอับดุล อยู่ในวงหารือด้วย พร้อมรับประกันความปลอดภัยมวลชน กปปส.จุดสวนลุม ต่อมากำนันจึงดำเนินการตามแผนดังกล่าว..จนมีการเสริมกำลังชายชุดเขียว เป็นตาข่ายใบแมงมุมพรึบเป็น 176 จุด กำลังพลเรือนหมื่นนั้นเอง..จนสถานการณ์ถูกควบคุมได้จนถึงวันนี้ จึงมาบอกทุยแดง เพื่อให้ดิ้นพราดๆๆ อีกรอบ..ฮา โดนลับ ลวง พราง เสียท่าไปอีกแล้ว!!

สิ่งที่แกนนำเสื้อแดง และบริษัทเผาไทย ก่อความรุนแรงมาทั้งหมด คืออาการหมาขี้เรื้อนจนตรอกนั่นเอง เพราะฝ่ายของเขากำลังจะแพ้ในทุกแนวรบ ยิ่งทำก็ยิ่งก็ย้อนเข้าหาตัวเองทั้งหมด ยิ่งทำมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการเปิดเผยตัวเท่านั้น เหมือนแย้ถูกอัดลมลงรู จนต้องออกมาทางปล่องลับ ความลับปริศนาดำมืดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทยทั้งประเทศเห็นกำพืด รู้ความจริงจนหมดสิ้น

ประเด็นใหญ่ที่สุดเรื่องการจุดกระแสแยกประเทศ ติดป้ายไปในหลายจุด ถูกตีโต้สวนกลับจากประชาชนทุกจังหวัด ฉีกทำลายป้ายแยกประเทศจนเละทะ เอาไปห่อขี้ควาย แล้วขึ้นป้ายใหม่ที่ต่อต้านการแบ่งแยกประเทศ ต่อต้านแก๊งค์อั้งยี่แดงแทน จนลุกลามเป็นไฟลามทุ่งไปอย่างรวดเร็ว พรึบทุกมุมเมือง ทุกจังหวัด แล้วต่อมาก็ถูกกองทัพจัดหนักอัดยาแรง ด้วยข้อหากบฏแบ่งแยกดินแดน และหมิ่นเบื้องสูงเข้าให้ ที่มีโทษถึงประหาร และจำคุกตลอดชีวิต จนต้องถอยกรูดๆ กระโดดหนีกันเป็นกบอย่างหนัก เหมือนถูกสาดน้ำร้อนเข้าใส่ตัวจังๆ

เกิดกระแสตีกลับของมีประชาชน อย่างหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ย้ายถ่ายเทมวลชนเสื้อแดงตาสว่าง และรากหญ้า โอนมาให้ กปปส.ตลอดเวลา เงียบๆ ที่ละน้อย ข่าวสารความชั่วของแก๊งค์ยั้งยี่แดง และความเดือดร้อนจากการชักดาบโกงเงินค่าจำนำข้าวชาวนาหลายล้านคน สะพัดไปทั่วประเทศ บ่อนทำลายฐานเสียง กระแสความนิยมชมชอบ..ตกต่ำแบบ..สุดๆๆ ลงลึกไปถึงรากหญ้าอย่างรวดเร็ว อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน..มันการสัญญาณการล่มสลายของบริษัทเผาไทยนั่นเอง !!

1. ต่อมาเกิดการทะเลาะเบาะแว้งแตกคอกันเละ ภายในบริษัทเผาไทย กับแก๊งค์เลวแล้วรวย นปช.อย่างหนัก เพราะบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่ ซึมซับความรู้สึกประชาชนรากหญ้า และชาวนา ในจังหวัดตนเองได้ ว่าลางหายนะสูญพันธ์มาเยือนแล้ว ต้องปรับแผนกันจ้าละหวั่นเป็น “แบ่งกันตี รวมกันโกง “ โดย

1.1. คอมมิวนิสต์กลายพันธ์ นปช.แดง..รับงานด้านการจัดอีเว้นท์ชุมนุมตามภาคอีสาน เหนือ และต่อไปจะมาภาคกลาง
1.2. แรมบ้า..รับงานด้านสมัครการ์ดแบ่งแยกดินแดน อพปช. แมงโม้ปลิวว่อน เพื่อสร้างราคาค่าตัวและเงินทุน
1.3. บริษัทเผาไทย..ปรับโครงสร้างใหม่ ยกเลิกคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เป็นคณะกรรมการประสานภารกิจ เพื่อหลอกผู้สมัคร ส.ส.ต่อ
1.4. กองกำลังก่อการร้ายสากล และชายชุดดำฝ่ายชั่ว..หาช่องลอบกัดป่วนสถานที่ บุคคลสำคัญ และมวลชน กปปส. และโจมตีก่อกวน กลั่นแกล้ง ผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ

2. ส่วนการระดมมวลชนเสื้อแดงต่างๆ นั้น ไอ้ที่จะมาเองด้วยอุดมการณ์นั้นไม่มีแล้ว ต้องใช้เงินจ้าง และอมหัวคิวกันทุกระดับ มีค่าใช้จ่ายปกป้องประชาธิปไตย กันจนน้ำลายไหล เช่น

2.1. การชุมนุมคนเสื้อแดงโคราช ขอเงินแก๊งค์อั้งยี่แดง จำนวน 65 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อมาขับไล่ 9 เปาบุ้นจิ้น รธน.และองค์กรอิสระ โดยขอยอดเงินนี้โดยตรง ไม่ต้องผ่านแกนนำแดงส่วนกลาง ดังนี้
- ค่าจ้างมาชุมนุม คนละ 300 บาท/วัน = รวมเป็น 45 ล้านบาท
- ค่าจ้างการ์ด คนละ 750 บาท/วัน = 5.85 ล้านบาท
- ค่าจ้างชายชุดดำควบคุมฝูงชน คนละ 1,000 บาท/ต่อวัน = 1.2 ล้านบาท
- ค่าจ้างฝ่ายยุทธการ คนละ 1,500 บาท/วัน = 2.25 ล้านบาท
- ค่าจ้างยานพาหนะ 4 คัน ค่าติดต่อ = 200,000 บาท
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม 3 มื้อ วันละ 3,500 ต่อคน = 1.26 ล้านบาท
- ค่ายานพาหนะ 200 เที่ยวไป-กลับกรุงเทพ ( รถบัส) และ ค่ารักษา

2.2. การระดมคนเสื้อแดง ณ ลานจอดรถ บขส.ขอนแก่น ดังนี้
- แกนนำระดับอำเภอ คนละ 1,000 บาท/วัน
- แกนนำระดับหมู่บ้าน คนละ 500 บาท/วัน
- ชุมนุม คนละ 100 บาท/วัน
- ค่าจ้างรถสองแถวขนคน คันละ 3,500 บาท ( ต้องขนคนมาร่วม คันละ 10 คน)

2.3. การสมัครเป็นการ์ดกองโจรแบ่งแยกดินแดน อพปช.ของแรมบ้า
- มาลงชื่อรับค่าจ้าง คนละ 200 บาท และแจกเสื้อผ้าดำ 1 ชุด แล้วไปรับเงินจากหัวหน้าสายที่พามา เพื่อปกปิดไม่ให้ใครเห็นว่ามีการจ่ายเงินกัน
- วีธีการระดมคน มามีขั้นตอนดังนี้ รก.รมต.คลองหลอด สั่งการด้วยวาจาไปที่ผู้ว่าฯ , ผู้ว่าฯ สั่งนายอำเภอ , นายอำเภอสั่ง อบต. และกำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน ให้เกณฑ์คนไปลงชื่อสมัครฯ แต่มีคนยอมมาน้อยมาก เพราะคนที่มาสมัครก็จะต้องโดนข้อหากบฏ ติดคุกติดตะรางแน่ๆ คนที่มาก็เพราะไม่รู้ข่าวสาร มีแต่คนแก่หัวหงอก หงำเหงือก ต้องพกถุงยาความดันกันมาทุกคน

** หมายเหตุ อัตรานี้แกนนำจะได้หัวคิวที่ไม่ได้รวมในยอดนี้อีก 75-80 %

ส่วนการชุมนุมเสื้อแดงลั่นกลองรบ 17 จังหวัด ภาคเหนือ ที่เชียงใหม่ที่ผ่านมานั้น ได้เล่าค่าใช้จ่ายให้ฟังแล้ว แต่ก็ได้คนมาร่วมแค่คนเฒ่า คนแก่ และเด็ก มานั่งระเกะระกะ พอเป็นพิธีได้แค่ 2 -3 ชั่วโมง แล้วก็แยกย้ายกันหนีกลับบ้าน..จนถึงช่วง 2-3ทุ่ม สนามกลายเป็นป่าช้า คนโหรงเหรง บรรยากาศวังเวง โหยหวนชวนขนลุก เหมือนโดนผีหลอก !!

กระแสคนเสื้อแดง มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ชาวบ้านเขารู้ทันหมด เขาไม่ช่วยเหลือคนโกง หมิ่นศาล หมิ่นเจ้า ชาวบ้านเขารู้ เขาเห็น เขาเอือมระอาในพฤติกรรมสันดานพวกนี้กันทั้งนั้น ไอ้ที่ข่มขู่ว่าถ้าปูเน่าแพ้คดี จะแบ่งแยกดินแดน ใครๆ ก็ส่ายหน้าไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย สร้างความโกรธแค้น และเกลียดชัง แก๊งค์แดงให้ประชาชนหนักเข้าไปอีก..สปป.ล้านนา ใครจะบ้าไปอยู่กับพวกมัน..อดตาย ยากจนทั้งประเทศแน่ !!

จากแก้ว 3 ประการ..กลายเป็นแก้ว 3 พิการ.. คือ บริษัทเผาไทยก็เดี้ยง, ฐานเสียงมวลชนก็เดี้ยง, กองกำลังติดอาวุธก็เดี้ยง (เจอสันติอหิงสวน)..ตอนนี้แม้แต่ นปช.พวกเดียวกันยังสมเพชเวทนาแรมบ้า อย่างโหวงเหวง ยังชิงออกตัวว่างานนี้ นปช.ไม่เกี่ยวนะ บริษัทเผาไทย ยามนี้จึงเป็นการสร้างภาพข้างนอกสดใส แต่ข้างในเป็นโพรง ที่ใครๆ ก็รู้ว่าหมดสภาพ เป็นของหมดอายุรอเปาบุ้นจิ้น และ ปปช. จำหน่ายทิ้ง ฝังกลบซากศพที่เคยรุ่งเรือง

3. แก๊งค์อั้งยี่แดง จึงเร่งดำเนินการวิชามาร เก่าๆ เดิมๆ คือ
- ทางแรก..ส่งลูกสมุนนักเลงอันธพาล ออกมาข่มขู่ โวกเวก โวยวาย รังควาญ แกล้งผู้ป่วยตามโรงพยาบาล สาธารณสุขไปทั่ว ไม่ยอมรับผลการตัดสินของกระบวนการยุติธรรม..ลอบก่อการร้ายสากล
- ทางสอง..ขับไล่ไสส่ง ยั่วยุ ท้าตีท้าต่อย ดูถูกดูหมิ่นเกียรติยศศักดิ์ศรีของชายชุดเขียว
- ทางสาม..หมิ่นสถาบัน จุดกระแสเรื่อง ไพร่ ฝ่ายอำมาตย์ อีกครั้ง
- ทางที่สี่..สร้างสงครามข่าวสาร ดิสเครดิต ใส่ร้าย ป้ายสี ยุแหย่ ฝ่ายมวลชน กปปส. หรือ ฝ่ายชายชุดเขียวให้เสียหาย หรือแตกคอกัน หวังให้อ่อนกำลัง..เช่น ส่งคนของภูมิธรรมมาผสมเป็นแกนนำในมวลชน ยุแยง นำสารพัดเรื่องมาอ้างโจมตี เช่น โจมตีชายชุดเขียว, ปฏิรูปพลังงาน เงินบริจาค เป็นต้น , ให้สื่อแดง และ Social Network แดง แต่แอ๊บแสร้งเป็น กปปส.ยุให้เวที กปปส.- พธม.ให้แตกกันว่าเวทีใหญ่ไม่พูดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ฯลฯ เป็นวิธีที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ใช้มานานแล้ว..ตามยุทธศาสตร์ของแก๊งเลวแล้วรวย
- ทางที่ห้า..ให้ปูเน่า กดดันชายชุดเขียว ชายชุดดำ แต่ก็ไม่มีคนสนใจฟัง
- ทางที่หก..ให้หญิงกระบังลม, เจ๊ ด.แดกข้าว, ชายตู้เย็น วิ่งหาคนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ย ติดสินบน ล๊อบบี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เจรจากับทางบิ๊กชาย 3 สี , เลียบๆ เคียงเข้าหากำนัน พยายามยื่นข้อเสนอแปลกๆ พิลึกพิลั่น

4. ให้คำแนะนำหลักคิดง่ายๆ แก้เกมส์สงครามข่าวสารคอมมิวนิสต์กลายพันธุ์ ดังนี้
4.1.เวที กปปส.แต่ละแห่งมีจุดประสงค์เฉพาะอยู่แล้ว ทุกเวที ไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่อง (เหมือนครอบครัวเดียวกันแต่ลูกหลายคน ไปเปิดร้านขายโทรศัพท์, เครื่องสำอาง, อาวุธปืน, ก๋วยเตี๋ยว แต่และร้านมีเป้าหมายเดียวกันคือรายได้เข้าบ้าน แต่ชำนาญไปคนละแบบ) เช่น เวทีสวนลุม-ปฏิรูปการเมือง-สังคม-โครงสร้างอำนาจรัฐ, เวทีแจ้งวัฒนะ-เน้นเรื่องพลังงาน-ชาวนา-ความยุติธรรม, เวที คปท.พธม.-พลังงาน-ความเป็นธรรม, เวทีกระทรวงคลองหลอด-แรงงาน
4.2. จะให้พูดมันมั่วทุกเรื่องเหมือนเวทีเสื้อแดง-สปป.ล้านนา-แบ่งแยกประเทศ-อาวุธ 10 ล้านกระบอก-ก่อสงครามกลางเมือง-หมิ่นเจ้า-ด่าศาล-ว่าองค์กรอิสระ-ท้าทหาร-สะใจฆ่าเด็ก ฯลฯ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะมวลมหาประชาชนเขากินข้าวจึงฉลาด ไม่เหมือนทุยแดงที่กินแต่ฟางข้าวไร้วิตามินสมอง..
4.3. ช่วงนี้จึงพบใส้ศึก แฝงตัวมายุแหย่เรื่องนี้ไปทั่ว เพื่อให้แตกสามัคคีกัน เหมือนคราพม่าตีกรุงศรีอยุธยาไม่ได้ ก็ใช้ใส้ศึกในเมืองจนกรุงแตก หรืออดีตเมืองล้านนา ที่พระนางมหาเทวีจิรประภา ที่เคยหลอกลวงสมเด็จพระชัยราชาว่ามีความภักดีต่ออโยธยา แล้วก็วางแผนคิดคดเป็นกบฏต่ออโยธยา สุดท้ายถูกจับได้ก็ถูกปราบกบฏประหารตัดหัวจนหมดสิ้น!!..บทเรียนในอดีตต้องเรียนรู้
4.4. ยามนี้แหละพิสูจน์มิตร หรือศรัตรูได้ดีที่สุด " ในยามศึกช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ศรัตรูมักจะเผลอแสดงตนออกมา “ สหายร่วมรบจะไม่หันมาแว้งกัดกันเอง วิธีการดูง่ายๆ ก็คือ ใครมั่นคงในจุดยืน คงเส้นคงวา “ในเป้าหมายหลักปัจจุบัน “ คือของจริง เวลาเปลี่ยน อุดมการณ์ต้องไม่เปลี่ยน ว่างั้นเถอะ
4.5. ก็ไฟมันไหม้บ้าน ก็ต้องดับไฟก่อนค่อย จะให้มามัวคิดแบบบ้านทำไม แล้วเมื่อไรจะดับไฟได้..ก็ตอนนี้มันสงครามรบ ต้องเอาคนชั่วออกไปก่อน แล้วประหารในข้อหากบฏ หรือขังคุก ไม่ใช่ยามบ้านเมืองปกติ..ถ้าแปรเปลี่ยนเป้าหมายปัจุบันไป-มา หรืออ้างชื่อคนอื่น ที่เขาไม่ได้ยินยอม ประชาชนก็ต้องคิดพิจารณาด้วยปัญญา

5. ยกตัวอย่างที่แก๊งค์อั้งยี่แดง ลงมือก่อการร้ายสากล หรือทำให้ประชาชนสับสน โฆษณาชวนเชื่อ และทำการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน เช่น
5.1. หลอกใช้ให้โกเต็ก ทำท่าทีเหิมเกริม ยั่วยุ ท้าชนกับชายชุดเขียว ออกข่าวทุกวันทุกช่องทาง ว่าถ้ามันโดนฆ่าตายก็เป็นฝีมือชายชุดเขียว การข่าวจากผู้ร่วมประชุมคือชายดูไบ ก็จะส่งสมุนตนเองไปเก็บโกเต็กให้ตาย เพื่อใช้ยั่วยุให้คนเสื้อแดงตกมัน เอาศพโกเต็กมาแห่ เป็นเครื่องมืออ้างก่อสงครามกลางเมือง ยั่วยุให้ชาย 3 สีทำการปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อล้มกระดานคดีความค้างเก่า..เอาหัวโกเต็กมาสังเวย เป็นเหยื่อกระสุนพวกเดียวกันเองว่างั้นเถอะ!!

5.2. ยิงเอ็ม 79 ลงใกล้บ้านเมียกำนัน ย่านพุทธมณฑล ห่างรั้วคอนกรีตบ้านประมาณ 30 เมตร จำนวน 2 ลูก แต่ไม่ทำงาน และ จนท.ได้ทำลายไปแล้ว

5.3. ให้หน่วยงานราชการที่ถูก กปปส.ปิด ข้าราชการนับพันคน มาเช่าในตึกบริษัทเผาไทย ทำงาน แต่ชั้น 15 มีการแอบตั้งหน่วยงานทำธุรกรรมแฝงการฟอกเงิน โอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่นี่ด้วย รวมทั้งมีการเปิดบริษัทขายเห็ด อาหารเสริมบังหน้า เพื่อการฟอกเงิน

5.4. เป็ดเหลิม หลังจากกลับจากสิงคโปร์ และมาเลย์ฯ ต้องการสร้างผลงาน หาทางให้ชายชุดเขียวเอาบังเกอร์ออก เพราะใช้อาวุธวิถีโค้งโจมตีมวลชน กปปส.ไม่ได้เลย โดยให้
- มีวันนี้เพราะพี่ให้ และ สน.ลุมพินี จับชายชุดเขียว 2 นายนอกเวลาราชการ พร้อมอาวุธปืนสงคราม M-16 ลูกกระสุน 1,976 นัด ปืนพกสั้น 11 มม. 1 กระบอก แก๊สน้ำตา 2 ลูก และแม็กบรรจุกระสุนปืน แบบสั้นและยาว..แต่ทั้ง 2 นายไม่ได้เกี่ยวกับมวลชน กปปส.แต่อย่างใด แต่เขาเคยเป็นการ์ดนักการเมืองท้องถิ่น พรรคแดง โดยลูกยอดเป็ดเหลิม วางแผน และจ้ดหาอาวุธให้ ขนมาจากอุบล บังคับให้ 2 คนมาเป็นเหยื่อล่อ ให้ชายชุดดำจับ จะได้กระหน่ำโจมตีว่าชายชุดเขียวช่วย กปปส. ต้องถอนบังเกอร์ออกไปให้หมดนะ
- บริษัทเผาไทยวางแผนให้ยกเลิกประกาศ พรก.ฉุกเฉินฯ อ้างว่าสถานการณ์ดีขึ้น แล้วให้หุ่นเชิดปูเน่า สั่งถอนกำลังพลชายชุดเขียว ออกจากรอบพื้นที่การชุมนุม กลับเข้ากรมกอง แล้วสลับฉากให้ชายชุดดำฝ่ายชั่ว เข้าปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบรอบพื้นที่แทน
- พอชายชุดเขียวกลับไปแล้ว ก็ให้ชายชุดดำฝ่ายชั่ว และกองกำลังติดอาวุธก่อการร้ายสากล ของรัฐอั้งยี่แดง โจมตีผู้ชุมนุมต่อเหมือนเดิม
- ใช้คอนโดฯ ที่กำลังก่อสร้างของตระกูลจึงรุ่ง..หุ้นกับชายดูไบ ที่ตรงข้ามตึกที่การบริษัทเผาไทย และที่ตึกชิน 3 เป็นที่รวมพลหลัก และอาวุธ โดยโจรก่อการร้ายต่างชาติ , ของ บ.น้ำมัน , และกองกำลังรับจ้างอดีตทหารพราน ทีมละ 16 ล้านบาทต่อวัน
- ส่วนกองกำลังนักเลงหัวไม้อันธพาล เช่น แก๊งปทุม นนท์ เมืองทอง ตลาดไท กาละแม สมุทรปราการ ก็ลอบเข้ามาโจมตีฉาบฉวย เสริมเป็นครั้งคราว

** เอ..พ่อค้าปีอบคอร์น คงต้องขึ้นไปขยายกิจการ บนคอนโด อมันตา ของลุมพินี บ้างซะมั้ง ที่นั่นลูกเป็ดเหลิม ให้เอาอาวุธสงครามไปส่งไม่ใช่เหรอ..แน่บ..ฮา รู้ทันอีกแล้ว

เสธ คิดว่าชายชุดเขียว คงต้องทำตามที่ปูเน่าสั่งถอนกำลังพลแน่..แต่ๆ อาจถอนเอากำลังชุดเก่าไปราว 8,500 คน กลับไปพักดื่มกาแฟ ปลูกข้าวโพดต้นใหม่บ้างสักหน่อย แล้วขนเอากำลังพลชุดใหม่ที่ฝึกมาหมาดๆ ฟิตเปรี๊ยะ พร้อมรถคั่วข้าวโพด รถไอติมหุ้มเกราะ จากต่างจังหวัด เข้ามาทดแทน หรืออาจถอนบังเกอร์ไป 179 จุด แล้วเอาเข้ามาเพิ่มใหม่อีกเป็น 250 จุด..

พระราชดำรัส บางช่วงของพ่อหลวง ให้สัมภาษณ์กับ BBC เมื่อ 30 ปีที่แล้ว.." เวลาทหารถือปืนเขามักมุ่งที่จะยิงศัตรู แต่ถ้าทหารถือปืนเพื่อปกป้องประเทศชาติ ไม่ถือว่าเขาทำผิดต่อคำสอนของศาสนา ถ้าศัตรูมาถึงทหารก็ต้องยิง เพราะมีเจตนาที่จะปกป้องศาสนาและประเทศชาติ "

นายกเทียมหมดอายุ หมดสภาพแล้ว วันนี้มันต้อง"จำหน่าย" ทิ้งอย่างเดียว ไม่มีใครเขาสนใจคำสั่งหรอก!! เสธ ฝันว่า เท่านั้นยังไม่หนำใจเสื้อแดงพอ ได้ข่าวว่ามีการจัดพ่อค้าป๊อบคอร์น ตะหลิ๋วคั่วร้อน และเพิ่มจำนวนพ่อค้ามาเสริมอีกต่างหาก..

เขาว่าป๊อบคอร์นรุ่นนี้เงาวับ ขายได้ระยะไกลมาก คุณภาพสากล ผ่าน อย.ด้วยนะ..ฮา

** ดูคลิปคำสัมภาษณ์ BBC พ่อของแผ่นดินสมัยหนุ่มๆ เป็นกำลังใจ และหลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อนที่ https://www.youtube.com/watch?v=VJz1GYWPrWg

@เสธ น้ำเงิน
ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

ไม่มีความคิดเห็น: