PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เบื้องหลัง นกแสก คือ โล้นซ่า

เบื้องหลัง นกแสก คือ โล้นซ่า โดย เปลว สีเงิน
• หมายเหตุ ประเด็นที่อยากให้ 5 กกต. อ่าน คือ
นปช. ใช้อิทธิพลอำนาจรัฐ ข่มขู่บังคับชาวบ้านในชนบทอย่างไร
แล้วอย่างนี้ กกต. จะจัดการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม อันเป็นหน้าที่ของกกต.
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 ได้อย่างไร
เมื่อไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมได้
การจัดการเลือกตั้ง 20 กค. 2557 ก็จะกลายเป็นเครื่องมือของคนชั่วไป
• งวดนี้ "หวยออก" วันที่ ๒ พอดีมีคนนำที่ @เสธ น้ำเงิน เขียนรายงานเหตุการณ์ที่อุตรดิตถ์ เมือง "พระยาพิชัยดาบหัก" มาแปะให้อ่าน
ดูข่าวตามสื่อแดงไปอย่าง แต่ตาม "เหตุที่เกิด" ในพื้นที่จริง มันไปอีกอย่าง...?
แบบนี้...ต้องขอลอกบางท่อนมาให้อ่านกันเลย เพราะเหมือนยามถนนมืด
แล้วบังเอิญ "ฟ้าแลบ" แค่แปล๊บเดียว นั่นก็พอเพียงสำหรับคน "หูไว-ตาไว" มองเห็นเส้นปลายทางได้ใสแจ๋ว ต้องอ่าน...และต้องอ่าน
!
• บางท่อนที่ @ เสธ น้ำเงิน รายงานให้พึงวินิจฉัย ดังนี้....
พระยาพิชัยดาบหักได้สร้างมรดกอันควรแก่การยกย่องสรรเสริญ ให้สืบทอดมาถึงปัจจุบัน ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญูกตเวที ความเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดกล้าหาญ รวมถึงความรักชาติ ต้องการให้ชาติเจริญรุ่งเรืองมั่นคง
ท่านได้รับความเคารพนับถือจากคนอุตรดิตถ์และคนไทยจำนวนมาก เป็นที่กล่าวขานในความศักดิ์สิทธิ์ว่า ดาบของท่านยังคงปัดเป่าทุกข์ภัยให้ลูกหลานตลอดมาและแล้วบัดนี้ อิทธิปาฏิหาริย์ของพระยาพิชัยดาบหัก ก็ปรากฏให้ประจักษ์ชัดต่อสายตาอีกครั้ง
เมื่อแก๊งเนรคุณป่วนชาติ (นปช.) ที่มีเป้าหมายโค่นล้มสถาบันเบื้องสูง และเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ ภายใต้การแอบอ้างชื่อว่า “ประชาธิปไตยแบบเท่าเทียม” ไปจัดม็อบเสื้อแดง ที่สนามกีฬาจังหวัดอุตรดิตถ์ หมอนไม้ ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
ก่อนการชุมนุม ได้มีการสั่งการอำนาจรัฐ ให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. ให้ขนประชาชนมาฟังแกนนำ นปช.ปราศรัย หมิ่นและให้ร้ายสถาบันเบื้องสูง
คุยโวว่าครั้งนี้เป็นการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ภาคเหนือ เป้าหมายคือ ๑๕,๐๐๐ คน โดยมีรองนายก อบจ.อุตรดิตถ์ และนาย ป.ประธาน นปช.อุตรดิตถ์ เป็นผู้ระดมมวลชน
แต่ปรากฏว่า ทำอย่างไรประชาชนก็ไม่ยอมมา เพราะกลัวว่าพระยาพิชัย จะลงโทษที่ไปสนับสนุนขบวนการล้มเจ้า จนแกนนำระดมมวลชนปั่นป่วนไปหมด
ต้องไปขอระดมคนเสื้อแดงจากจังหวัดใกล้เคียง คือ จ.แพร่ น่าน สุโขทัย พิษณุโลก และ จ.นครสวรรค์ ให้เดินทางมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย
ทันทีที่แก๊งเนรคุณป่วนชาติ (นปช.) ประกาศว่าจะมาชุมนุมที่อุตรดิตถ์ ช่วงดึกๆ ทุกคืน ก็เกิดอาเพศพายุอย่างหนัก พายุพัดถล่มทุกอำเภอ ทั้งจังหวัดอุตรดิตถ์หลายรอบ โดยเฉพาะ ๓ อำเภอ ที่โดนอ่วมหนัก คือ “พิชัย” ตรอน และเมือง อุตรดิตถ์ จนต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับสายไฟฟ้าขาด
ที่แปลกก็คือ ที่วัดหนองกาย ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ศาลาการเปรียญของวัด อายุเกือบ ๑๕๐ ปี ที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลังได้พังคลืนลง เพราะถูกกระแสลมพัดเข้าใส่จนไม่เหลือซากของศาลา ท่ามกลางความงุนงงของพระ และประชาชนในพื้นที่ ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันมายืนมุงดูพร้อมวิพากษ์วิจารณ์ ว่าจะต้องเกิดอาเพศหนัก เจ็บ ตาย จำนวนมาก กับคนเสื้อแดงเร็วๆ นี้แน่ๆ
และรู้สึกเสียดายโบสถ์ เพราะเป็นศาลาวัดที่เก่าแก่ คู่กับหมู่บ้านมาแต่ดั้งเดิม และยังไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรต่อ เพื่อชาวบ้านมีที่ทำพิธีทางศาสนาต่อไป
พายุพิโรธยังไม่หยุดเท่านั้น เหตุการณ์ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นซ้ำอีก
คืนก่อนการชุมนุม ๒๙ เม.ย. เวลา ๒๓.๐๐ น. ได้เกิดอาเพศ พายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกรุนแรงมากที่สุดในรอบหลายสิบปีอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเกือบทุกอำเภอของอุตรดิตถ์
ส่งผลทำให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่นระเนนระนาด บ้านเรือนชาวบ้านพังกระจุยเป็นจำนวนมาก บางบ้านถูกต้นไม้ใหญ่หักโค่นลงมาทับกลางหลังคาบ้าน (เหมือนดาบของพระยาพิชัยที่หักเป๊ะ) กระเบื้องแตกละเอียดตกลงมาใส่หัวของชาวบ้านที่นอนหลับอยู่บนที่นอนได้รับบาดเจ็บ ส่งไปรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลกันชุลมุน
อาเพศพายุลมแรงพิโรธโกรธายังพัดกระหน่ำต่อไปไม่ยอมหยุดหย่อน พัดถล่มในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ดึกๆทุกคืนจนราบเป็นหน้ากลอง จนถึงเช้ามืดวันที่ ๓๐ เมษา โดยเฉพาะ
ที่บริเวณประตูทางเข้าสนามกีฬา ที่เป็นที่จัดชุมนุมขบวนการล้มเจ้า คอมมิวนิสต์แดง นปช.
ส่วนพื้นที่ตำบลบ้านเกาะ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ชาวบ้านบอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอพายุรุนแรงที่สุด และไม่เคยเกิดในพื้นที่มาก่อนแบบนี้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กถูกต้นไม้ล้มทับ
ซ้ำร้ายเป็นลาง คือ ต้นไม้ขนาดใหญ่ ต้นสักอายุ ๓๐๐ ปี ราว พ.ศ.๒๒๕๗ (พอๆ กับช่วงที่พระยาพิชัยอายุเป็นวัยฉกรรจ์รุ่นหนุ่มพอดี) ที่ปลูกตามสองข้างถนนสายหลักอายุกว่า ๓๐๐ ปี กว่า ๒๐ ต้น ล้มชนิดถอนรากถอนโคนเป็นแนว ทับสายไฟฟ้า
ส่วนบริเวณกลางสนามกีฬา ซึ่งมีการตั้งเวทีปราศรัยแดง นปช.ขนาดใหญ่ และด้านข้างเวที กางเต็นท์ไว้จำนวน ๑๕ หลัง ถูกลมพายุพัดถล่มจนเสียหายพังยับเยิน พัดโต๊ะ-เก้าอี้-เต็นท์สนาม และเวทีกลางที่ได้มีการเตรียมไว้ ล้มกระจัดกระจาย เสาไฟฟ้าบริเวณทางเข้าชุมนุม ที่หักโค่น “กีดขวางทางเข้า-ออก”...
เหมือนพระยาพิชัยท่านไม่ต้อนรับ และขับไล่ผู้มาจัดงาน ท่านจึงกระโดดเตะด้วยความโกรธ จนต้นไม้ เสาไฟฟ้า ล้มพับ โค่นคาเท้าท่าน เหมือนในอดีตกาล
จนราวช่วงสายถึงเที่ยง คนเสื้อแดงที่รู้ข่าว บอกลือต่อๆ กันไปเริ่มเหวอหนัก กลัวกันมาก วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ว่าถ้าไปร่วมกับขบวนการล้มเจ้าเสื้อแดง ต้องตาย และครอบครัวฉิบหายวายป่วงแน่ๆ จึงมีการปฏิเสธกับแกนนำว่าจะยกเลิกไปแล้ว ทำเอาแกนนำสายจัดม็อบปั่นป่วนอย่างหนัก จึงสั่งเกณฑ์ระดมคนลาวที่อยู่ในพื้นที่ (อุตรดิตถ์ ติดชายแดนลาว ที่ อ.บ้านโคก) มาร่วมให้ได้มากที่สุด
• ส่วนถ้าเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ขู่ว่าจะไม่จ่ายเงินเดือนให้
ส่วนผู้นำชุมชน ให้ไปข่มขู่ประชาชนพื้นที่ตนเองว่า
คนที่ไม่ไปร่วมชุมนุมกับเสื้อแดงล้มเจ้า จะ
ถูกยกเลิกบัตร ๓๐ บาทรักษาทุกโรค
ยกเลิกเบี้ยยังชีพคนแก่
ไม่ให้กู้กองทุนหมู่บ้าน
ไม่ให้พักหนี้ ธ.ก.ส.
ไม่จ่ายเงินค่าจำนำข้าวทั้งจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ค้างไว้มากกว่าหมื่นล้านบาท
โรงสีจะไม่รับซื้อข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ ที่ตอนนี้เหลือราคาเพียง๔,๐๐๐ บาท/ตัน เท่านั้น
• ต่อมาช่วงบ่าย ทำให้ชาวบ้านบางส่วนเกรงกลัวคำขู่ ยินยอมรับเงินค่าจ้าง ๑๕๐-๒๐๐ บาท/คน เดินทางจากจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือตอนล่าง ทยอยเดินทางมาที่สนามกีฬา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแม่ค้าพ่อค้าที่มาตั้งเต็นท์ขายของที่ระลึกของคนเสื้อแดง ส่วนใหญ่คือเสื้อยืด เสื้อแจ็กเกตแขนยาว ผ้าพันคอ และผ้าคาดหัว ที่มีรูปของปูเน่า และชายดูไบ
นี่อาจเป็นคำเฉลย ว่าทำไมพายุอาเพศถึงถล่มอุตรดิตถ์ เพราะ
ภาพปูเน่าไปที่ไหน ที่นั่นเป็นโดนถล่มยับเยิน
ขนาดไปโรงเรียนชายชุดดำ ไม่กี่วันตกเครื่องบินตาย ๒ คนรวด
ไปเยี่ยม รมต.พีรพันธุ์ ป่วย..ต่อมาไม่กี่ชั่วโมง ตายทันทีเลย..คนพาความซวยแท้ๆการชุมนุมของเสื้อแดงที่สนามกีฬา ช่วงเย็นถึงค่ำ แปลกมากคือ ลมพายุกลับเปลี่ยนเวลาซะงั้น รีบมาแต่หัวค่ำ ที่ชุมนุมจึงเต็มไปด้วยข่าวลือเรื่องอาเพศพระยาพิชัยมากมาย เสื้อแดงที่มาจากจังหวัดอื่น ต่าง “จิตตก” สีหน้าอมทุกข์ วิตกจริต หวาดหวั่นภัยร้ายที่มีมาถึงตนเองและครอบครัว จนคนเสื้อแดงหลายคนทนความกลัวไม่ไหว ขอกลับออกไปก่อน
แต่การ์ด นปช. ที่ปิดทางเข้า-ออกไว้แน่นหนา ไม่ยอมให้ออกไปจากสนามกีฬา ขู่ว่าใครรับเงินไปแล้ว ขืนหนีกลับก่อนเวลา จะถูกอุ้มไปยิงทิ้งในป่าทันที
ได้เวลาราว ๑๗.๐๐ น. มีมวลชนที่ถูกบังคับมา และจ้างมา ถูกขังอยู่ในสนามกีฬา ประมาณไม่เกิน ๑,๐๐๐ คน แต่แกนนำอับอายมาก กลัวว่าจะโดนเช็กบิลจากเจ้าของท่อน้ำเลี้ยง เลยแถออกข่าวเสื้อแดงมา ๑๒,๐๐๐ คน..(ฮา)..ช่วยลือบอกไปถึงชายดูไบว่าขาด ๑๒,๐๐๐ คน ไปแค่ ๑๑,๐๐๐ คนเอง
ไอ้ที่แดงๆ ที่ทีวีเอเชียอาบแดดถ่ายน่ะ มันคือ “เก้าอี้เปล่า” ที่ไม่มีคนนั่ง เพราะที่เหลือมันอมแบ่งเงิน รับเงินมา ๑,๐๐๐ บาท/หัว จำนวน ๑๕,๐๐๐ ราย แต่จ่ายจริง ๑๕๐-๒๐๐ บาท และจ่ายเพียง ๑,๐๐๐ กว่าคนเท่านั้น เงินที่เหลือ แกนนำอมกันแหลกลาญ เข้ากระเป๋าไปแล้ว..ดังนั้นเจ้าของท่อน้ำเลี้ยงไป “สอย” เอาเงินคืนได้ที่แกนนำ นปช.ได้เลย
เสื้อแดงที่อยู่ในสนามจึงตกอยู่ในสภาพเหมือนถูกขังคุก คือ เข้าไปได้ แต่ออกไม่ได้ ถ้าออกจะต้องยอมสละถึงชีวิต..ทุกคนจึงกล้ำกลืนฝืนทน ท่ามกลางพายุพิโรธ ลมแรงพัดกระโชกล้อมรอบที่ชุมนุมเหมือนตกอยู่ในนรกก็ไม่ปาน เสียงลมพายุดึงหึ่งๆ อื้ออึงไปทั่วบริเวณ เหมือนเสียงคำรามจากลมหายใจโกรธของพระยาพิชัย
จากนั้นบรรดาแกนนำ คากคกตู่, นกแสก ฯลฯ และอีกหลายคน ต่างผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวที เนื้อหาพล่าม โกหก ให้ร้ายเบื้องสูง, การปกป้องปูเน่า โดยคนเสื้อแดงต้องเดินออกหน้าไปสละชีพ ส่วนแกนนำจะหลบอยู่ในที่ปลอดภัยข้างหลัง และเปลี่ยนแผนการชุมนุมใหญ่ พาเสื้อแดงไปตาย ที่ถนนอักษะ"
ปรับเลื่อนเป็นวันที่ ๕ พฤษภาคม “นั่นเพราะกำนันจะรวมตัวประชาชนทั้งประเทศใส่เสื้อสีเหลืองในวันนั้น เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ถวายพระพรชัยมงคล และตั้งสัตยาธิษฐาน เนื่องในวันฉัตรมงคล ๕ พฤษภาคม
ในขณะที่แกนนำกำลังปราศรัย โจมตีหมิ่นเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินอยู่นั้น สิ่งเลวร้ายลางความตายของคนเสื้อแดงก็เกิดขึ้น เมื่อพายุโกรธกระโชกแรงขึ้นอย่างผิดปกติ เสียงดังปานสายฟ้าฟาด ดังสนั่นหวั่นไหว เปรี้ยงๆๆ โครม...ครืน
ลมพัดตัวแกนนำปราศรัยบนเวทีจนยืนโยกทรงตัวแทบไม่อยู่ ทรงผมหลุดลุ่ย โดยเฉพาะนกแสก ถึงกับเห็นหัวล้านหมดทั้งหัวเหมือนไม่มีผมเลยทีเดียว..และถ้าดูดีๆ คล้ายคนไม่มีเงาหัว และเหมือนผีมากๆ..บรื๋อ!!
และแล้วสิ่งที่พระยาพิชัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์ เตือนมาก่อนหลายวัน แต่ไม่มีเสื้อแดงฟังก็เกิดผล เมื่อมีพายุลูกหนึ่ง พัดจงใจพุ่งเข้าใส่มวลชนเสื้อแดง ลักษณะเป็นมวลใหญ่เหมือนกำปั้นพระยาพิชัย ชกดัง "โครม" เข้ากระแทกใส่โคมไฟในสนามกีฬาจนหล่นแตกกระจาย
ฟาดหัวคนเสื้อแดงจนบาดเจ็บกันจำนวนมาก ที่หนักๆ คือ หัวแตกเลือดอาบโชก 1 คน บาดเจ็บเลือดสาด 3 คน และบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ อีกระนาว ร้องโหยหวนกันระงม วิ่งกันกระเจิดกระเจิง หงายเงิบ หน้าเหวอ..น่ากลัว ไม่ไหวแล้วโว้ย!!
@เสธ น้ำเงิน
ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai
• อ้อ...มิน่าล่ะ เห็นภาพนกแสกว่อน fb ถูกพายุกระชากวิกจนความลับเผย
ที่ทำผมทรงออเดรย์ เฮปเบิร์น แอ๊บแบ๊วเหวงมาตลอดนั้น ที่แท้ ก็...
"โล้นซ่า...มหาภัย"!.

ไม่มีความคิดเห็น: