PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

ลุ้นหลังเที่ยงคืน ช่อง 3 จอดำ-ไม่ดำ?


ลุ้นหลังเที่ยงคืน ช่อง 3 จอดำ-ไม่ดำ?
Source - ASTV ผู้จัดการออนไลน์ (Th)
Monday, September 01, 2014 19:50
กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ASTVผู้จัดการออนไลน์
ชี้บทสรุปแบบเข้าใจง่ายและบทวิเคราะห์โอกาสช่อง 3 จอดำ-ไม่ดำหากพ้นเที่ยงคืนภายหลังมติบอร์ด "กสทช." พร้อมเผยที่มาที่ไปของเรื่องวุ่นๆ
กลายเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจและสับสนกันไม่น้อยทีเดียวภายหลังจากที่พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้ออกมาแถลงกรณีที่ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ช่อง 3) ส่งหนังสือมาสอบถามถึงแนวทางการปฏิบัติในการประกอบกิจการโทรทัศน์ว่า ภายหลังวันที่ 1 กันยายน 2557 ว่ายังมีสิทธิในการออกอากาศผ่านทางระบบการใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดิน ระบบผ่านดาวเทียม และเคเบิลได้ตามปกติหรือไม่นั้น
โดยมติของ กสท.ในการประชุมวันที่ 1 ก.ย.สรุปว่า ตามพระราชบัญญัติการประกอบการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ตามข้อ 8 ของประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการทั่วไป ออกไป 100 วัน นับตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป นั้น กสท.ยังยืนยันตามพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วยการไม่ขยายระยะเวลาอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามช่อง 3 เองต้องปฏิบัติตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 27/2557 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 ด้วยนั่นคือ ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบอนาล็อก ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 23/2557 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ให้สามารถออกอากาศผ่านทางระบบการใช้งานคลื่นความถี่ภาคพื้นดิน ระบบดาวเทียม และเคเบิลได้ ทำให้ ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบอนาล็อก รวมถึงช่อง 3 ต้องทำตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 23/2557 และประกาศของ กสทช. รวมถึงมติของ กสท.และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
ดังนั้น ในส่วนของมติ กสท.ที่สิ้นสุดการขยายระยะเวลาในวันนี้ (1 ก.ย.) เวลาเที่ยงคืนนั้น หากผู้ให้บริการโครงข่ายระบบดาวเทียมและเคเบิลทีวี ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบอนาล็อก ออกอากาศก็เป็นสิทธิของผู้ให้บริการโครงข่าย แต่หากพบว่า ผู้ให้บริการโครงข่ายยังคงนำผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบอนาล็อก ออกอากาศแล้ว กสท.จะเอาผิดหรือไม่อย่างไรนั้น กสท.จะนำเรื่องไปพิจารณาในบอร์ด กสท.อีกครั้งหนึ่งในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.)
ทั้งนี้บทสรุปดังกล่าวของเรื่องนี้ก็คือ...ทางช่อง 3 เองยังคงสามารถออกอากาศ(ในระบบอะนาล็อก) ได้เหมือนเดิม (ซึ่งสามารถยาวไปจนถึงปีพ.ศ. 2563 ตามที่ได้รับสัมปทานมา) โดยเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับทางคนดูทีวีที่ยังคงรับสัญญาณทีวีผ่านเสาหนวดกุ้งหรือก้างปลา
ขณะที่ในส่วนของบรรดาผู้ชมทีวีที่รับสัญญาณจากดาวเทียมผ่านกล่องสารพัดยี่ห้อ รวมถึงที่เป็นสมาชิกเคเบิ้ลทีวีทั้งหลายจะดูช่อง 3 ได้หรือไม่ภายหลังเที่ยงคืนนี้กรณีนี้ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของกล่อง-เจ้าของเคบิ้ลเองจะดึงเอาช่อง 3 มาออกอากาศผ่านระบบดังกล่าวหรือไม่ เพราะถึงตอนนี้แม้จะมีสิทธิ์ทำได้ แต่ในอนาคตนั้นไม่แน่ว่าจะมีความผิดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการประชุมของบอร์ด กสท. ในวันพรุ่งนี้นั่นเอง
ซึ่งหากมองกันถึงตรงนี้ประกอบกับข่าวที่ออกมาในก่อนหน้านั้นที่ว่าทางผู้ประกอบการทีดาวเทียม-เคเบิ้ลทีวีส่วนใหญ่ต่างยืนยันว่าจะนำช่อง 3 มาออกอากาศต่อไป ดังนั้นโอกาสที่เหตุการณ์ทุกอย่างจะยังคงเป็นไปเหมือนเดิมจึงมีสูงทีเดียว
สำหรับเรื่องวุ่นๆ ทื่เกิดขึ้นนี้เริ่มต้นมาจากที่ทาง กสทช.เองได้มีการนำเอาหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ Must Carry มาใช้ในการเปลี่ยนถ่ายทีวีของบ้านเราจากอะนาล็อกเป็นระบบทีวีดิจิตอล โดยกรณีนี้จะมีผลทำให้บรรดาฟรีทีวีที่คนไทยคุ้นเคยในส่วนของช่อง 3 ช่อง 7 และช่อง 9 (โมเดิร์นไนน์ทีวี) พ้นจากการออกอากาศในระบบอนาล็อกทันที
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากช่องฟรีทีวีเดิมทั้งช่อง 3 ช่อง 7 และช่อง 9 ต้องการนำเนื้อหาของตนเองในช่องเดิมมาออกอากาศแบบคู่ขนานในระบบดิจิตอลด้วยก็จะต้องขอใบอนุญาตจาก กสท. ใหม่ (ในขณะที่ช่อง 5 ช่อง 11 และ ไทยพีบีเอสนั้นทางกสท. จะให้ออกอากาศคู่ขนาน ทั้งอนาล็อกและดิจิตอล ภายใต้ช่องบริการสาธารณะของช่องทีวีดิจิตอล)
เรื่องทั้งหมดคงจะไม่มีปัญหาอะไรหากช่อง 3 เองยอมที่จะเลือกที่จะออกอากาศคู่ขนาดด้วยการนำเอา "เนื้อหา" ที่ตนเองมีอยู่แล้วไปใส่ในช่องทีวีดิจิตอลทั้ง 3 ช่อง (ช่อง 3 แฟมิลี่, ช่อง 3 SDและ ช่อง3 HD) ที่ประมูลมาในช่องใดช่องหนึ่งเหมือนกับที่ ช่อง 7 และช่อง 9 ทำ
เพียงแต่ว่ากันว่าเป็นเพราะ "เม็ดเงิน" จาก "โฆษณา" ที่จะต้องลดลงหากเข้าไปสู่ความเป็นทีวีดิจิตอลแล้วนั่นเองที่ทำให้ช่อง 3 นั้นไม่เลือกที่จะกระทำ แต่เลือกที่จะพึ่งอำนาจศาลในการชะลอการบังคับใช้ประกาศของกสทช. และได้รับการขยายเวลาออกมา 100 วัน (ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.2557 - 1 กันยายน 2557) ก่อนที่เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางจะได้มีคำสั่ง "ยกคำขอ" ที่ว่าอันนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่ว่านี้นั่นเอง
แฉช่องโหว่ทุจริตทีวีดิจิตอล ช่อง 3 สุดแสบแทงกั๊กดึงโฆษณาอื้อ--จบ--

ไม่มีความคิดเห็น: