PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

ปิดฉาก "อิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค" สมบัติชิ้นสุดท้ายของ “อากร ฮุนตระกูล”

ปิดฉาก "อิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค" สมบัติชิ้นสุดท้ายของ “อากร ฮุนตระกูล”

ถือเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้บริการแก่ลูกค้าของโรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์คที่เปิดให้บริการมากว่า 22ปี และที่สำคัญคือเป็นการปิดฉากโรงแรมของ “เครืออิมพีเรียล” ชิ้นสุดท้ายในกรุงเทพฯ ซึ่งเคยเป็นสมบัติของรักของหวงของอดีตเจ้าพ่อธุรกิจโรงแรมชื่อดัง อากร ฮุนตระกูล ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 14 ปีก่อน

ในยุคที่เครือโรงแรมอิมพีเรียลรุ่งเรืองสุดขีดนั้น อากร ขยายโรงแรมถึง 7 แห่งคือ โรงแรมนิวอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค โรงแรมอิมพาล่า โรงแรมอิมพีเรียลธารา โรงแรมอิมพีเรียลสมุย โรงแรมธาราแม่ฮ่องสอน โรงแรมเรือและบ้านสมุย และโรงแรมลำปางธานี

ในบรรดาโรงแรมในเครือทั้งหมด นับว่าอิมพีเรียลควีนส์ปาร์คมีขนาดใหญ่ที่สุดและลงทุนมากที่สุดจนกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ในยุคที่กำลังก่อสร้าง แนวความคิดของนักลงทุนหัวก้าวหน้าอย่างอากร เห็นว่าช่วงนั้นเป็นยุคเฟื่องฟูของการท่องเที่ยวเมืองไทย ประกอบกับกำลังจะมีการประชุมWorld Bank ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เขาจึงตัดสินใจลงทุนสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เมืองไทยเคยมีคือ 1,250 ห้อง หรือเท่ากับโรงแรม 5ดาว จำนวน 4 แห่งมารวมกัน

อีกปรากฏการณ์หนึ่งของโรงแรมแห่งนี้คือ “ห้องจัดเลี้ยง” ขนาดใหญ่ที่จุแขกได้ถึง 2,500 คน ห้องสัมนาและจัดเลี้ยงกลางขนาดกลาง 40 ห้อง และที่จอดรถส่วนบุคคลอีก 1,500 คัน เพื่อรองรับการประชุมขนาดใหญ่ระดับประเทศที่เขาคาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยหวังให้อิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค เป็น Convention Hotel ซึ่งตอนนั้นโรงแรมในกรุงเทพฯยังไม่มี

ถือได้ว่าอากรมองอนาคตได้แม่นยำ เพราะตั้งแต่เปิดดำเนินการมา ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์คก็มีโอกาสจัดงานใหญ่ระดับประเทศหลาย ๆ ครั้ง รวมทั้งการจัดเลี้ยงฉลองชัยชนะของเหล่านักกีฬาที่ได้เหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิกทุกครั้งจะต้องมาเปิดห้องเลี้ยงฉลองกันที่นี่

ส่วนห้องอาหารที่นักดื่มนักกินอย่างอากรจัดสรรในโรงแรมใหญ่ขนาดนี้ มีตั้งแต่ห้องชาบู ชาบู ที่นำคอนเซ็ปต์นี้มาจากโรงแรมอิมพีเรียล วิทยุ ซึ่งถือเป็นคนแรกที่จุดประกายอาหารประเภทหม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่นขึ้นเป็นคนแรกของเมืองไทย รวมทั้งห้อง อาหารเลแนมเฟียส์ และ ห้องอาหารดิอิมพีเรียลไชน่า, ห้องอาหารคาโช

นอกจากนี้ยังมีห้อง Queenrsquo;s Park Grand Penthouse ที่ตั้งอยู่บนชั้น 37 ถือเป็นห้องเพนท์เฮ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ด้วยขนาดพื้นที่ 750 ตารางเมตร ซึ่งคนมีรสนิยมการใช้ชีวิอย่างเสิศหรูแบบอากรนั้น ต้องการให้ห้องนี้เป็นเสมือนคฤหาสน์หลังใหญ่แต่มีบรรยากาศเหมือนบ้าน โดยเขาลงทุนตระเวนหาซื้อของตกแต่งห้องด้วยตัวเอง จนห้องนี้เต็มไปด้วยของสะสมราคาแพง ๆ

ห้องเพนท์เฮ้าส์ประกอบด้วย ห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องสำหรับผู้ติดตาม 2 ห้อง ห้องโถงรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน จากุชชี่กลางแจ้ง ห้องซาวน่า และห้องออกกำลังกายส่วนตัว และลงทุนจ้างบัทเลอร์ฝรั่งถึง 2 คน ประจำห้องนี้

ใครที่คิดจะมานอนห้องเพนท์เฮ้าส์แห่งนี้ต้องลงทุนควักเงินถึง 1.8 แสนบาทต่อคืนทีเดียว จึงมีแต่แขกระดับผู้นำประเทศและมหาเศรษฐ๊เท่านั้นที่มีโอกาสมาพัก อาทิ อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ราชวงศ์ตะวันออกกลาง ซีอีโอของบริษัทชั้นนำของโลก เป็นต้น

“ยิ่งใหญ่ยิ่งหนาว” คงไม่เพียงเปรียบเทียบกับคนเท่านั้น เพราะการลงทุนอันมหาศาลในโรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค กลับเกิดขึ้นในจังหวะที่ไม่ดี ขณะที่กำลังก่อสร้างไปจนถึงเปิดให้บริการ ต้องมาเจอกับวิกฤติโลกทั้งสงครามอ่าวเปอร์เชีย รสช.ปฏิวัติและ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่มีผลกระทบถึงการดำเนินของโรงแรม จนในที่สุดอากร ต้องตัดสินใจขายโรงแรมในเครืออิมพีเรียลให้กับ กลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี รวมทั้งอิมพีเรียลควีนส์ปาร์คด้วยเมื่อปี 2537 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเครืออิมพีเรียลทีเดียว

และครั้งนี้ถือเป็นการพลิกประวัติศาตร์ครั้งสำคัญของโรงแรมอีกครั้ง เพราะเจ้าสัวเจริญ ตัดสินใจประกาศปิดกิจการโรงแรม โดยถือเอาสิ้นเดือนกันยายนนี้เป็นวันสุดท้ายสำหรับเคลียร์ลูกค้าทั้งหมด

“ 22-22-22” จึงเป็นปาร์ตี้เลี้ยงอำลาของโรงแรมอิมพีเรียลที่ถอดรหัสลับออกมาว่า เป็นงาน Thank You Party ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ ซอยสุขุมวิท 22 อันเป็นที่ตั้งของโรงแรม ที่เปิดดำเนินการมายาวนานถึง 22 ปี

บรรยากาศของงานเลี้ยงครั้งนี้ถือโอกาสขอบคุณบรรดาเอเจนซี่ท่องเที่ยว เหล่าลูกค้าขาประจำผู้มีอุปการคุณ และแขกสำคัญอื่นๆ โดยใช้ล็อบบี้ขนาดใหญ่เป็นสถานที่จัดเลี้ยง ในบรรยากาศที่รื่นเริง ซึ่งมีแขกรับเชิญและเหล่าพนักงานลูกหม้อของโรงแรมมาร่วมรำลึกถึงความหลังกันเต็มห้องจัดเลี้ยง

จากนี้ไปชื่อโรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์คจะหายไปจากวงการโรงแรม และอีก 2 ปีข้างหน้าจึงจะเผยโฉมในชื่อใหม่ที่ตั้งขึ้นมารอว่า “แมริออท โฮเทล ควีนส์ปาร์ค” คงต้องรอดูว่าโฉมใหม่ของโรงแรมยักษ์ใหญ่แห่งนี้จะสร้างความฮือฮาได้เทียบเท่ากับยุคของอากร ฮุนตระกูลได้หรือเปล่า!!

ไม่มีความคิดเห็น: