PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ผ่ายุทธวิธี!...ชำแหละขุมทรัพย์ “รื้อโครงสร้างรัฐวิสาหกิจ ฉากหน้าหรือเอาจริง?”

ผ่ายุทธวิธี!...ชำแหละขุมทรัพย์ “รื้อโครงสร้างรัฐวิสาหกิจ ฉากหน้าหรือเอาจริง?”
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 มิ.ย. 2557 05:45

“เก้าอี้บอร์ดรัฐวิสาหกิจ” เปรียบได้ดั่งอู่ข้าวอู่น้ำของเหล่าพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากเข้ามาบริหารประเทศ ที่จะเดินเกมส่งบุคคลที่มีสายสัมพันธ์อันดีและเป็นที่ไว้วางใจไปเป็นคณะกรรมการ หรือบอร์ดแต่ละรัฐวิสาหกิจ หรือแม้แต่การปูนบำเหน็จรางวัลให้คนรับใช้ใกล้ชิดในเครือข่ายเข้าไปนั่งในบ่อเงิน บ่อทอง ทำงานสนองนโยบายให้เป็นไปอย่างคล่องตัว

กระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังจากการจัดโต๊ะ จัดเก้าอี้เป็นที่เรียบร้อย จึงเป็นการเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์และส่งเสริมให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันขนานใหญ่!

โดยเฉพาะระบอบทักษิณอันเป็นระบอบที่ครองอำนาจมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน บอร์ดรัฐวิสาหกิจแทบทุกแห่งจะมีคนของนายใหญ่ เข้าไปฝังตัวรับทรัพย์ตุงกระเป๋าอยู่ทั่วทุกหนแห่ง โดยที่นายใหญ่

ไม่จำเป็นต้องควักเงินในกระเป๋ามาจ่ายให้สักแดงเดียว หากเพราะนี่คือยุทธวิธีจัดสรรผลประโยชน์อย่างชาญฉลาด และสุดถนัดของคนแดนไกล


ฉะนั้น เมื่อถึงช่วงเวลาอันเหมาะเจาะที่จะรื้อกันเสียที ก็ควรจะต้องปฏิรูปกันเสียให้สิ้นซาก และเป็นมาตรการถาวร ยั่งยืน และที่สำคัญ จะต้องจับตาให้ดีว่า คสช.จะล้างบางได้สำเร็จ หรือพลาดพลั้ง

หนุนนำคนของระบอบทักษิณขึ้นมาหากินบนหลัง คสช.ได้อย่างเนียนๆ หรือไม่

‘ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์’ จะพาคุณไปไขปริศนา ค้นหาคำตอบถึง แนวทางการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจในยุครัฐประหาร ‘บิ๊กตู่’ ว่าจะเก่งกล้าสามารถรื้อได้สำเร็จ ชนิดถอนรากถอนโคน หรือจะเข้า

สำนวนลูบหน้าปะจมูก เท่านั้น...

ชำแหละ! ขุมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ เบี้ยประชุมจัดเต็ม โบนัสจัดจริง
- บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)...
ประธานบอร์ดการบินไทย ได้เบี้ยประชุมครั้งละประมาณ 45,000 บาท กรรมการได้ 30,000 บาท และยังได้สิทธิตั๋วโดยสารเครื่องบินต่างประเทศปีละ 10 ใบ ในประเทศอีก 10 ใบ

ค่ายานพาหนะในแต่ละเดือนของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งขณะนี้ในระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้รับเดือนละ 75,000 บาท และระดับผู้อำนวยการใหญ่ได้รับ 70,000 บาท


การบินไทย รัฐวิสาหกิจที่ขึ้นชื่อว่ามีระบบเส้นสายมาก
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)...
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บอร์ดจะได้รับค่าเบี้ยประชุมเดือนละ 3 หมื่นบาท เบี้ยประชุมเฉพาะที่เข้าร่วมประชุมครั้งละ 5 หมื่นบาท จ่ายเบี้ยประชุมไม่เกินปีละ 15 ครั้ง และเบี้ยประชุมอื่นที่บอร์ด

แต่งตั้ง บอร์ดตรวจสอบได้รับเบี้ยกรรมการรายเดือน เดือนละ 1.5 หมื่นบาท ได้เบี้ยประชุมครั้งละ 1.5 หมื่นบาท

ในส่วนของเงินโบนัส จะสะท้อนและเชื่อมโยงกับผลประกอบการ หรือกำไรสุทธิของ ปตท. ในอัตรา 0.05% ของกำไรสุทธิประจำปี แต่กำหนดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อคนต่อปี และในปี

2556 ปตท.ต้องจ่ายเงินบอร์ด มูลค่ากว่า 64.4 ล้านบาท แยกเป็น เงินเบี้ยประชุม 16.3 ล้านบาท และเงินโบนัส 45.12 ล้านบาท

บอร์ด ปตท.จะไม่ได้สิทธิใช้น้ำมันฟรี ส่วนพนักงาน ปตท. จะได้สิทธิซื้อน้ำมันราคาถูก หรือซื้อผลิตภัณฑ์ ปตท. ราคาถูก ในวงเงิน 3,000 บาทต่อปี

ในส่วนของบริษัท ปตท. ที่มีบริษัทลูกจำนวนมาก ยังพบว่าบริษัทลูกบางแห่ง มีการจ่ายผลตอบแทนให้กรรมการสูงกว่าบริษัท ปตท. ด้วย ซึ่งกระทรวงการคลังไม่สามารถเข้าแทรกแซงได้ เพราะไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ


ในปี 2555 ปตท. ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับที่ 95 จาก 500 ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก
- บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)...
การประชุมบอร์ดได้รับเบี้ยประชุมครั้งละประมาณ 3 หมื่นบาทต่อเดือน และยังมีคณะกรรมการย่อยอีกจำนวน 6 คณะ ที่คณะกรรมการต้องเข้าไปนั่งเป็นกรรมการ ซึ่งค่าตอบแทน บอร์ดจะได้ชุดละ

3 หมื่นบาทต่อ 3 เดือน

บอร์ด 1 คน จะนั่งคณะกรรมการชุดนี้ประมาณคนละ 3 คณะ และยังมีค่าเบี้ยเลี้ยงประชุมคณะอนุกรรมการอีกครั้งละประมาณ 1 หมื่นบาทเท่านั้น และ ทอท. ไม่ได้มีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม


- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย...
กำหนดจ่ายเบี้ยประชุมให้กับประธานบอร์ดครั้งละ 20,000 บาท ส่วนกรรมการได้รับคนละ 10,000 บาท นอกจากนี้ยังมีค่าตอบแทนกรรมการคนละ 50,000 บาทต่อปี ส่วนประธานบอร์ดจะได้รับปี

ละ 100,000 บาท

บอร์ด กฟผ. ไม่มีการได้รับสิทธิประโยชน์ใช้ไฟฟ้าฟรี โดยการให้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรีแก่พนักงาน กฟผ.นั้น ที่ผ่านมา พนักงานเคยได้รับจริงแต่เป็นไปในรูปเงินยังชีพ ประเภทค่ากระแสไฟฟ้าที่รวมอยู่ใน

เงินเดือนและได้ยกเลิกไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 37 เป็นต้นมา (พนักงานที่เข้าก่อนปี 2537 ยังได้รับสิทธินี้อยู่)


บอร์ดกฟผ.ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใช้ไฟฟ้าฟรี แต่ได้เบี้ยประชุมให้กรรมการครั้งละ 10,000 บาทต่อคน
บอร์ดรัฐวิสาหกิจสุดสะพรึง! แห่ลาออกก่อนโดนเก็บ

ภายหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายปรับปรุงประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะประเด็นเรื่องผู้ที่มาเป็นกรรมการและผู้บริหารระดับสูง ส่วนกระทรวงการคลัง ก็เร่งเดิน

หน้าประเมินสถานะและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของกรรมการรัฐวิสาหกิจ และบริษัทมหาชนที่รัฐบาลถือหุ้นอยู่ทั้ง 56 แห่ง โดยรวบรวมรายละเอียด ทั้งเรื่องของผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ส่วน

เกิน ค่าตอบแทนกรรมการ เบี้ยประชุม โบนัส และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่กรรมการได้รับ เพื่อเสนอให้ คสช.พิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง


เหล่าบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่แจ้งลาออกจากตำแหน่ง
ฉะนั้น จึงไม่แปลกแต่อย่างใด ที่เหล่าคณะกรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ จะเริ่มร้อนๆ หนาวๆ ทยอยลาออกกันเป็นทิวแถว...

ล่าสุด ยอดรายชื่อบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่แจ้งลาออกจากตำแหน่งแล้ว จำนวน 6 คน ทั้งนายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ประธานธนาคารกรุงไทย นายศิธา ทิวารี ประธานกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย นาย

ปานปรีย์ พหิทธานุกร ประธานกรรมการบริษัท ปตท. พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายธานินทร์ อังสุวรังษี กรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)


สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นอีกหนึ่งรัฐวิสาหกิจที่นักการเมืองจะส่งพวกพ้องเข้ามานั่งเก้าอี้บอร์ด
แหก พ.ร.บ. อุ้มพรรคพวก ส่องรัฐวิสาหกิจแห่งแดนสนธยา
รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต ได้วิพากษ์ถึงประเด็นการตัดสิทธิประโยชน์ให้กับ 'ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์' ฟัง อย่างน่าสนใจว่า ณ ปัจจุบันมีรัฐวิสาหกิจเป็น

จำนวนน้อยมากที่มีระบบธรรมาภิบาลอันเป็นที่ยอมรับได้ หากเพราะไม่ว่าจะเป็นขั้วไหน ฝ่ายใดขึ้นมาเถลิงอำนาจ ก็ย่อมจะส่งคนของฝ่ายการเมืองเข้ามาเป็นกรรมการเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทั้งสิ้น

โดยเฉพาะระบบการจัดซื้อจัดจ้าง อันเป็นยุทธวิธีที่สามารถเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง มิหนำซ้ำยังเป็นหนทางที่แสนจะง่ายดายและแยบยลที่สุด...

รศ.ดร.สังศิต ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า “หากผู้บริหารไม่สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้รุดหน้า สร้างผลกำไรให้เกิดแก่บริษัทได้ ฉะนั้น ควรแล้วหรือที่จะได้รับผลตอบแทน สิทธิประโยชน์นานา ในขณะ

เดียวกัน หากผู้บริหารคนนั้นๆ สามารถบริหารงานสร้างผลกำไร หนุนนำความเจริญก้าวหน้าให้แก่องค์กรได้ เช่นนั้นจึงจะควรค่าแก่การได้รับผลตอบแทน แม้ว่าจะต้องตอบแทนกันอย่างมากมาย ก็็

ถือว่าเป็นเรื่องอันควร”


ในปี 2556 คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นรัฐวิสาหกิจที่สามารถนำเงินส่งรัฐได้มากที่สุด

มิใช่ว่า ประเทศไทยจะไม่มีกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขใดๆ ในการสรรหาคณะกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ แต่ที่ผ่านมานักการเมืองไม่เคารพกฎหมาย และแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ในรัฐวิสาหกิจกัน

อย่างตามอำเภอใจ ทั้งๆ ที่มี พ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานสําหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2550 บัญญัติไว้อย่างชัดเจน

“มาตรา 5 กรรมการของรัฐวิสาหกิจ จะต้องมีคุณวุฒิและประสบการณ์เหมาะสมกับกิจการของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ, ไม่เป็นข้าราชการการเมือง, ไม่เป็นผู้ถือหุ้นของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ จะต้องไม่เคยต้อง

คำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ไม่ว่าจะได้รับโทษจำคุกจริงหรือไม่” นี่คือตัวอย่างข้อบังคับที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.อย่างชัดเจน


ปตท. เป็๋นรัฐวิสากิจอันดับต้นๆที่มีคนจำนวนมากอยากเข้าไปร่วมงาน
ทว่าบรรดากฎหมาย และข้อบังคับได้กำหนดไว้อย่างมากมายภายใต้ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว แต่กระนั้น เหล่าผู้เรืองอำนาจทั้งหลาย ก็ยังจะแหกกฎ ฝ่าฝืนกันอย่างซึ่งหน้า บ้างก็ถ่างขาควบตำแหน่ง

หลายแห่ง ฟันค่าตอบแทนกระเป๋าตุงปีละหลายๆ ล้าน หรือการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องโทษ หรือกลุ่มที่มีคดีร่ำรวยผิดปกติ เข้ามาเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ จนได้เข้าไปชูคอเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจจำนวน

มาก

ส่วนรัฐวิสาหกิจที่น่าเป็นห่วงและควรแก่การปฏิรูปอย่างถึงรากถึงโคน คือ ปตท. รัฐวิสาหกิจที่ขึ้นชื่อว่า เป็นแดนสนธยา การบินไทยสุดยอดแห่งระบบอุปถัมภ์ และรัฐวิสาหกิจที่เก่ียวข้องกับหน่วย

งานพลังงานและคมนาคมก็อยู่ในสถานะที่น่าเป็นห่วงเช่นกัน

ดังนั้น รัฐวิสาหกิจควรจะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร เนื่องจากที่ผ่านมา การปรับเปลี่ยนนั้น ฝ่ายรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลและปรับเปลี่ยนบอร์ดไป

ตามยุคตามสมัยขั้วอำนาจ ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง ดังนั้น ทางออกควรมีผู้ทรงคุณวุฒิอิสระและมาจากการสรรหาเพื่อถ่วงดุลอำนาจ และควรแก่การร่างกฎหมายบังคับมิให้ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์การ

แต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจอย่างเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนให้ฟ้องร้องได้เลย เพื่อป้องกันการทุจริตในอนาคต


บอร์ดปตท. ได้เงินโบนัสคณะกรรมการได้ 0.05% ของกำไรสุทธิประจำปี 57
ค่าตอบแทนน้อย-กำไรมาก ความแตกต่างระหว่างต่างชาติ-ไทย
ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้สะท้อนทรรศนะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผ่าน ‘ทีมข่าวไทยรัฐ

ออนไลน์’ ว่า หากเราพิจารณาเปรียบเทียบรัฐวิสาหกิจของไทย กับต่างชาติ จะพบว่า ในต่างประเทศ อย่างเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย การแต่งตั้งบอร์ดใช้วิธีการสรรหา เหมือนกับเอกชนทั่วไป และไม่มี

ข้าราชการเข้ามาร่วมบริหารองค์กรรัฐวิสาหกิจแต่อย่างใด มีแต่มืออาชีพในสาขาที่เกี่ยวข้องกับองค์กรรัฐวิสาหกิจนั้นๆ เข้ามาบริหาร อีกทั้งแต่ละคนล้วนแล้วแต่มากด้วยประสบการณ์ และเป็นที่จัด

เจนทั้งสิ้น

ส่วนสาเหตุที่ไม่ควรให้ข้าราชการเข้ามาอยู่ในคณะกรรมการบอร์ดนั้น เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะข้าราชการบางคนอยู่ในตำแหน่งหน้าที่กำกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจนั้นอยู่แล้ว

ฉะนั้น แม้แต่จะได้ค่าตอบแทนก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรได้รับอยู่ดี ซึ่งถือว่าเป็นการทำตามหน้าที่ ดังนั้น หากประเทศไทยต้องการให้การบริหารรัฐวิสาหกิจเจริญรุ่งเรืองเหมือนต่างประเทศ ข้าราชการ

ไม่ควรเข้ามาเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ


ในปี 2556 ปตท.จ่ายโบนัสให้กับคณะกรรมการจำนวน 15 คน เป็นเงินกว่า 37.5 ล้านบาท
หากต้องการปรับปรุงรัฐวิสาหกิจจริง จะต้องรื้อกระบวนการการสรรหาตำแหน่งต่างๆ ทั้งประเทศ มิใช่จะทำแค่ค่อนๆ กลางๆ และที่สำคัญจะต้องนำมืออาชีพเข้ามาบริหารรัฐวิสาหกิจ โดยให้ค่า

ตอบแทนที่มีการกำหนดไว้ให้ชัดเจน และเหมาะสมแก่คุณสมบัติของบุคคลนั้นๆ

“เปรียบเทียบค่าตอบแทนของคณะกรรมการ ปตท. กับ คณะกรรมการบริษัท สแตทออยล์ ไฮโดร ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติของประเทศนอร์เวย์ พบว่า กรรมการของบริษัทสแตทออยล์ฯ ได้รับ

ค่าตอบแทนต่อคนต่อปีน้อยกว่ากรรมการ ปตท. ร่วม 1 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทพลังงานแห่งชาติของนอร์เวย์แห่งนี้ มียอดขายมากกว่า ปตท. 2 เท่า สามารถทำกำไรมากกว่า ปตท. 3 เท่า โดยที่มี

กรรมการน้อยกว่าแต่ประชุมมากกว่า และค่าครองชีพของประเทศนอร์เวย์สูงกว่าประเทศไทย” ดร.เดือนเด่น ได้ยกตัวอย่างไว้อย่างถึงลูกถึงคน


ทว่า ประชาชนตาดำๆ กำลังจับจ้องการรื้อโครงสร้าง ล้างคอร์รัปชัน ของ คสช. ว่าจะเข้าอีหรอบเก่า ตำราเดิมอีกหรือไม่ เพราะบรรดาเสือหิว กำลังจับจ้องเก้าอี้ว่างกันให้ตาเป็นมัน โดยมุ่งหวังที่จะ

เสียบแทนพวกเก่าที่ถูกโละออกไป...ฉะนั้น วินาทีนี้ จึงเป็นเวลาพิสูจน์ฝีไม้ลายมือว่า เหล่าทหารหาญ จะเป็นได้แค่ คสช.เทียม หรือ คสช.แท้ กันแน่!
/////////////////////
คสช.ทุบ20บอร์ดรัฐวิสาหกิจ ส่งคนคลัง-ธปท.คุมแบงก์รัฐ

updated: 24 ก.ค. 2557 เวลา 16:00:30 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เดิน หน้าปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ จัดสรรที่นั่งบอร์ดใหม่ลงตัวแล้วกว่า 20 แห่ง แค่รอไฟเขียว "ประยุทธ์" ส่งคนคลัง-แบงก์ชาติ นั่งกำกับนโยบายแบงก์รัฐปลัดรังสรรค์ควบเก้าอี้ใหญ่ ธ.ก.ส.-ทหารไทย-

ปตท. ส่วน "พิสิฐ ลี้อาธรรม-มนตรี ศรไพศาล" นั่งบอร์ดทีโอที

ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายจะปรับปรุงรัฐวิสาหกิจทั้ง 56 แห่ง พร้อมทั้งได้มีการประกาศ แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ

หรือซูเปอร์บอร์ด เพื่อกำหนดนโยบายในการกำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจทั้ง ระบบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันได้รื้อสิทธิประโยชน์ และค่าตอบ

แทน บอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายแห่งที่มีการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โดยพุ่งเป้าไปที่ค่าตอบแทนพิเศษ รวมถึงการรื้อโบนัสพนักงานรัฐวิสาหกิจ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง

ของการดำเนินงานนอก จากนี้ ที่ผ่านมา คสช.ได้ทยอยปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจไปจำนวนหนึ่ง อาทิ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ท่า

อากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นต้น

ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจอีกจำนวนหนึ่ง

จ่อตั้งบอร์ด รสก.กว่า 20 แห่ง

แหล่ง ข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ขณะนี้การแต่งตั้งประธานคณะกรรมการและกรรมการในรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการ เสร็จเรียบร้อยแล้วกว่า 20 แห่ง รอเพียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

หัวหน้า คสช. ออกประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น โดยรัฐวิสาหกิจที่มีการปรับบอร์ด อาทิ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่ง เช่น ธนาคารออมสิน ที่มีการตั้งนายสมชัย สัจจพงษ์

อธิบดีกรมศุลกากรเป็นประธาน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แต่งตั้งนายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นประธาน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด

ย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ตั้งนางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.เป็นประธาน ส่วนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยตั้งนายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ เป็นประธานขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและ

สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง นั่งเป็นประธานบอร์ดโดยตำแหน่งเป็นการชั่วคราว และได้ตรวจสอบกับ ธปท.แล้ว ระบุว่านายรังสรรค์ไม่จำเป็นต้อง

ลาออกจากการเป็นประธานบอร์ดธนาคารทหารไทย ซึ่งกระทรวงการคลังถือหุ้น และยังสามารถนั่งเป็นกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ด้วยส่วนธนาคารกรุงไทยที่ต้องแต่งตั้งกรรมการ

แทนนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่ต้องลาออกไปเป็นกรรมการ ธปท. (โดยตำแหน่ง ผอ.สศค.) นั้น ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล

รองปลัดกระทรวงการคลังเข้าไปนั่งแทน"แบงก์รัฐส่วนใหญ่จะตั้งคนของกระทรวงการ คลังกับแบงก์ชาติเข้าไปเป็นประธาน" แหล่งข่าวกล่าวส่วนรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนบอร์ดรอบนี้

อาทิ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การประปานครหลวง (กปน.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เป็นต้น

เขย่าบอร์ดคมนาคม

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคมเป็นอำนาจของ สคร. แต่มีแนวโน้มว่ากรรมการใน

บอร์ดบางแห่งอาจจะต้องปรับเปลี่ยน หลังมีการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารในบางหน่วยงานใหม่ เช่น บอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่นายจุฬา สุขมานพ เป็นกรรมการ อาจ

ต้องเปลี่ยนเนื่องจากนายจุฬาได้รับคำสั่งให้ย้ายไปเป็นอธิบดีกรมเจ้าท่า ส่วนบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) อาจจะไม่ปรับเปลี่ยนเพราะตรงกับ

สายงานอยู่แล้วผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรัฐวิสาหกิจอื่นในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่อาจมีการปรับเปลี่ยน ประกอบด้วย บอร์ดองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)

และสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ที่นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ถูกโยกไปเป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธาน

พลเรือเอกอภิวัฒน์ ปธ.บอร์ดท่าเรือ

สำหรับ บอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) มีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดชุดใหม่ โดยมีพลเรือเอกอภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานกรรมการ ประกอบด้วย

พลเรือเอกจักรชัย ภู่เจริญยศ รองผู้บัญชาการทหารเรือ, พลโทฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองเสนาธิการทหารบก,นายจุฬา

สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.), นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม, นายกฤษฎา อุทยานิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง, นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวง

พาณิชย์ มีผลตั้งแต่ 1กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยนายจุฬาและนายศรศักดิ์ยังคงอยู่ เพราะแต่งตั้งโดยชื่อ แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแล้วก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับตำแหน่งประธาน

บอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีกระแสข่าวผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง คือนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม

"พิสิฐ-มนตรี" นั่งบอร์ดทีโอที

รายงาน ข่าวแจ้งว่า หลังจากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัท กสท โทรคมนาคมเรียบร้อยแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งบอร์ด บมจ.ทีโอทีเช่นกัน ซึ่งรายชื่อที่ออกมา ได้แก่

พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ รองเสนาธิการทหาร, นายพิสิฐ ลี้อาธรรม, นายมนตรี ศรไพศาล, ดร.ชิด เหล่าวัฒนา เป็นต้น ซึ่งช่วงที่ผ่านมาการขับเคลื่อนแผนธุรกิจรวมถึงการปรับปรุงองค์กรของทั้งสอง

องค์กรหยุดชะงักลงจากการว่างเว้นบอร์ด รวมถึงรัฐมนตรีไอซีที เช่น การทำสัญญาธุรกิจขายส่งขายต่อบริการ 3G ของทีโอที เป็นต้น

ด้านนาย ธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า เมื่อ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา กปน.ได้รับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) กปน.ชุดใหม่ ทดแทนประธานบอร์ดเดิม

คือนายสมัย อนุวัตรเกษม และบอร์ดชุดเดิมที่ลาออกรวม 9 คน จากทั้งหมด 10 คน เมื่อ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา คงเหลือผู้ว่าการ กปน.ที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง โดยคำสั่งแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่

แต่งตั้งนายเจริญ ภัสสระ อดีตผู้ว่าการ กปน.เป็นประธานบอร์ดคนใหม่ และกรรมการอีก 9 คนขณะที่บอร์ดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ที่นางอัญชลี ชวนิชย์ ประธานบอร์ดได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง

ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน เพื่อเปิดทางให้ คสช.ปฏิรูปพลังงาน ก็กำลังถูกจับตามองเช่นเดียวกันว่าจะมีการประกาศแต่งตั้งในคราวเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น: