PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เสธน้ำเงิน : แฉ..ความบังเอิญไม่มีจริงในโลก และแล้วแผลก็ปริ จนน้ำเหลืองออก

วันที่ 25 ต.ค. 57 แฉ..ความบังเอิญไม่มีจริงในโลก และแล้วแผลก็ปริ จนน้ำเหลืองออก

ตามที่เคยบอกไว้เสมอว่าความบังเอิญไม่มีจริงในโลก ทุกอย่างล้วนมีคนเจตนา เพียงแต่เราจะรู้หรือไม่เท่านั้น และหลักอาชญวิทยา ผู้ร้ายจะต้องทิ้งร่องรอย และข้อพิรุธใดๆ ไว้เสมอ เป็นหลักคิดปรัชญาสากล ที่ใช้ได้เสมอมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันที่เพจนี้เคยบอกมานานกว่า 2 เดือน แล้วว่ามีแก็งค์ "แบ่งงานกันทำ ความเหมือนที่แตกต่าง" เนื่องจากการข่าวสายลับที่แฝงตัวเข้าไปพบว่า แกนนำอย่างน้อย 4 แก็งค์ มีการนัดหารือลับกัน ในสถานที่แห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ

ในบรรดาแกนนำขาใหญ่เหล่านั้น ประกอบด้วย แก็งค์ติดอาวุธแดง นปช. , แก็งค์เคลื่อนไหวพลังงาน , แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ , แก็งค์พิราบกระป๋อง , สื่อมวลชินแดง และมีตัวเชื่อมกลางเป็นกลุ่มทุนสายอำนาจเก่า และหวั่นเกรงเรื่องภาษีมรดก ที่จะเก็บคนรวยเอามาให้คนจน โดยทั้งหมดได้บรรลุพันธกิจหลักๆ โดยย่อ คือ

1. หยุดพักรบ ระหว่างแก็งค์ชั่วคราว ปรองดองเฉพาะกิจ เพราะพลังแต่ละแก็งค์แยกเดี่ยวๆ ไม่พอ เนื่องจากมีประชาชนสนับสนุนรัฐบาลจำนวนมาก

2. ร่วมกันขย่มรัฐบาลชุดนี้ ให้สั่นคลอน ตามความถนัดของแต่ละแก็งค์ โดย
- กำหนด Agenda ให้สังคมคล้อยตามโหมกระแสให้เกินปกติ เช่น คดีเกาะเต่า , พลังงาน
- ดิสเครดิสรัฐบาล และ คสช.ต่อสายตาชาวโลก เช่น แฝงม็อบอื่น ตีเนียนชูป้ายต้านบิ๊กตู่ ที่อิตาลี , เข้าชื่อให้ต่างชาติมาแทรกแซงไทยคดีเกาะเต่า
- ดิสเครดิสเป้าหมายพร้อมๆ กันในประเทศ เป้าหมายหลัก คือ รัฐบาล คสช. พระสุเทพ หลวงปู่

3. ปลุกระดมมวลชน ใช้หลักการโฆษณาชวนเชื่อ 7 วิธี คือ
3.1 โจมตีตัวบุคคล..สร้างบุคคลขึ้นมาเป็นหุ่นรับการโจมตี แล้วจับผิดทุกอย่าง โจมตี ด่าทอ ต่อว่า ทั้งเรื่องส่วนตัว และคำพูดทุกคำพูดของคนๆ นั้น รวมถึงการสร้างภาพให้ฝ่ายศัตรูที่ตั้งขึ้นมาโจมตีน่ากลัว

จึงเกิดลัทธิ “ ด่ากราดใครก็ได้เอามันปากไว้ก่อน “ และพุ่งเป้าโจมตี บิ๊กตู่ พระสุเทพ หลวงปู่ จับผิดทุกอย่าง ด่าทอ ต่อว่า ทุกคำพูด ไม่ว่าจะอธิบายข่าวสารทางสื่อต่างๆ สักเท่าใด แต่กลุ่มสิ่งคล้ายคนพวกนี้ ก็จะตีมึน บื้อ ไม่ฟัง เพราะตั้งธงในใจไว้แล้ว ว่าจะต้องโจมตี การอธิบายกับคนพวกนี้ ก็เสมือนสีซอให้ทุยฟังนั่นเอง

จำเรืองไกร , นิติภูมิ , โหวงเหวง ได้ไหม เขาเคยขึ้นเวทีไหนมาก่อนสมัยขับไล่คนแดนไกล แล้วตอนนี้เขาเป็นอย่างไร เริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้แล้วใช่ไหม ?? เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมเขาต้องพุ่งเป้าใส่พระกำนันแก่ๆ จากสุราษธานี , ราชสีห์จากวัดอ้อน้อย และบิ๊กตู่ที่จงรักภักดีมาทั้งชีวิต

3.2. พูดซ้ำแล้วซ้ำอีก...เข้าทำนอง "น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน แล้วใจคนอ่อนๆ จะทนได้อย่างไร” พวกแกนนำแดงนี้ จะพูดกรอกหูเข้าทุกวัน แปรคนดี เป็นคนร้ายไปได้ เพราะความเป็นคนหูเบา

จำได้ไหมตอนสมัคร สปช.กัน มีการวางแผนก่อม็อบพลังงาน โดยโจมตี คสช.เรื่องพลังงาน ทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกนาที เกลื่อนไปหมด ทั้งๆ ที่ตอนนั้นไม่มีประเด็นอะไรเลยสักนิด จนหลวงปู่ฯ ต้องออกมาวางกับดัก เพราะเริ่มรู้ทันกลุ่มนี้ว่ากำลังจะก่อความวุ่นวาย โดยการอ้างว่าเดินให้ความรู้ประชาชน

แล้วก็เป็นจริง เมื่อมีการรับไม้ต่อการชุมนุมจากกลุ่มนกพิราบกระป๋อง ที่พักภารกิจนี้ไปแล้ว ส่งไม้ต่อให้กลุ่มเคลื่อนไหวพลังงานทำแบบเดียวกันเป๊ะ แต่เป้าจริงๆ คือ การต่อรองเอาตำแหน่งเพื่อเข้าไปอยู่ใน สปช. จากนั้นเมื่อได้สมใจแล้ว การโจมตีเรื่องพลังงานนั้นก็หยุดหายไปเป็นปลิดทิ้งทันที..คิดตามๆ ว่าจริงหรือไม่ ??

ส่วนแก็งค์สภาท่าพระจันทร์ ก็สวมสอดคล้องเลย รับลูกกันอย่างเป็นระบบ เหมือนนัดกันไว้ อาศัยมีสื่อในมือ ก็มีขึ้นภาพบิ๊กตู่บ้าง ส่อเสียด ให้ร้าย เต้าข่าว อ้างว่า “แหล่งข่าว” มันลูกเดียว เพราะหมอนี้มันนิรนามไร้ตัวตน ใช่มันนี่แหละอ้าง เพื่อให้ดูเสมือนว่าข้อมูลมีที่มานะ

ตอนนี้ถ้าใครจะสังเกต ในสื่อสังคมออนไลน์ แก็งค์เคลื่อนไหวพลังงาน ก็จะใช้มุกเดิมอีกแล้ว คือ โจมตีเรื่องพลังงาน โจมตีรัฐบาล โจมตีหลวงปู่ ตลอดวันตลอดคืน พูดซ้ำแล้วซ้ำอีก เสี้ยมยุยงประชาชนเหมือนเคย สังเกตง่ายๆ ประเด็นจะเหมือนเดิม ข้อความเดิม ข้อมูลเดิมกรอกหู แต่เปลี่ยนคนโพส เปลี่ยนแค่ฉากเวลาทำซ้ำๆ เท่านั้น

3.3. โกหกคำโต...หลักการ คือ “ ยิ่งโกหกคำโตเท่าไร, มันยิ่งน่าเชื่อไปเท่านั้น , ฝูงชนมหาศาลถูกหลอกด้วยการโกหกเรื่องใหญ่ ง่ายกว่าโกหกเรื่องเล็กๆ “ การ โกหกเรื่องเล็กๆที่มีรายละเอียดปลีกย่อย อาจมีผู้จับโกหกได้ง่าย แต่การโกหกเรื่องใหญ่ๆ เพื่อหลอกให้เชื่อ มันย่อมครอบคลุมเรื่องต่างๆ หลากหลาย

อย่างน้อยต้องมีข้อใดข้อหนึ่งที่ถูกจริตผู้ฟังที่ขาดเฉลียว และเมื่อผู้พูดๆ ในสิ่งที่คนฟังอยากจะเชื่ออยู่แล้ว เขาก็พร้อมจะยอมเชื่อโดยดี แม้ว่าคำโกหกเรื่องใหญ่นั้น จะเท็จครึ่ง จริงครึ่ง หรือไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความจริงอยู่เลย

หน้าที่นี้จึงตกกับแก๊งค์พิราบกระป๋อง ลูกทีมเป็นพิน็อคคิโอ โดยเต้าข้อมูล ข้อสงสัย เขาว่ามา มันน่าจะ เรื่องคดีเกาะเต่า โดยจะไม่พุ่งไปที่ DNA เพราะคือจุดตายของคดีนี้ แต่หักเหพุ่งไปที่อาวุธไม่ใช่จอบ , กล้องวงจรปิด , ใส่ความว่ามีผู้อิทธิพล หรือ กู้ภัย ร่วมกระทำผิดด้วย พยายามจะโยงถึงพระสุเทพให้ได้ โดยนำรูปถ่ายกู้ภัยกับพระตอนทอดกฐิน

สร้างความน่าสงสาร มีพ่อ-แม่ ผู้ต้องหาพม่ามาเยี่ยม ตอนลงสนามบินมีคนเตรียมภาพพระฉายาลักษณ์เบื้องสูงไว้ให้ญาติถือ ให้เป็นข่าวเสร็จสรรพ , ทนายสายแดง นปช.ก็หว่านล้อมพม่าให้กลับคำสารภาพ เพื่อดึงระยะเวลาในคดี ได้โจมตีทางการไทยไปอีกนาน ลงทุนราคาถูกกว่าจ้างม็อบตั้งเยอะ

แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ ก็ประโคมสอดรับกับพิน็อคคิโอ โดยแต่ละฝ่ายต่างอ้างอิงซึ่งกันและกัน คือ แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ อ้างอิงพิน็อคคิโอ และ พิน็อคคิโอ ก็อ้างอิงสภาท่าพระจันทร์ ง่ายสุดๆ ..ทั้งที่คดีไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ยึด DNA เป็นหลักฐานสำคัญทางวิทยาศาสตร์ และความยุติธรรมก็ไปว่ากันศาล ไม่ใช่ตัดสินกันทางอินเตอร์เน็ต เพราะ DNA จะให้ความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายเอง ไม่เห็นมีอะไรต้องไขว้เขว

ตอนนี้แก็งค์เคลื่อนไหวพลังงาน ก็หันมาโกหกคำโต เคลื่อนไหวพลังงานอีก โดยสร้างวาทะกรรมว่าไทยจะเสียหายถ้าให้สัมปทานบ้าง ขายสมบัติชาติบ้าง คุ้นๆ ไหม?? แล้วโจมตี ปตท.ที่เป็นรัฐวิสาหกิจไทย ส่งผลให้บริษัทคู่แข่งต่างชาติ ที่ไม่ต้องส่งผลกำไรเข้ากระทรวงการคลัง ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ตามสุภาษิต “ เตะหมูเข้าปากหมา “

ใครที่ถูกเป่าหูมาตลอดเวลาประเทศไทยใช้ระบบสัมปทานอย่างเดียว นั่นหมายถึงท่านถูกต้มจนเปื่อยยุ่ยเลย เพราะความจริงขณะนี้ประเทศไทยใช้ทั้ง 2 แบบ โดยลองใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJDA) ส่วนจุดอื่นใช้ระบบสัมปทาน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว “ยังไม่สามารถยืนยันได้ “ ว่าถ้าใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต ภาครัฐจะได้ผลตอบแทนมากกว่า ระบบสัมปทาน...นี่คือข้อเท็จจริง

** ดูเรื่องเดิมที่https://www.facebook.com/topsecretthai/posts/281032438753457

เพราะพวกนี้จะรู้ว่าคนฟังอยากจะเชื่ออยู่แล้ว ว่ามันเป็นเช่นนั้น แค่เสี้ยมนิดเดียวก็มีคนยอมกินฟางบุฟเฟ่แบบสบายๆ เคี้ยวเอื้องให้รับแนวคิดไปต่อได้ทันที

3.4. สร้างสมญานาม...การสร้างชื่อแทนใช้เรียกย่อๆ ง่ายๆ และตีความได้เข้าข้างตัวเอง หรือสร้างภาพดีเลิศ หรือ เสียหาย ที่ผ่านมาแดง นปช. และขบวนการล้มเจ้า จึงใช้หลักวิธีนี้ เช่น วาทะกรรม อำมาตย์ , วีระบุรุษประชาธิปไตย , ท่านผู้นำ , พ่อทุกสถาบัน

แก็งค์ติดอาวุธแดง นปช. ก็เล่นคำอำมาตย์ อีกที และ แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ ก็เอาบ้าง ใช้คำอำมาตย์โจมตีกะเขาด้วย , แล้วแดงไปหากินกับศพรองโรมานอฟ สร้างสมญานามว่าเป็นวีระบุรุษประชาธิปไตย มีการขี้โม้ว่าระดมเสื้อแดงมางานเผาศพรองโรมานอฟ 50,000 คน

พอวันจริงขาด 50,000 คนไปแค่ 49,000 คน มาแค่ 1,000 คน เท่านั้น แค่นี้ก็ต้องจ้าง เกณฑ์ กันขนานหนัก ถึงขนาดมีมนุษย์ป้า 500 บาท หน้าเดิมมารับงานกันเกร่อ

แก็งค์ติดอาวุธแดง นปช.ที่อิตาลีอีก 3 คน ก็รับคำสั่งคนแดนไกลทางโทร ให้สร้างสมญานามบิ๊กตู่ ที่ไปเยือนอิตาลี ให้น่ากลัวหน่อย จากนั้นก็ร่วมมือกับ ส.ส.อิตาลี เพื่อนคนแดนไกล ที่ขุนน้ำข้าวไว้ กับนางจรรยา ล้มเจ้า อาศัยช่วงนั้นที่อิตาลี นักศึกษาเขามีก่อม็อบเรื่องเหยียดผิว และเรื่องแข่งรถกัน

แก็งค์นี้เลยทำป้ายไปตีเนียน ยืนที่หน้าม็อบ แล้วให้นักศึกษาอิตาลีช่วยถือ จากนั้นก็ถ่ายภาพกันใหญ่ ให้นักข่าวไซออนิสต์ประโคมว่ามีม็อบต้าน สุดท้ายถูกจับได้ แก็งค์ติดอาวุธแดง นปช. ก็อายจนแทบแทรกแผ่นดิน แต่พวกนี่ถือคติด้านได้ อายอด

3.5. สร้างภาพ แบบขาว-ดำ โดย สร้างภาพการแบ่งแยก ฝ่ายถูกผิดชัดเจนเป็นสีขาว-ดำ ใครเข้าข้างตนจะเป็นฝ่ายถูก ส่วนใครไม่เห็นด้วยก็จะถูกผลักไปเป็นฝ่ายผิดทันที พวกนี้จะตั้งธงบังคับให้ คนหลงเชื่อในสิ่งที่เขากล่าวอย่างง่ายดาย เข้าร่วมและคนรู้ไม่เท่าทันอาจไม่ฉุกคิดเลยว่า สิ่งที่เขาพูดไม่ตรงกับการกระทำอย่างใดเลย

แก็งค์ติดอาวุธแดง นปช. สายเสรีเทย ขบวนการล้มเจ้า จะอ้างแบบพิลึกว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ว่าคนอื่นคลั่งเจ้าบ้าง ตามืดบอดบ้าง ยิ่งเป็นข้อมูลที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้หรือเห็นชัดเจน คนที่ได้รับข้อมูลเข้าไปก็จะยิ่งเชื่อ ใครไม่มาร่วมด้วยเป็นฝ่ายอำมาตย์

และพวกเขาถูกกดขี่ ไม่มีความเท่าเทียม อ้างว่ายุคนี้เผด็จการ ทั้งที่ความจริงๆ แล้วแกนนำแดงกลับเป็นผู้หลอกใช้ กดขี่คนเสื้อแดงเสียเอง และยุคนี้มีเสรีภาพมากกว่าสมัยยุคเผาไทยเป็นรัฐบาล หลายร้อยเท่า เพราะสมัยนั้นแค่คิดต่างก็เจอประเคน M79 และระเบิด RGD-5 ใส่ไม่ยั้งแล้ว แต่สมัยรัฐประหารนี้ คนไทยกลับมีเสรีภาพมากกว่าอเมริกาเสียอีก

แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ ก็ดูหมิ่นนักบวชที่ประพฤติดีประพฤติชอบในศาสนา โดยการโจมตีสร้างภาพพระสุเทพ ไว้หน้าปกนิตยสาร เป็นการเหยียดหยามน้ำใจชาวพุทธและมวลชน กปปส. และผู้ที่เคารพอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าแก็งค์นี้จะเพี้ยนสมองกลับทำได้ถึงเพียงนี้ ช่างตลกร้ายนัก

แก็งค์เคลื่อนไหวพลังงาน ก็เร่งเร้ามวลชนในสังกัดอย่างหนัก สร้างภาพว่าบิ๊กตู่ ทำความเสียหายให้ชาติ ในการเปิดสำรวจปิโตรเลียมรอบที่ 21 ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่ชาติควรจะได้รับ แล้วการสำรวจฯ พลังงาน มันไม่ดีตรงไหน ?? แค่เปิด “สำรวจ” ประเทศชาติยังได้รับค่าธรรมเนียมว่าเข้าคลัง 5,000 บาท มาเป็นสวัสดิการสังคม ค่ายาคนป่วย ค่าเรียนฟรีของเด็กๆ

จากนั้นแก็งค์เคลื่อนไหวพลังงาน ก็อัดด่าทอหลวงปู่พระที่ดี อย่างหนัก เหตุเพราะหลวงปู่ไล่ตะเพิดคราวก่อน ที่มาป่วนเวทีเสวนาปฏิรูปพลังงาน โดยไม่เคารพกติกาอะไรทั้งสิ้น จะป่วนมันลูกเดียว วันนี้แก๊งค์นี้ ผสมกับเสื้อแดงแฝงกาย เลยด่าทอ หลวงปู่ ด้วยคำหยาบคายไปทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์คเต็มไปหมด ไม่เชื่อลองไปหาดูได้ว่าจริงหรือไม่

แท็กทีม แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ โจมตีพระสุเทพ และบิ๊กตู่ , แก็งค์เคลื่อนไหวพลังงาน โจมตีหลวงปู่ และบิ๊กตู่ , กองกำลังแดงในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทำตัวเป็นแดงแฝงกาย ผสมโรงด่าทอเมามัน..ถ้าใครคิดว่าสิ่งนี้มันเป็นไปตามธรรมชาติก็ผิดแล้ว..ขอบอกว่าเขานัดกันมา !!

3.6. ชูธงสูงส่ง...อ้างสิ่งสวยงาม ตามหลักมหาบุรุษ อ้างตนเองและกลุ่ม แนวคิดของตน ให้ดูยิ่งใหญ่ สูงส่ง อลังการ มีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ด้วยคำพูด และป้าย ใช้ข้อความที่ดูดี อ้างอิงสิ่งเหนือธรรมชาติ หรือนามธรรมที่คนยอมรับ เช่น เทพเจ้า พระเจ้า เทพยดา อ้างแนวทางของบุคคลในประวัติศาสตร์

แก็งค์ติดอาวุธแดง นปช. ก็จะสร้างอีเว้นท์ ชูภาพเจ้าหญิงล้านนาปูข้าวเน่า เป็นอองซานซูจี , ชูภาพให้นั่งเว่อร์ๆ ในการเป็นประธานเผาซากศพพวกหมิ่นเจ้า , ชูภาพคนแดนไกล เจ้ามูลเมือง เป็นคานธี ทำให้รู้สึกเหมือนเก่ง คิดไม่เหมือนคนอื่น เหล่านี้ชาวบ้านจะถูกล้างสมองให้เชื่อทั้งสิ้น

คางคกตู่ ก็ออกมาอัดกับเป็ดเหลิม แฉ กันใหญ่ เพื่อเลี้ยงกระแสมวลชนไว้ และชูธงสูงส่งว่ากินอุดมการณ์ (แต่จริงๆ กินหัวคิว) และวิเคราะห์ว่าหลังรัฐธรรมนูญใหม่ กรรมการบริหารแก็งค์เผาไทย 220 คน และอดีต ส.ส. , อดีต ส.ว.เด็กในคอนโทรล อีก 308 คน คงถูกคุมกำเนิดยกเข่ง ไม่ได้ผุดได้เกิด เกลี้ยงสนามการเมือง

ตอนนี้แดง นปช.ถูกทำลายด้วยพวกเดียวกันเอง ตลอด 3 ปี จนพ่ายแพ้ ไม่ใช่มือที่มองไม่เห็น ตอนนี้จึงถึงเวลาแล้วที่แดง นปช.จะต้องปฏิรูปตัวเองบ้าง เพื่อเตรียมลงสนามเลือกตั้ง..น่าน โหนกระแสปฏิรูปเสร็จสรรพ

แหม แค่การสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ของไทย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่จะเริ่มก่อสร้าง ก็จะใช้งานได้ในไม่เกินปี 2564 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า และบิ๊กตู่ บอกจะต้องคอยอยู่ควบคุมกำกับให้เสร็จทันกำหนดให้ได้ แค่นี้ทำเป็นดิ้น..เอ๊ะ..ยังไง คริคริ (^_^)

ส่วนแก็งค์สภาท่าพระจันทร์ ก็ชูภาพผู้นำกลุ่ม ว่าอุดมการณ์สวยหรู เสียสละเพื่อชาติอีกสักรอบ ไม่สนใจเรื่องทวงคืนพระวิหาร –ทุจริตจำนำข้าว อะไรอีกแล้ว เพราะเริ่มรู้ว่าอย่างไรเสียแม้อัยการจะยังไม่ฟ้องศาล เดือน พ.ย.57 นี้ ปปช.ก็ฟ้องเองแน่ๆ

แล้วคดีก็จะขึ้นสู่ศาล ใช้บรรทัดฐานเดียวกับคนแดนไกล ที่ถูกยึดทรัพย์ไป 4.6 หมื่นล้านบาท สมัยนั้นระยะเวลาก็ประมาณ 5 ปี คดีนี้กฎหมายเทียบเคียงกัน ระยะเวลาคงไม่ต่างจากกันมากนัก เมื่อศาลตัดสินแล้ว จะให้ยึดทรัพย์เท่าไร ก็ตามคำพิพากษานั้นแหละ

ตอนนี้ แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ แก็งค์เคลื่อนไหวพลังงาน แก็งค์ติดอาวุธแดง นปช. จึงจับมือกันหันมาเล่นงานทหาร หวดเรื่องพลังงานลูกเดียว ทำกันเป็นขบวนการอย่างเนียน..เริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้หรือยัง ??

3.7. ควบคุมข้อมูลผ่านสื่อสารมวลชน บอกข้อมูลไม่ครบ บอกความจริงไม่หมด เลือกแต่เฉพาะข้อมูลหรือข่าวที่ส่งผลดีต่อฝ่ายตนเอง ใช้การอ้างนอกเรื่องเบี่ยงเบนประเด็น หรือนำคำพูดที่ไม่เกี่ยวข้องกันมาแต่งเติมเสริมเข้าไปให้ดูดี ใช้สื่อมวลชนที่เข้าถึงคนหมู่มาก บอกผ่านกันไปปากต่อปาก จะยิ่งดูน่าเชื่อถือ พอตั้งข้อสงสัย ก็ถูกตอบว่า "ก็ทีวีว่ามาอย่างนี้"

ปกติ หน้าที่ของสื่อข้อหนึ่ง คือ คัดกรองข่าวสาร เลือกข่าวสารที่มีประโยชน์ เป็นจริง และกำจัดข้อมูล ข่าว ภาพ ขยะที่เป็นเท็จ และไม่เป็นประโยชน์ทิ้งไป เมื่อสื่อมาโฆษณาชวนเชื่อเสียเอง การคัดกรองข่าวสารก็จะบิดเบี้ยว กลายเป็นว่า คัดเฉพาะข้อมูลที่เข้าข้างฝ่ายตน มีประโยชน์ต่อตนเอง หรือหากข้อมูลเป็นกลางที่ชี้แจงแล้ว ก็จะนำมาตัดแต่งเติมต่อตีความให้เข้ากับแนวคิดของตนเอง

รวมทั้งการเรียบเรียง ตัดทอน และละเลยข้อเท็จจริงไป แล้วนำเรื่องยากซับซ้อนต้องใช้ความรู้ความเข้าใจสูงมาพูดเป็นเรื่องพื้นๆ ให้คนเชื่อตาม นอกจากจะเป็นกระบอกเสียงสร้างความนิยมให้กับแก็งค์แล้ว เมื่อมีโอกาสก็จะฉวยจังหวะเปิดโอกาสให้ กล่าวหาอย่างผิดปกติธรรมชาติ พิลึกพิลั่น แบบหน้าไม่อาย เช่น เจ้ยุแยง โพสวันนี้ มติชิน ข่าวแห้ง สรย้วย ฯลฯ

สมัยหล่อใหญ่ แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ ใช้การปั้นเรื่องว่ามีคนหลอกวีรบุรุษไปให้เขมรจับ แยกคนไทยผู้รักชาติ ออกจากกัน ด้วยความเกลียดชัง ก่อม็อบยาวนานกว่าปี , ส่วนสื่อแดงทั้งหลาย ก็จะเล่นข่าวตามกระแสแบบเกินจริง ที่กำหนด Agenda ไว้ เช่น ข่าวชาวต่างชาติตาย หรือ ถูกทำร้ายในไทย

สื่อแดงจะโหมกระแสบิดเบือนต้านเรื่อง “สำรวจ” แหล่งพลังงาน แต่จะอ้างโดยยึดข้อมูลกลุ่มเคลื่อนไหวพลังงาน เพื่อไม่ยอมหรือขัดขวางให้รัฐบาลทำโครงการสำเร็จ เพราะถ้ารัฐบาลทำสำเร็จ ราคาน้ำมันลดลงได้ มันจะส่งผลร้ายต่อทุกแก็งค์ ให้ไม่มีที่ยืนในสังคมทันที

แก็งค์ทั้งหลายจึงดึงดัน คือ "ทำได้ทุกอย่างไม่ให้แพ้" หรือ "แถได้เรื่อยๆ จนกว่าพวกจะชนะ" แนวรบจากชาติมหาอำนาจเปลี่ยนไป แต่แนวรบด้านสื่อ และกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ได้รับเงินจากระบอบทุน ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น จากทั้งในและนอกประเทศ

ดังนั้นช่วงระยะต่อจากนี้ ฟันธงว่า แก็งค์แบ่งงานกันทำ ความเหมือนที่แตกต่าง จะขยายข้อขัดแย้งปัญหาพลังงาน ให้กลายเป็น ความแตกแยกของประชาชนในสังคม โดยให้ความเชื่อที่ผิดๆ ถ้าใครศึกษาแนวคิดจิตวิทยา ก็จะรู้ว่า “ นี่คือระบอบลัทธิ” ไม่ใช่ธรรมชาติความเชื่อปกติ

จากนั้นก็จะต่อต้านการพัฒนารางรถไฟ ที่ประเทศไทยไม่ได้พัฒนามาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 แล้ว พอรัฐบาลนี้จะทำเพื่อประเทศ โดย “ไม่ต้องกู้ใดๆ ทั้งสิ้น” ใช้งบประมาณปกติ แค่ไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท ตามกำลังเงินที่ประเทศเรามี แต่ค่อยๆ ทำแบบพอเพียง คอยดูจะมีกลุ่มมาให้ข้อมูลบิดเบือนต่อต้านอีก..ฟันธง

เพราะมีคน “ หูเบา โลกสวย ข้อมูลน้อย แล้วคล้อยตาม “ ก็จะตกเป็นเหยื่อให้เขาหลอกใช้ปั่นหัว สร้างความวุ่นวายให้กับสังคมต่อไป ไม่ยอมให้ประเทศไทย ได้พักฟื้นจากความบอบช้ำ พอใกล้เลือกตั้งปีหน้า ก็จะชูเรื่องนี้เป็น ประเด็นโหวตโน ใครอยากได้ใช้พลังงานราคาถูก ให้โหวตโน !!

แต่หาความคิดของกลุ่มตนพลาด ทำให้ราคาพลังงานยิ่งแพงขึ้นไปอีก ก็จะใช้ประเด็นนี้ ชวนคนลงถนน เพื่อไปก่อม็อบ เป็นผู้นำมวลชนบนถนน มีอำนาจการต่อรองทางการเมือง สูตรแบบนี้ไม่เปลี่ยนไปมากหรอก

มีการอ้างฉากบังหน้าว่าไม่แบ่งสี ทำเนียนๆ แต่เบื้องหลังระดมคน และพยายามหาเหตุต่างๆ นาๆ ป้ายสีดิสเครดิส ทำลายชื่อเสียงของรัฐบาล ขณะเดียวกันก็เดินตามแผนแบ่งแยกประชาชนออกจากกัน เพจนี้เคยเตือนประชาชนไปแล้ว แต่หลายคนก็พลาดเสียทีเขาจนได้

เพราะมองโลกสวย มองคนที่เปลือกนอกเกินไป คิดว่าเขาคงหวังดีจริงๆ ประวัติเขาดีนะ คนที่คิดทันก็จะได้บทเรียนชีวิตอีกหนึ่งบท ว่าน้ำดีกับน้ำเสีย มันกวนเข้ากันไม่ได้ง่าย มันต้องแกว่งสารส้ม ให้ตะกอนน้ำเสียแยกออกมาเสียก่อน เมื่อนั้นน้ำจึงจะเป็นเนื้อเดียวกัน และเป็นน้ำสะอาดได้

พยัคฆ์นิ่ง ใช่ว่าไม่รู้และหลับ แต่กลยุทธ์ ลับลวงพราง จริงคือเท็จ เท็จคือจริง จริงคือจริง เท็จคือเท็จ แบบนี้จะแยกมิตรแท้ ออกจากมิตรเทียม ปล่อยให้เขาเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาเรื่อยๆ ให้ประชาชนเห็น ให้ความรู้ประชาชน รู้จัดแกว่งสารส้ม แยกน้ำดีกับน้ำเน่า ออกจากกันได้ง่าย

ไม่อย่างนั้น ประชาชนขืนกินน้ำพิษนี้เข้าไป ตกหลุมพลางแก๊งค์แบ่งงานกันทำ ที่เขายุให้แตกกันเอง แล้วมาก่อม็อบมาไล่ทหารที่กำลังแก้ปัญหาความขัดแย้งของชาติ ที่บรรดาสารพัดแก็งค์เล่นละครตบตามากว่า 10 ปี

ก็จะส่งผลให้ การต่อสู้ของมวลมหาประชาชน ที่ยาวนานมา 7 เดือนที่แล้ว เพื่อขับไล่แก็งค์เผาไทยขี้โกงออกไป ก็เท่ากับสูญเปล่า นั่นเพราะประชาชนไม่รู้คุณค่าว่า สิ่งที่ได้มากแสนยากนั้น กลับไม่รักษาไว้ และทำลายความฝันของตัวเองด้วยมือ

ขงจื้อบอกว่า “ ถ้าวางแผน 1 ปีให้ปลูกข้าว..ถ้าวางแผน 10 ปีให้ปลูกต้นไม้..ถ้าวางแผน 100 ปี ให้การศึกษากับคน” เสธ รู้ว่ามีคนที่ฝังหัวอยู่มากกับตัวบุคคลที่รัก และชื่นชอบสิ่งที่เขาทำในอดีต แนะนำว่า อย่าได้ปักใจเสีย 100% ให้ถอยออกมาเงียบๆ สักพัก แล้วทำใจให้ว่างๆ

การเสพข้อมูลจากด้านใดด้านเดียวตลอดเวลา ทำให้ท่านถูกล้างสมองจากโฆษณาชวนเชื่อ แล้วท่านก็จะเห็นข้อมูลในมุมมองอื่นผิดไปหมด นั่นเพราะท่านได้ปักใจไปแล้ว ว่าข้อมูลที่เสพมามันต้องใช่แน่ๆ เพราะเชื่อใจเขาๆ คงไม่โกหกเราหรอก

แต่ท่านก็ไม่เปิดใจศึกษาข้อมูลอีกด้านอย่างลึกซึ้ง ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องกว่าก็ได้ ทำไมท่านไม่ลองให้รัฐบาลนี้ เขาทำอะไรเพื่อประเทศตามแนวคิดของเขาบ้าง ถ้าอีกสัก 2 ปีมันไม่ดีขึ้นก็มาประท้วงอีกที ถึงตอนนั้นท่านก็คงจะมีแนวร่วมมาก

แต่ตอนนี้ คสช.ทำงานได้ 5 เดือน รัฐบาลทำงานได้ 2 เดือน น้ำมันก็ลดราคาฮวบๆ กว่ารัฐรัฐบาลที่แล้ว แก๊สเมื่อเทียบกับรัฐบาลก่อนก็ถูกกว่าอยู่ดี ถ้าจะเอาราคาพลังงานถูกกว่านี้ ก็ต้องปล่อยให้รัฐบาลเขาทำงาน ไม่งั้นราคามันจะลดลงได้อย่างไร ถ้าท่านไปขัดขวางเขา

ขาข้างหนึ่งก็ปฏิรูปไป ขาอีกข้างก็ต้องเดินหน้าพลังงาน จะมัวเดินขาเดียวเป็นคนขาเป๋ อยู่ได้อย่างไร พัฒนา กับปฏิรูป มันก็ต้องทำไปด้วยกัน จะมาหยุดรอถ่วงเวลาไปเพื่ออะไร เกิดผลเสียขึ้นมา กลุ่มเคลื่อนไหวก็ไม่เคยรับผิดชอบชีวิตของท่านอยู่แล้ว

ต้องขอยกขึ้นมาอีกครั้ง ตอกย้ำให้เจ็บแล้วจำ กรณีมีกลุ่มเคลื่อนไหวรับเงินจากนายทุน ก่อม็อบต้านเหมืองแร่โปแตส จนต้องปิดเหมือง และโรงไนเตรต จนเป็นผลให้ “โครงการปุ๋ยแห่งชาติ” ล้มพังครืนลง ดับฝันชาวนาชาวไร่หลายสืบล้านคน จนถึงปัจจุบัน ชาวนา ชาวสวน ต้องซื้อปุ๋ยแพงแบบผูกขาดจากพ่อค้าไม่กี่เจ้าจนถึงทุกวันนี้

ถึงนาทีนี้พวกที่ออกมาก่อม็อบแย้วๆ ครั้งนั้น ก็รับเงินนายทุนรวยอื้อไปแล้ว แต่ไม่เคยออกมาช่วยค่าปุ๋ยแพงให้ชาวนา ชาวสวน เลยสักบาท เสวยสุขอยู่บนหยาดเคลื่อไคลของคนยากจน...นี่คือบทเรียนของจริง คนไทยเสียโอกาส และเจ็บปวดกี่ครั้ง กับกลุ่มที่ต้านทุกเรื่อง

กลุ่มต่อต้านก็ดื้อจะเอาแต่แนวคิดของตนว่าถูกลูกเดียว โดยไม่เคยยอมรับแนวคิดคนอื่น เช่น แนวทางของหลวงปู่ ใครจะทำอะไรก็ไม่ถูกใจสักอย่าง ประเภท “กบเลือกนาย“ โบราณเคยเตือนและสอนไว้ ระวังท่านจะเจอนายหลอกไปจิกกินอย่างโอชะ

จริงๆ กลุ่มเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะนิยามชื่อตนเองอย่างไร ความจริงตามสภาพก็ “กลุ่มการเมือง” นั่นแหละ ถ้าประชาชนอยากได้ปลา กลุ่มเคลื่อนไหว ก็จะเอาปลาทั้งตัวมาให้แค่ตัวเดียว เพื่อให้ท่านพึงพอใจเฉพาะหน้า มันสะใจดี

แต่สำนักคิดทหาร ยึดแนวเศรษฐกิจพอเพียง จะเอาอุปกรณ์จับปลามาให้ท่าน แล้วประชาชนก็ไปเลือกจับปลากินเองได้ในอนาคต จะจับกี่ตัวก็ได้ เลี้ยงชีพตลอดไปจนตาย วิธีนี้อาจไม่ทันใจปุบปับนัก แต่ส่งผลดีเป็นธรรม ต่อประเทศของเราในระยะยาว

ขออัญเชิญ พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512

“ ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อย จึงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ “

ตอนนี้หากอยากไล่รัฐบาลทหารอนุรักษ์นิยม เพราะเขามีแนวทางและวิธีคิดไม่ตรงกับท่าน แล้วถามว่าตอนนี้ท่านมีทางเลือกที่ดีกว่าทหาร และเขามีศักยภาพคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ไหม ??

ถ้าคำตอบคือยังไม่มี ก็ควรแยกย้ายกันไปทำมาหากินตามปกติ เพราะออกมาก่อม็อบเกิน 5 คน ก็ต้องถูกจับ และคุมขัง เจ้าหน้าที่เขาไม่ทำก็ต้องทำ เพราะมันผิดกฎหมาย มันทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เศรษฐกิจไม่ดี , ดูกรณีศึกษาฮ่องกงนั่นไง ร่ำรวยอู้ฟู่เพราะจีนอยู่ดีๆ แต่เลือกนายมาก อยากได้ฝรั่งเป็นนาย ก่อม็อบดื้อดึง จนเศรษฐกิจฮ่องกงพินาศอย่างที่เห็นนี่แหละ

คอยดู วันที่ 27 ต.ค.57 ก่อนเที่ยง จะมีแก็งค์แบ่งงานกันทำศรีสุวรรณ ที่เคยต่อต้านบิ๊กตู่เป็นนายกฯ จะรับจ็อบไปเคลื่อนไหวที่ศาลปกครอง , วันที่ 29 ต.ค.57 ช่วงสาย ก็มีอีกม็อบ ยกพวกไปป่วนที่กองทัพบก พอตกช่วงบ่าย ก็เคลื่อนย้ายม็อบ ไปป่วนที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ให้คอยดูตามนี้

โดยทั้ง 3 เหตุการณ์จะมีสื่อแดง และสารพัดแก็งค์ จะแท็กทีมกันผิดปกติ ดิ้นโหมประโคมข่าวใหญ่โต ปานว่าบ้านเมืองจะล่มสลายแล้ว อยู่กันไม่ได้แล้ว จะต้องตายแน่ๆ ถ้าชาติไทยจะเจริญเพราะทหาร และประชาชนอยู่ดีกินดี เพราะน้ำมันจะถูกลงเพราะทหาร

บ้านเมืองเราบอบช้ำหนักมามากนานพอแล้ว ปล่อยให้ประเทศไทยได้พักบ้าง ปล่อยให้ประชาชนที่เขารักความสงบ เขาได้อยู่อย่างสบายใจบ้าง หยุดเอาแต่ใจตนเอง และใส่ใจความรู้สึกคนอื่นบ้าง สังคมเราจะได้น่าอยู่ขึ้น

@ เสธ น้ำเงิน2
https://www.facebook.com/topsecretthai

"กติกา" โปรดงดออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ /นำข่าวลือเขาว่ามาโพส / ลิ้งใดๆ ทุกชนิด / คำหยาบ / ข้อความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ภาพ / การให้ร้ายดูหมิ่นรัฐ และ คสช. ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้
 — กับ หนึ่ง อำนักมณี และ 9 อื่นๆ (รูปภาพ 23 รูป)

ไม่มีความคิดเห็น: