PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ฮ.212เสี่ยงเคยวั่งโละซ่อมปี54

(ข้อมูลข่าวพ.ศ.2554)กรณี ฮ.เบลล์212 เคยตก ปี54 ที่เพชรบุรี และมีคำสั่งห้ามใช้ เข้าอู่ซ่อมทั้งหมด ช่วง พล.อ.ประยุทธ เป็น ผบ.ทบ.
////
เพชรบุรี - ช็อก!! เฮลิคอปเตอร์เบลล์ 212 ตกอีกเป็นลำที่ 3 ขณะบินไปรับศพนายทหารทั้ง 7 นายที่ประสบอุบัติเหตุแบล็กฮอว์กตกเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานทหารบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน และช่างเครื่อง ขณะที่ ผบ.ศบบ.คาดสาเหตุที่ตกเกิดจากใบพัดหางขัดข้อง ล่าสุดมีคำสั่งเคลื่อนย้ายร่าง ที่ 3 -5 ของแบล็กฮอว์ก เปลี่ยนจากเฮลิคอปเตอร์เป็นรถของทหารแทนล่าสุด ผบ.ทบ.ยันจำเป็นใช้ ฮ.ปฏิบัติภารกิจต่อ เผยได้สอบถามช่างเครื่องที่บาดเจ็บพบว่า เครื่องยนต์ดับพร้อมกัน 2 เครื่อง ทำให้ศูนย์เสียการบังคับ เครื่องจึงตกกระแทกพื้น และเกิดระเบิดขึ้น 
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ก.ค.54) เมื่อเวลา 09.35 น. เฮลิคอปนเตอร์รุ่นเบลล์ 212 ได้ตกที่บริเวณหมู่ 7 บ้านหนองเกตุ อำเภอแก่งกระจาน ขณะบินไปรับศพนายทหารทั้ง 7 นายที่ประสบอุบัติเหตุแบล็กฮอว์กตกเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่ามีไฟลุกไหม้ที่ตัวเครื่องด้วยก่อนที่จะตก
       
       มีรายงานว่า มีทหารบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ เป็นช่างเครื่องสังกัดกองบินปีกหมุน และมีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ธีรวัฒน์ แก้วกมล นักบินที่ 1 ร.ท.บูรณา หวานใจ นักบินที่ 2 และ จ.ส.อ.วิเชียร จันทร์พัฒน์ ช่างเครื่อง ทั้งนี้ บนเครื่องมีทหารทั้งหมด 4 นาย
       
       ด้าน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินกล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวได้บินขึ้นเพื่อตรวจสอบสภาพอากาศ จากนั้นขาดการติดต่อเป็นเวลานานกว่า 10 นาที ต่อมามีรายงานว่าเฮลิคอปเตอร์ประสบอุบัติเหตุตกในพื้นที่ป่า โดยจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตกอยู่ห่างจากค่ายฝึกการรบพิเศษแก่งกระจานราว 5 กิโลเมตร
       
       ขณะที่ พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาเป็นรุ่นเบลล์ 212 เป็นลำเดียวกับที่บินลำเลียงศพ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ และนายศรวิชัย คงตันนิกูล ช่างภาพข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 กลับไปยังค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวานนี้ แต่เป็นนักบินคนละชุดกันที่เดินทางมาสนับสนุนภารกิจกู้ศพวันนี้ โดยเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวมีทิศทางบินมาจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ค่ายฝึกการรบพิเศษแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
       
       พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ระบุถึงสาเหตุที่ทำให้เครื่องตกว่า เกิดจากการสูญเสียการบังคับหมุนไปทางขวาคุมเครื่องไม่ได้ และอาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบเหตุอุบัติเหตุที่เครื่องตก
       
       ขณะเดียวกัน พล.ต.พิทยา กระจ่างวงศ์ ผู้บัญชาการศูนย์การบินทหารบก ประเมินสาเหตุเฮลิคอปเตอร์แบบเบล 212 จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ว่าน่าจะมาจากใบพัดหางขัดข้อง ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
       
       ทั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งในการเคลื่อนย้ายร่างที่ 3-5 ของเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก ที่ต้องรอร่างอื่นๆ ด้วยที่จะไปยังค่ายสุรสีห์ โดยเปลี่ยนจากเฮลิคอปเตอร์เป็นรถของทางทหารแทน
       
       ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ระบุถึงอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์เบลล์ 212 ตก ล่าสุดได้รับรายงานจากช่างเครื่องที่รอดชีวิตบอกว่า เครื่องยนต์ดับพร้อมกัน 2 เครื่อง ทำให้ศูนย์เสียการบังคับ เครื่องจึงตกกระแทกพื้น และเกิดระเบิดขึ้น แม้อุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกต่อเนื่องเป็นลำที่ 3 ในภารกิจนำร่างทหารที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ แต่ผู้บัญชาการทหารบกยังยืนยันว่า มีความจำเป็นที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ในภารกิจต่อไป เนื่องจากระยะทางไกลและยากลำบากในการเดินเท้า ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวัน พร้อมย้ำถึงการปฏิบัติภารกิจที่ต้องใช้ความระมัดระวังอยู่แล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุซ้ำ
       
       ทั้งนี้ เฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ได้ตกซ้ำอีกเป็นลำที่ 3 แล้ว โดยก่อนหน้านี้เฮลิคอปเตอร์รุ่นฮิวอี้ได้ตกเมื่อวันที่ 16 ก.ค. มีนายทหารเสียชีวิต 5 นาย หลังจากนั้นอีก 3 วัน เฮลิคอปเตอร์รุ่นแบล็กฮอว์กได้ตกอีกเป็นลำที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 นาย
       
       ส่วนความคืบหน้าของการลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์รุ่นแบล็กฮอว์กตกก่อนหน้านี้ ได้เพิ่มเติมอีก 3 ราย มายังค่ายฝึกการรบพิเศษแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ทำให้ในขณะนี้ยังเหลือร่างผู้เสียชีวิตอีก 4 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกลำเลียงมาทั้งหมดภายในวันนี้ ขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกลำเลียงมาเข้าสู่ขั้นตอนของการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตามกำหนดการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและบำเพ็ญกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กตกทั้ง 9 ราย จะดำเนินการพร้อมกัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคอยความสำเร็จในการลำเลียงศพผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก 7 ราย จากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มายังโรงพยาบาลค่ายสุรนารี จ.กาญจนบุรี เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ก่อนที่จะประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
       
       รวมถึงการลำเลียงผู้ที่เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเช้า โดยอาจจะมีการลำเลียงศพมาประกอบพิธีพร้อมกันในวันพรุ่งนี้ และญาติจะนำศพไปประกอบพิธีต่อยังภูมิลำเนา
       
       ขณะที่กำลังพลของกองพลทหารราบที่ 9 ได้จัดเตรียมสถานที่และซักซ้อมพิธีการในการที่จะประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ โดยมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบกจะเดินทางมาร่วมงานในวันพรุ่งนี้
       
       และเมื่อช่วงสายวันนี้ พ.ท.หญิง ปริยานุช เรืองศรี ภรรยาและครอบครัว รวมถึงญาติสนิทของ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ได้มีการทำบุญถวายภัตตาหารเพลให้กับพระสงฆ์ เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับ พล.ต.ตะวันและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้
////
(ประสบการณ์ช่างภาพเขียนผ่านบล็อค)

... เรื่องเล็กน้อย ( แต่ ) ยังไม่ลืม!!!! ครั้งหนึ่งบนฮ.เบลล์ ( Bell 212 ) ...

... ความสูญเสียครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับบุคลากรของกองทัพบกและช่างภาพข่าว ททบ.5 จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วยฮิวอี้ - แบล็กฮอว์ก และ เบลล์ 212 ตกขณะปฏิบัติหน้าที่กลางผืนป่าแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ติดชายแดนไทย - พม่า ทำให้นักบินและช่างเครื่องเสียชีวิต ถึง 16 นาย รวมถึงพลเรือนอีก 1 ราย ตลอดระยะเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่าน ได้สร้างความเศร้าสะเทือนใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศอย่างใหญ่หลวง ....
... จนกองทัพบกออกคำสั่งห้ามนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นปฏิบัติภารกิจชั่วคราว โดยเฉพาะ ชนิดเบลล์ 212 ที่ใช้งานประจำอยู่กว่า 20 ลำ ถูกระงับนำมาใช้งานทั้งหมดเพื่อนำเข้าโรงงานซ่อมเช็คสภาพความพร้อม เพื่อป้องกันเกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก
... หลายครั้งที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเฮลิคอปเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดจากสภาพอากาศขณะในนั้น หรือสภาพความพร้อมของเครื่องยนต์ มักจะมีการสูญเสียตามมาอย่างใหญ่หลวง และคำถามที่มักได้ยินบ่ิอยมากคือ เครื่องบางรุ่น ใช้งานมานานแสนนานควรเลิกใช้ นำไปโยนทะเลทำบ้านให้ปลาได้แล้ว และซื้อเครื่องใหม่มาทดแทน เพื่อลดสภาพความเสี่ยงของนักบินและช่างเครื่องขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่เรามักจะได้รับคำตอบที่ซ้ำๆซากๆอยู่เสมอนั่นคือ ...

... ไม่มีงบประมาณ !!!!!!!! ..............



... สุดท้ายต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ " นักบิน " และ " ช่างเครื่อง " 4-5 นายที่ประจำเฮลิคอปเตอร์แต่ในละลำ

น้ำมันเยิ้ม น็อตหลุด ....

ลูกแมวเข้าไปอยู่ในเครื่องยนต์หรือไม่ !!!..

พวกเขาต้องรู้หมด พลาดไม่ได้เพราะนั่นหมายถึงชีวิต รวมถึงผู้โดยสารที่เดินทางร่วมไปด้วย ...
... พูดไม่ไกลเกินจริงทั้ง นักบิน และ ช่างเครื่อง ของกองทัพไทย เป็นบุคคากรทางการบิน ที่เก่งและยอดเยี่ยมที่สุดกว่าใครๆไม่เว้นแม้ ประเทศเจ้าของผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ที่เราไปซื้อมา  !!!........
... สมกับเป็นมหาอำนาจทางทหาร ที่ทรงแสนยานุภาพลำดับที่ 19 ของโลก ......
... ไม่เข้าใจอยู่อย่างนึง พอเกิดเหตุร้ายขึ้นมาในแต่ละครั้ง เรามักได้ยินถ้อยคำของนักนิยมการใช้ภาษา ว่า ...

  " ถึงเครื่องจะเก่า แต่นักบินใหม่ " ไปเสียฉิบ .....

แม้จะเป็นเพียงแค่การสับพยอก แต่นั่นหมายถึงอาการ " เจ็บลึก " หากเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาจริงๆ ...



... เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า เฮลิคอปเตอร์บางรุ่นที่กองทัพยังใช้งานอยู่ในปัจจุบันใกล้ปลดระวางเต็มที แถมหาอะหลั่ยใหม่ๆมาสับเปลี่ยนยากเย็นแสนเข็ญ แต่ก็ยังสามารถนำเครื่องขึ้นบินปฏิบัติภารกิจได้ ....
... นั่นไม่ใช่เพราะความสามารถของ " นักบิน " และ " ช่างเครื่อง " หรือ .....

และที่สำคัญที่สุดก็คือ ประสบการณ์ที่แต่ละคนได้สั่งสมกันมาจนหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันระหว่าง คนกับเหล็กบินได้ .....

... มันเป็นเรื่องที่เศร้า มาก เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นกับพวกเขาขณะปฏิบัติหน้าที่
   เพราะมันคือหน้าที่ ที่ต้องปฏิบัติ ...



... จากประสบการณ์ของตนเองครั้งหนึ่ง เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะนั่งเฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ ( Bell 212 ) ของหน่วยบิน ฉก.อโณทัย กองทัพภาคที่ 4 ขึ้นสำรวจพื้นที่ ที่เพิ่งถูกน้ำป่าหลาก ภูเขาถล่มใส่บ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามเชิงเขาพนมเบญจา อ.เขาพนม จ.กระบี่ เพื่อบันทึกภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น  เพราะไม่มีความสามารถเหาะไปได้ด้วยตัวเอง แม้ความรู้สึกลึกๆ จะไม่นิยมความสูงเอาเสียเลย จากความหลังที่เคยตกจากการปีนหน้าผา ( จำลอง ) ที่ภูเก็ตจนส้นเท้าแตก และพลัดตกต้นไม้เมื่อครั้งยังเด็ก ...



... แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธตัวเองได้เลย เมื่อจำเป็นต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์
   ไม่ใช่เพราะความอยาก !!!
    แต่มันก็เป็นหน้าที่เช่นกัน ในฐานะที่เป็นสื่อ ฯ ...

ที่ชอบสอดรู้สอดเห็น
    และ ชาตินี้ คงไม่มีปัญญาที่จะซื้อเฮลิคอปเตอร์มา เป็นสมบัติส่วนตัวได้  ..



... วันนั้นฝนตกหนักตลอดตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย เมื่อฝนซา ฟ้าเริ่มเปิด เวลาประมาณสี่โมงเย็นกว่าๆ ฮ.เบลล์ 212 ลำดังกล่าวก็ยกตัวขึ้น หน้าสนามหญ้าเทศบาลตำบลเขาพนม มุ่งสู่เขาพนมเบญจาจุดเกิดเหตุภูเขาถล่ม ตลอดระยะเวลาที่อยู่บน ฮ.ก็ได้บันทึกภาพไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ทันถึงที่หมายบริเวณที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด จู่ๆฝนก็ตกลงมาอีก ....



...  ทำให้นักบินและช่างเครื่องต้องตัดสินใจ นำเครื่องบินกลับจังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะเป้าหมายเดิม ภารกิจได้สิ้นสุดที่นั่น ซึ่งตลอดการเดินทางบนอากาศขณะนั้นฝนได้ตกลงมาเป็นระยะๆ นักบินต้องใช้ประสบการณ์และความสามารถอย่างสูงในการบินลัดเลาะหลบสายฝน และกลุ่มเมฆ หมอกที่หนาทึบ ลัดเลาะไปตามเหลี่ยมเขา



... หลายครั้งที่นักบินพยายามดึง ฮ.ไต่ระดับขึ้นสูงเพื่อให้พ้นจากสายฝนที่กระหน่ำลงมา แต่ด้วยข้อจำกัด สมรรถภาพของ ฮ.เบลล์ 212 สู้ฮ.แบล็กฮอว์กไม่ได้ ทำให้นักบินและช่างเครื่องตัดสินใจ หาที่ปลอดภัยลงจอดชั่วคราว แต่สภาพพื้นที่ไม่อำนวยเนื่องจากยังเป็นป่าเขา จึงได้แต่ประคองเครื่องเพื่อให้พ้นภาวะวิกฤติในขณะนั้น ...



... เมื่อเข้าสู่พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เริ่มมองเห็นทุ่งนา นักบินเริ่มสอดส่ายและบังคับเครื่องลดระดับลงมา ฝูงควายที่กินหญ้าอยู่กลางทุ่งต่างตกใจวิ่งหนีกันอลหม่าน  ผู้ที่มองเห็นเหตุการณ์จากพื้นล่าง ต่างออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไม ฮ.ลำนั้นถึงบินวนไปมา อยู่เหนือหลังคาบ้านเขาอยู่หลายรอบแล้ว ..
สุดท้ายนักบินก็สามารถนำเครื่องลงจอดที่สนามฟุตบอลโรงเรียนจุฬาภรณ์วิทยา อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ได้โดยปลอดภัย เป็นเวลาใกล้พลบค่ำและน้ำมันเฮลิคอปเตอร์ใกล้จะหมดพอดี ...



... ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงพอทราบข่าว ว่ามีเฮลิคอปเตอร์มาลงจอดใกล้บ้านเขาโดยมิได้นัดหมาย ต่างหอบลูกจูงหลาน ฝ่าสายฝนและสนามฟุตบอลที่แฉะเหนียวหนึบติดเท้าเนื่องจากโรงเรียนเพิ่งเอาดินลูกรังมาถม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับบรรดาไทยมุงทั้งหลาย เด็กๆหลายคนขึ้นไปนั่งเล่นบน ฮ.ด้วยความตื่นเต้น สนุกสนาน ขณะที่พ่อแม่ ควักกล้องมือถือออกมาจากชายพก ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก 
... บางคนก็นำเข้ามาสอบถามสาเหตุ การนำเครื่องลงจอดที่นี่ด้วยความเป็นห่วง ....
... ซึ่งเราก็ได้รับความกระจ่างจากนักบิน พร้อมๆกับชาวบ้านที่กำลังล้อมมุงดู ฮ.เบลล์ 212 ลำดังกล่าว



... " เครื่องลงตามสภาพอากาศ ไม่ได้ลงฉุกเฉิน "....
เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในเวลานั้น โดยอาศัยประสบการณ์และชั่วโมงบินที่สะสมมากว่า 1,000 ชั่วโมง
เขาได้อธิบายเพิ่มเติมว่า หากเป็นการนำเครื่องลงฉุกเฉิน แสดงว่าเครื่องยนต์มีปัญหา และต้องทำรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ...
... ครั้งนี้ถือเป็นการนำเครื่องลงตามปกติ และยังสามารถบินไปถึงที่หมายลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ค่ายวชิราวุธได้ แต่ก็ไม่ควรเสี่ยง เพราะไม่รู้ว่าความแปรปรวนของสภาพอากาศข้างหน้าจะเลวร้ายกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ อีกทั้งน้ำมันใกล้จะหมดเนื่องจากนำเครื่องออกบินนอกเส้นทางการบินขณะไปวนอยู่เหนือยอดเขาพนมเบญจา ..
... คนที่โล่งใจที่สุดไม่แพ้นักบินและช่างเครื่อง คงหนีไม่พ้นผู้ที่โดยสารมาด้วย เนื่องจากไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน...

       
       



ไม่มีความคิดเห็น: