PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เปิดโฉม 4 พลเรือนติดร่างแหจับนายตำรวจใหญ่

เปิดโฉม 4 พลเรือนติดร่างแหจับนายตำรวจใหญ่
Cr:ผู้จัดการ
เปิด 4 พลเรือน พ่วงคดีจับตำรวจใหญ่ หนึ่งในนั้่นเป็นรอง ผอ.โรงเรียนย่านนทบุรี อีกรายอยู่บ้านเลขที่ติดบ้านมารดา"พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์" ด้าน "เริงเกียรติ ศักดิ์ณรงค์เดช" สท.ปากเกร็ด รับหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นพี่ชาย แต่ไม่ได้เจอกันนานเพราะไม่ถูกกัน
หลังจากศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับกลุ่มนายตำรวจระดับสูงรวมทั้งพลเรือน โดยสองคนที่เพิ่งถูกควบคุมตัว ประกอบด้วย นายชอบ และ นางติยะพรรณ ชิณประภา สองสามีภรรยา ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ ผู้สื่อข่าว "ASTVผู้จัดการ" ตรวจสอบตามข้อมูลทะเบียนราษฏร์ ตั้งแต่ช่วงการเปิดเผยรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(อุทกภัยปี2544) หมู่ที่ 4 ตำบลปายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พบว่า บ้านเลขที่ 26 หมู่ 4 เป็นของนายชอบ ชินนะประภา(ผู้ถูกกล่าวหาคนที่ 11) ส่วนบ้านเลขที่ 26/1 เป็นชื่อนางปิยะพรรณ ชินนะประภา(ผู้ถูกกล่าวหาคนที่ 12) ส่วนบ้านเลขที่ 26/2 เป็นของนายทหารยศพันเอก และเป็นที่สังเกตว่า บ้านเลขที่ 26/3 เป็นบ้านที่มีชื่อนางยุพิน ฉายาพันธุ์ มารดา พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เป็นเจ้าบ้าน ส่วนตำแหน่งการงานของนายชอบ ระบุว่า เป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดแจ้งศิริสัมพันธุ์ จ.นนทบุรี
ส่วน นางสวงค์ มุ่งเที่ยง หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในข้อหาผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ามาตรา 19 และ 47 และนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
ขณะที่ สำนักข่าวอิศราได้มีโอกาสพูดคุย นายเริงเกียรติ ศักดิ์ณรงค์เดช สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) นครปากเกร็ด จ.นนทบุรี น้องชาย นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช หนึ่งในผู้ต้องหา 10 ราย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในคดีนี้ นายเริงเกียรติ ยืนยันว่า นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช เป็นพี่ชาย แต่ไม่ได้ติดต่อกับพี่ชายมาเป็นเวลา 2 ปี และไม่ทราบว่าพี่ชายประกอบอาชีพอะไรและมีบ้านอยู่ที่ไหน
"เจอพี่ชายครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปีก่อนตอนงานศพบิดา แต่ไม่ได้คุยกันเพราะไม่ถูกกัน ซึ่งคนปากเกร็ดรู้เรื่องดีว่าครอบครัวเราไม่ถูกกัน จึงไม่ทราบรายละเอียดใดเกี่ยวกับพี่ชาย"
“เพิ่งกลับจากต่างประเทศ เมื่อเห็นข่าวมีชื่อพี่ชายเป็นผู้ถูกกล่าวหาก็แปลกใจว่าเรื่องเกิดขึ้นได้อย่างไร คนในครอบครัวซักถาม แต่ผมกับพี่ชายไม่ถูกกัน เพียงแต่ยังใช้นามสกุลเดียวกัน และชื่อก็คล้ายกันอีก”นายเริงเกียรติกล่าว
ส่วนนายบรรจบ มุ่งเที่ยง สมาชิกสภาเทศบาลนครปากเกร็ดอยู่เขตเดียวกัน ก็โทรศัพท์มาสอบถามข้อเท็จจริง เพราะนายบรรจบ มีนามสกุลเดียวกับ นางสวงค์ มุ่งเที่ยง ผู้ถูกกล่าวหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19, 47 แต่ตัวนายเริงเกียรติก็ไม่ทราบข้อมูลว่านางสวงค์มีความพันธ์ใดกับนายบรรจบ สท.ปากเกร็ด
ผู้สื่อข่าวพยายามซักถามนายเริงเกียรติ ศักดิ์ณรงค์เดช เกี่ยวกับข้อมูลของพี่ชายหลายครั้งแต่นายเริงเกียรติ ยืนยันว่าไม่ทราบข้อมูลใดๆ

ไม่มีความคิดเห็น: