ภายหลังจากที่ศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับนายชอบ และนางติยะพรรณ ชิณประภา สองสามีภรรยา ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ และสามารถจับกุมตัวได้แล้วตั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นผู้ต้องหาคนที่ 11 และ 12 ที่ถูกจับกุมในคดีเดียวกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ข้าราชการตำรวจและพลเรือนรวม 10 คน ที่ร่วมกันกระทำผิดหลายข้อหาหนัก รวมทั้งหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เรียกรับสินบน
ส่วนนางสวงศ์ (อ่านว่า สะ-หวง) มุ่งเที่ยง หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออหมายจับในข้อหาผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ามาตรา 19 และ 47 พล.ต.ท.ประวุฒิ เปิดเผยว่า ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ภายในวันนี้ และนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
ล่าสุด วันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่ร่วมกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบชก. รวม 8 ราย มาฝากขังผัดแรก โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากมารอทำข่าวตั้งแต่เช้า
โดยทั้งหมดนั้น มีในความผิดหลายข้อหาแตกต่างกัน อาทิ หมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับและจูงใจให้ผู้
อื่นมอบผลประโยชน์ฯ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ
และข้อหาอื่นๆ เป็นคดีอาญาที่มีอัตราโทษเกิน 10 ปี พนักงานสอบสวนสามารถ
ยื่นคำร้องฝากขังได้ทั้งหมด 7 ผัด ผัดละ 12 วัน รวมทั้งสิ้น 84
วันhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1416819500
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับและจูงใจให้ผู้
อื่นมอบผลประโยชน์ฯ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ
และข้อหาอื่นๆ เป็นคดีอาญาที่มีอัตราโทษเกิน 10 ปี พนักงานสอบสวนสามารถ
ยื่นคำร้องฝากขังได้ทั้งหมด 7 ผัด ผัดละ 12 วัน รวมทั้งสิ้น 84
วันhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1416819500
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น