PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558

(ย้อนไปดู)เกม"สนช."บีบ"ยิ่งลักษณ์"แจงเดี่ยวจำนำข้าว-สกัด"องครักษ์"ห้ามยุ่ง!

เบื้องหลังเกม"สนช."บีบ"ยิ่งลักษณ์"แจงเดี่ยวจำนำข้าว-สกัด"องครักษ์"ห้ามยุ่ง!

เขียนวันที่
วันศุกร์ ที่ 16 มกราคม 2558 เวลา 17:03 น.
เขียนโดย
isranews
เบื้องหลัง! เกมซักถาม สนช. VS ผู้แทน “ยิ่งลักษณ์” คดีถอดถอนโครงการจำนำข้าว สภาระอุ หลังทนายงัดข้อบังคับประชุมไม่ต้องมาเองได้ ก่อนถูกแก้เผ็ด สนช. หารือลับ! ไม่ถามผู้แทน ขีดเส้นซัก “ปู” อย่างเดียว
PIC-yingluck-16-1-58 1
ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อซักถามคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในกรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดยกรรมาธิการ (กมธ.) ซักถามฯนั้น 
ไม่ปรากฏตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้นำทีมเข้ามาตอบคำถามแต่อย่างใด !
แต่กลับมอบหมายให้ “อดีตบิ๊กรัฐมนตรี” ที่มีเอี่ยวในโครงการรับจำนำข้าวเข้ามาชี้แจงแทน ไม่ว่าจะเป็นนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.พาณิชย์ เป็นต้น
ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจแก่ สนช. โดยเฉพาะสาย “40 ส.ว.” เป็นอย่างมาก จนเกิดข้อโต้แย้งต่าง ๆ นานา ในช่วงเริ่มต้นการประชุม
จนต้องขอให้ที่ประชุมพิจารณา “ลับ” เพื่อหารือว่าจะใช้วิธีการใดในการซักถาม
ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ที่ประชุมหารือแล้วเสร็จ จึงดำเนินกระบวนการซักถามต่อ โดย กมธ.ซักถามฯ ระบุว่า มีคำถามทั้งหมด 83 คำถาม
แบ่งเป็นฝ่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 23 คำถาม เป็นคำถามหลัก 12 คำถาม ส่วนฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ 60 คำถาม เป็นคำถามหลัก 35 คำถาม
โดย กมธ.ซักถามฯ ได้ตะลุยถามฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อน โดยมีนายวิชา มหาคุณ เป็นผู้ชี้แจงทุกประเด็น ใช้ระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
หลังจากนั้นจึงเริ่มซักถามฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยขีดเส้นไว้อย่างชัดเจน
“ประสงค์ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ตอบคำถามด้วยตนเอง โดยไม่ประสงค์ให้ผู้อื่นตอบแทน” ! 
หลังจบคำถามแรก นายนิวัฒน์ธำรง ขออนุญาตใช้สิทธิ์ในการตอบข้อซักถาม เนื่องจากเห็นว่าเป็นคำถามในเชิงปฏิบัติ แม้อดีตนายกรัฐมนตรีจะให้ข้อมูลในเชิงนโยบายครบทุกประเด็นแล้วก็ตาม แต่ทางเทคนิคให้ผู้แทนคดีตอบคำถามน่าจะเป็นประโยชน์ต่อ สนช. มากกว่า
อย่างไรก็ดี นายสมชาย แสวงการ กล่าวว่า การซักถามเป็นกรรมสิทธิ์ของ กมธ.ซักถามฯ ทั้ง 13 คน ดังนั้นการให้อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับทราบคำถามก่อน และใช้สิทธิ์ในการตอบในวันแถลงปิดคดี คิดว่าเป็นธรรมแล้ว ฉะนั้นจะขอซักถามโดยไม่ประสงค์ให้ผู้อื่นตอบแทน
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. คนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน สนช. สอบถามนายนิวัฒน์ธำรง ว่า จะยืนยันตอบคำถามหรือไม่ และถ้า สนช. ประสานติดต่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ามาตอบเองทำได้หรือไม่
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ตนพร้อมตอบคำถาม แต่การประสานงานไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นไม่ทราบว่าท่านทำอะไรอยู่ และทำได้มากเพียงใด
หลังจากนั้น นายสุรชัย สั่งให้พักการประชุม 10 นาที เพื่อหารือการประชุมอีกครั้ง โดยหลังเสร็จสิ้นพักประชุม ได้ข้อสรุปว่า ควรให้ กมธ.ซักถามฯ ทำแบบเดิมต่อไป
หลังจากนั้นเมื่อจบคำถามที่ 11 นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลุกขึ้นขอชี้แจงต่อ สนช. ระบุว่า สืบเนื่องจากที่ประธานหารือแล้ว เข้าที่ประชุมแล้ว ประธานได้แจ้งว่า ได้หารือผู้แทนผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ยินยอมหรือเห็นด้วย 
“จริง ๆ แล้ว เราในฐานะผู้แทนไม่อาจเห็นชอบด้วย เพราะเป็นมติของสภา จึงขอยืนยันที่จะขอชี้แจง เพียงแต่ว่าเรานั้นจะชี้แจงหรือตอบข้อซักถาม ตามที่ประธานบอกว่าสภาดำเนินการได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเห็นชอบหรือยินยอม” 
ทำให้นายสุรชัย จำเป็นต้องตอบโต้ โดยการร่ายยาวถึง “เบื้องหลัง” ในการพูดคุยครั้งนี้ เพราะทำให้ตัวเองเสียหาย
“ผมกับประธาน (พรเพชร) พยายามที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาอย่างเต็มที่ ช่วงพักการประชุมหารือนอกรอบ ได้แจ้งให้ฝ่ายผู้แทน โดยสภายินดีเลื่อนประชุมถึง 18.00 น. เพียงแต่ให้ผู้แทนติดต่อเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาสภาด้วยตนเอง”
“แล้วคำถามใดที่ ยิ่งลักษณ์ ฟังคำถามแล้วคิดว่าเป็นรายละเอียดของการปฏิบัติ ไม่อาจตอบชี้แจงต่อสภาได้ด้วยตนเอง ขออนุญาตที่จะมอบให้ผู้แทนตอบเป็นรายคำถาม เรายินดีอำนวยความสะดวกให้” 
“แต่คำตอบที่ได้จากผู้แทนคือบอกไม่สามารถติดต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ โดยบอกว่าไม่ทราบอยู่ที่ใด และขอให้สภาดำเนินไปตามเดิม นี่คือรายละเอียด แต่ที่แจ้งไม่ต้องการให้ปรากฏรายละเอียดหารือ ถ้าท่านโต้แย้ง ผมก็ต้องเล่าให้ที่ประชุมฟัง” 
ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “ท่านผู้แทนเลือกเองว่าต้องการเอาแบบเดิม เพราะไม่อาจติดต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ ผมจึงต้องดำเนินกระบวนการพิจารณาไปตามมติเดิม”
หลังจากนั้น กมธ.ซักถามฯ ได้ตั้งข้อซักถามแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนจบครบ 35 คำถาม พร้อมกับท่าทีและสีหน้าแสดงความไม่ค่อยพอใจของฝ่ายผู้แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยใช้ระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง
และนี่คือเกมชิงไหวชิงพริบกันระหว่าง สนช. และฝ่ายผู้แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เห็นกันจะ ๆ แบบถึงพริกถึงขิงคาสภา ส่วนใครจะแพ้หรือชนะ ขอให้สาธารณชนเป็นผู้ตัดสิน
ท้ายสุดในวันแถลงปิดคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะ “กล้า” มาด้วยตัวเองเหมือนตอนแถลงเปิดคดีหรือไม่ 
ต้องลุ้นต่อไปด้วยใจระทึก !

ไม่มีความคิดเห็น: