PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558

กปปส.ชึ้นศาล

12.30น.คำแถลงการณ์ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. ที่สำนักงานอัยการ ถ.รัชดาภิเษก กรณีเข้ารายงานตัวกับอัยการข้อหากบฎ ระบุว่าแกนนำ กปปส. ทุกคนเคารพกระบวนการยุติธรรม และพร้อมจะต่อสู้คดีทุกคดี โดยไม่หลบหนีไปไหนที่ผ่านมา ได้ร่วมต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ใจร่วมกับมวลมหาประชาชนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ
มวลมหาประชาชนได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อต่อต้านการออกกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีผลเป็นการลบล้างความผิดให้กับนักการเมือง ผู้กระทำการทุจริต เปิดโปงความเลวร้ายของระบอบที่หวังครอบงำระบบการเมืองของประเทศไทย ด้วยวิธีการนอกเหนือบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ภายใต้ระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน
ตลอด 204 วันของการชุมนุม ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชน เป็นการชุมนุมอย่างสงบสันติ เปิดเผยและปราศจากอาวุธ เป็นการชุมนุมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ได้รับการรับรองจากมติศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 ที่ระบุว่า การชุมนุมของมวลมหาประชาชน “เป็นการใช้เสรีภาพโดยสงบ เนื่องจากไม่ไว้วางใจการบริหารของรัฐบาล” นอกจากนั้น ศาลแพ่งก็มีคำสั่งเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ห้ามรัฐบาลใช้ข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการสลายการชุมนุม เพราะ “เป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ”
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นโดยการกระทำของผู้ชุมนุมแต่เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ขัดผลประโยชน์
เราขอตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งข้อกล่าวหากบฏกับแกนนำและมวลมหาประชาชน มีพฤติการณ์พิเศษ ริเริ่มโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษในช่วงที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดี มีการตั้งข้อกล่าวหาร้ายแรงทั้งๆ ที่ศาลได้วินิจฉัยรับรองความบริสุทธิ์ของการชุมนุมแล้วเห็นได้ว่าเป็นการตั้งกล่าวหาอย่างอคติโดยกลุ่มคนผู้เสียผลประโยชน์ตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับมวลมหาประชาชน
อย่างไรก็ตาม แกนนำและมวลมหาประชาชนทุกคนเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยสามารถแยกแยะผิดถูก และในที่สุด จะให้ความเป็นธรรมกับแกนนำและมวลมหาประชาชนที่เสียสละเพื่อรักษาประโยชน์ของชาติบ้านเมือง


ไม่มีความคิดเห็น: