มารี ฮาร์ฟ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า สหรัฐพร้อมให้ความช่วยเหลือบรรดาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่แบกรับภาระคลื่นผู้อพยพที่ลอยลำอยู่กลางทะเล โดยในถ้อยแถลงแสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของมาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่ประกาศยุติการผลักดันผู้อพยพที่แออัดอยู่บนเรือที่ง่อนแง่น ฮาร์ฟ กล่าวว่า สหรัฐจะช่วยหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติ จัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้อพยพและจะพิจารณาคำร้องของตั้งถิ่นฐานของผู้อพยพบางส่วน
ฮาร์ฟ กล่าวว่า สหรัฐพร้อมให้ความช่วยเหลือประเทศต่างๆ ในภูมิภาค แบกรับภาระและปกป้องชีวิตในปัจจุบัน เรามีพันธกิจร่วมกันในการตอบสนองเสียงเรียกร้องจากผู้อพยพเหล่านี้ ที่เสี่ยงชีวิตอยู่กลางทะเล
เธอบอกด้วยว่า โทนี บลินเคน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ อยู่ระหว่างเดินทางเยือนภูมิภาค และจะพบปะกับบรรดาผู้นำเมียนมาร์ในวันพฤหัสบดี เพื่อเรียกร้องให้พวกเขาทำงานร่วมกับบังกลาเทศ ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ผู้อพยพที่ลอยลำอยู่กลางทะเล ซึ่งเธอบอกว่า “เรายังกังวลต่อปัจจัยต่างๆ ที่ผลักดันคนเหล่านั้นไปเสี่ยงชีวิตอยู่กลางทะเล ที่รวมทั้งนโยบายของเมียนมาร์ต่อชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา รวมถึงแรงจูงใจจากการถูกเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและศาสนาด้วย”
ชาวโรฮิงญามากกว่า 1,000 คน ได้เข้าไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งฮาร์ฟบอกว่า สหรัฐจะรับ “บทบาทผู้นำ” ในการให้ความช่วยเหลือรับผู้อพยพบางส่วนที่อ่อนแอที่สุด แต่ก็เตือนว่ามันต้องเป็นความพยายามของนานาชาติด้วย ไม่ใช่นำโดยสหรัฐเพียงลำพัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น