PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

นักวิชาการ ชี้ เศรษฐกิจแย่สุดรอบ 43 เดือน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดต่อเนื่องเดือนที่ 7


วันที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09:31:38 น.



นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าอยู่ที่ระดับ 73.4 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และต่ำสุดในรอบ 14 เดือน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจไทยแย่สุดในรอบ 43 เดือนนับตั้งแต่เดือน ม.ค.55

รวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรทรงตัวในระดับต่ำทำให้รายได้เกษตรกรลดลง, ความไม่แน่นอนทางการเมือง, การส่งออกครึ่งปีแรกติดลบ 4.84% และเศรษฐกิจโลกยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว เป็นต้น

ดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีความเหมาะสมในการลงทุนทำธุรกิจของเอสเอ็มอีต่ำสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยมากนัก ผู้จำหน่ายสินค้าต้องจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม เช่น การลดราคาสินค้า 70-80% เพื่อจูงใจผู้บริโภค

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเหมาะสมในการซื้อรถยนต์คันใหม่ อยู่ในระดับ 87.8 ต่ำสุดในรอบ 61 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.ค. 53 เป็นต้นมา, ดัชนีความเหมาะสมในการซื้อบ้านหลังใหม่อยู่ในระดับ 61.7 ต่ำสุดในรอบ 14 เดือน

ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารครึ่งแรกปี 2558 มีรายได้ลดลงประมาณ 30-40% เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคคนไทยโดยเฉลี่ยลดลงจาก 300 บาท/มื้อ เหลือประมาณ 150-200 บาท/มื้อ

ขณะที่จำนวนครั้งในการรับประทานอาหารนอกบ้านเหลือราว 2 ครั้ง/สัปดาห์ จากที่เคยมากถึง 4 ครั้ง/สัปดาห์ เพราะคนลดการสังสรรค์ช่วงเย็นหลังเลิกงานลงไป ส่วนการรับประทานอาหารกับครอบครัวช่วงสุดสัปดาห์ ลดลงเหลือราว 2 ครั้ง/เดือน

ขณะเดียวกัน ร้านอาหารก็ต้องมุ่งกลยุทธ์เพิ่มรายได้ต่อหัว ด้วยการให้โปรโมชั่นพิเศษจูงใจให้คนจ่ายเพิ่มเพื่อมูลค่าที่แตกต่าง เช่น จัดเซ็ตอาหารชุดพิเศษแทนที่จะขายเป็นอาหารจานเดียว เพื่อหาทางแข่งขันกับร้านอาหารที่จับกลุ่มตลาดล่างที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ

ที่มา : มติชน

ไม่มีความคิดเห็น: