PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

นายกฯ ยินดี มี เอกอัครราชทูตสหรัฐคนใหม่ อยากให้มาเร็วๆ ขอให้มาพบผมก่อน



นายกฯ ยินดี มี เอกอัครราชทูตสหรัฐคนใหม่ อยากให้มาเร็วๆ ขอให้มาพบผมก่อน พร้อมคุย ยันไม่ใช่ศัตรู สหรัฐฯ การเมืองคือการเมิอง ปชต.คือปชต. แต่คนต้องกิน

พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯและหน.คสช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีวุฒิสภาสหรัฐอเมริกามีมติแต่งตั้งนายGlyn Davies เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยคนใหม่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า ตนยินดี ก็มีความยินดี เมื่อสักครู่ตนได้ฝากกลุ่มนักธุรกิจสหรัฐฯไปบอกแล้ว ทางทูตก็บอกเองว่าอยากจะมา ตนก็ตั้งใจรอทูตมาประจำการที่ไทยเช่นกัน อยากให้รีบมาเร็วๆ ให้มาพบตนก่อน ตนพร้อมที่จะคุยกับเขา จะได้ทำความเข้าใจกันก่อน ถ้าไปฟังที่อื่นมาแล้วไม่ฟังตนเลย มันก็จะไม่เข้าใจกันตั้งแต่ต้น เขาก็ยิ้มและหัวเราะกัน และรับปากตนว่าจะนำไปบอก

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นสัญญาณทางบวกของประเทศไทยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใช่ เป็นสัญญาณบวกอยู่แล้ว เราไม่ใช่ศัตรู การเมืองก็คือการเมือง ประชาธิปไตยก็คือประชาธิปไตย แต่คนมันต้องกินต้องอยู่ ธุรกิจจะต้องเดินหน้า ธุรกิจมากมายกี่แสนล้านที่ต้องลงทุนกันอยู่ เขาก็ทิ้งไม่ได้อยู่แล้ว

ถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯจะดีขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ผมไม่ได้เสียอะไรกับเขา เสียตรงไหนละ ผมไม่ได้ไปทำลายความสัมพันธ์กับเขา แต่ผมเห็นใจเขา เพราะเขาเป็นประเทศที่เป็นแกนนำด้านประชาธิปไตยแบบตะวันตก เขาก็ต้องพูดแบบนั้นนั่นแหละ ผมจะไปว่าอะไรเขาได้เล่า เพราะผมมาอย่างนี้ ผมต้องแสดงให้เขาเห็นว่าเมื่อผมมาอยู่ตรง ผมทำและสร้างสรรค์อะไรบ้าง หรือทำลายอะไรไปบ้าง ผมไม่ได้ทำลายอะไรไปซักอย่างหนึ่ง ในความรู้สึกของผมเองนะ เพราะผมไม่ได้คิดอย่างนั้น มีแต่การบังคับใช้กฎหมายให้มันทำได้ ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่ได้ไปทำลายใคร เพราะฉะนั้นทุกอย่างเป็นไปตามตัวบทกฎหมายทั้งสิ้น ก็เริ่มเข้าใจกันขึ้นเรื่อย ๆ 17 ประเทศที่มาเข้าพบเมื่อเช้านี้ก็เข้าใจ ก็ดูไทยเป็นตัวอย่างว่าจะปฏิรูปประเทศไปอย่างไร พัฒนาประเทศอย่างไรให้ไปสู่การมีรายได้ที่มากขึ้น เมื่อเช้านี้ก็คุยกันเยอะ เมื่อกี้ก็คุยกับบริษัทที่ลงทุนในประเทศไทยไปแล้วทั้งสิ้น เขาก็มาถามเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ว่าถ้าเขาลงทุนต่อไป มันจะเป็นอย่างไร ตนก็ยืนยันว่าเราพร้อมที่จะดูแล และส่งต่อให้รัฐบาลใหม่ด้วยซ้ำไป ผลประโยชน์ไม่ได้กลับมาที่รัฐบาลผม แต่ไปที่รัฐบาลหน้า เราจะได้เลิกทะเลาะกันเสียที มีรายได้เข้าประเทศ ไม่ต้องไปรอการส่งออกที่ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่แบบนี้ การเกษตรที่มันแย่ ๆ อยู่อย่างนี้ ก็ต้องมาแปรรูปกัน มาเพิ่มมูลค่า”

ไม่มีความคิดเห็น: