“การทหาร” ดับ “ราชภักดิ์”
เท่ากับสาด”น้ำมัน”เข้า”กองไฟ”
ทั้งๆที่โครงการ “อุทยานราชภักดิ์” เริ่มด้วยเป้าหมายทาง “การเมือง” แต่เมื่อเกิดปัญหาเกิด “ความเข้าใจ” ที่คลาดเคลื่อน
แทนที่จะใช้มาตรการทาง “การเมือง” มาแก้
กลับเลือกเอามาตรการทาง “การทหาร” มาเป็น “อาวุธ” มาเป็น “เครื่องมือ”จึงแทนที่จะเป็นการ “คลี่คลาย” เป็นการแก้ “ปัญหา”
กลับกลายเป็นการ “สร้าง” ปัญหา ทำให้เรื่องง่ายๆกลายสภาพเป็นเหมือนกับที่ชาวบ้านเรียกว่า“ลิงแก้แห”
เรื่องเล็กๆกลายเป็นเรื่องใหญ่ๆ เรื่องเงียบๆกลายเป็นเรื่องอึกทึกครึกโครม
เท่ากับเป็นการ”เชิญแขก”เข้ามารุมล้อม เข้ามาสนใจ
ใครที่ไม่เคยอยากรู้ ก็เริ่มอยากรู้ ใครที่ไม่เคยคิดไป ก็เริ่มอยากจะไปเยี่ยมเยือน
ทำไม
หากมองอย่าง “ชาวพุทธ” มองผ่านหลัก “อริยสัจ 4” ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ
เริ่มจาก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ก่อนอื่นต้องจับให้ได้ว่าอะไรคือตัวทุกข์ อะไรคือตัว”ปัญหา”อย่างแท้จริงของ “อุทยานราชภักดิ์”
คำตอบก็คือ ความเข้าใจผิดว่า “ทุจริต”
เพราะความอื้อฉาวของบางบุคคลจาก “ไบค์ ฟอร์ มัม” ทำให้เกิดความสงสัยต่อ “ไบค์ ฟอร์ ราชภักดิ์”
เพราะความอื้อฉาวของเสื้อ “ไบค์ ฟอร์ มัม” ทำให้เกิดความสงสัยต่อเสื้อ “ไบค์ ฟอร์ ราชภักดิ์” สาเหตุเพราะคนที่บริหารจัดการในเรื่องนี้เป็นบุคคลชุดเดียวกัน
ทำไมไม่เปิด “บัญชี” รับ จ่ายว่าเป็นอย่างไร
เปิดจำนวนเงินจากงบประมาณแผ่นดิน เปิดจำนวนเงินจากการบริจาค แล้วก็เปิดจะ-จะว่าใช้จ่ายไปอย่างไร
ให้ “ตัวเลข” เป็น “คำตอบ”
แต่จนบัดนี้จากเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนธันวาคม ไม่เคยมีใครได้เห็น ไม่เคยมีใครได้รู้
ใครสงสัยก็ส่ง “ทหาร” ไป “อารักขา”
ใครอยากเห็นก็ตาม “เฝ้าอารักขา” แม้กระทั่งพ่อ แม่ซึ่งไม่เกี่ยวด้วยเลยก็ถูกเรียกเข้า “ค่าย”
มาตรการทาง “ทหาร” แบบนี้ทำอย่างไรก็ “ไม่จบ”
ยิ่งทำเหมือนกับยิ่งสาด “น้ำมัน” เข้าใส่ แทนที่จะดับ “ไฟ” กลับกลายเป็น”ลุกลาม”ใหญ่โต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น