เรื่องหาประโยชน์ในราชภักดิ์ บานตะเกียงอย่างที่หลายฝายคาด มีพวกมั่วนิ่มผสมโรงจะเอาเป็นเรื่องล้มรัฐบาล..
มาท้าวความที่มาที่ไป เรื่อวหาประโยชน์ในราชภักดิ์ ไม่ได้เป็นข่าวพาดหัวไม้ในสื่อกระแสหลักมาก่อน แต่เป็นข่าวที่เขียนกันในหน้าเฟส หลังจากมีการตรวจสอบข่าวพูดคุยกับเจ้าของโรงหล่อ สื่อกระแสหลักที่เล่นมีฉบับเดียวเป็นข่าวอินไซด์มาจากบางกอกโพสต์ ทำให้กองทัพเร่ิมสนใจ จากนั้นในหน้าเฟสก็มีข้อมูลมาขยายเพิ่ม ..เป็นข่าวก่อนหน้าเหตุการณ์ที่หมอหยองจะถูกจับเมื่อคืนวันที่16 ตุลาคม ตามมาด้วยการเสียชีวิตของพล.ต.พิสิฐศักดิ์ และสารวัตรเอี๊ยด แล้วก็หมอหยอง และการเดินทางออกนอกประเทศของเสธโจ้ พ.อ.คชาชาติ ตามมาด้วยการหายตัวไป ที่หลายคนสงสัยว่าอาจไปไหนๆแล้ว ทั้งหมดโดนข้อหา112
หลังถูกจับเจ้าของโรงหล่อออกมาให้ข่าวเรื่องการหล่อพระบรมรูปนุสาวรีย์ บอกมีการมาเชื่อมต่อของเซียนพระคนดัง ที่ใก้ลชิดกับทหารใหญ่ทำงานในมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ผ่านนายทหารฝ่ายประสานงานหลายคน รวมถึงเสธโจ้ และ ผู้การโต ที่เป็นเลขานุการมุลนิธิ เลยมีการเอามาโยงปะติดปะต่อกัน
ทั้งหมดถูกมองว่าเป็นเรื่องของการประโยชน์จากการหล่อพระบรมรูป ซึ่ง รมช.กลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ประธานมูลนิธิ ก็ออกมายอมรับว่ามีการหาประโยชน์จริง แต่ได้เคลียร์กันไปหมดแล้ว เอาเงินที่หาประโยชน์มาใส่ในกองทุน..
ต้นเรื่องก็มีอย่างที่ลำดับมา ไม่เคยพูดในส่วนของกองทัพบก เพราะเงินคนละส่วนกัน มูลนิธิรับผิดชอบในการหล่อยพระบรมรูป อาจมีค่าคอมมิชชั่นอย่างที่รับรู้กัน ร้อยละสิบ ของยอดหล่อพระบรมรูปทั้งหมด 350 ล้านบาทประมาณ ร้อยละสิบก็ตกสามสิบกว่าล้าน กระจายกันไปหลายทาง คนที่น่าจะรู่เรื่องนี้ดีที่สุดคือเซียนพระคนดังที่หายไปแล้ว... เรื่องก็มีเท่านี้แต่ฝ่ายการเมืองจากเพื่อไทยกระโจนใส่ หวังใช้เป็นเงื่อนไขล้มรัฐบาล บอกร้ายแรงพอๆกับโครงการรับจำนำข้าว โอแม่เจ้าว้อย นายกต้องรับผิดชอบ ขยายความจนกลายเป็นเรื่องทุจริตในส่วนของกองทัพ
ข่าวที่เขียนกันช่วงแรกในหน้าออนไลน์เป็นเรื่องของมูลนิธิที่ พล.ท.อุดมเดช รับผิดชอบ ไม่ได้เกีียวกับกองทัพ.. มีเท่านี้จริงๆแม่ทูนหัว
ตอนนี้บานตะเกียงกลายเป็นประเด็นการเมืองมาล้มรัฐบาล...
จาล้มได้หรา..ต่อห้าลูกควบ ใครลองมาหลังไมค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น