PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

‘ทักษิณ’เปิดเกมรุกคสช.รอบใหม่

‘ทักษิณ’เปิดเกมรุกคสช.รอบใหม่

‘ทักษิณ’เปิดเกมรุกคสช.รอบใหม่ จับตา3แนวรบ-ต่อรองทางการเมือง

          การปรากฏตัวของ “ทักษิณ ชินวัตร” ผ่านสื่อต่างประเทศเที่ยวนี้ ถือเป็นการเดิมพันทางการเมืองครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของอดีตนายกฯไทยที่ต้องไปร่อนเร่อยู่ในต่างแดน เพราะนี่ไม่ใช่แค่การเปิดหน้า
          ส่งเสียงผ่านคลิปเวลาอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปเยี่ยมเยือน ฝากกลับมาเผยแพร่ในเมืองไทยเพื่อไม่ให้บรรดาแฟนคลับหลงลืมกันเท่านั้น แต่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการเป่านกหวีดเดิมพันกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กันเลยทีเดียว
          หน่วยงานความมั่นคงที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองให้แก่ คสช.ให้ข้อมูลว่า สัญญาณจากอดีตนายกฯ ทักษิณเที่ยวนี้ เป็นการ “เปิดศึก” เพราะการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศหลายสื่อต่อเนื่องกันเช่นนี้ มีค่าใช้จ่ายไม่น้อยทีเดียว จังหวะก้าวของอดีตนายกฯทักษิณ ในการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศช่วงวันหยุดยาวมาฆบูชา วิเคราะห์ได้เป็น 2 ด้าน
          ด้านหนึ่งมีการวิเคราะห์วิจารณ์กันไปบ้างแล้วว่าเป็นการออกตัวเพื่อช่วยน้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ จากตระกูลชินวัตร อีกคนที่กำลังโดนคดีจำนำข้าว กับ “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ที่กำลังโดนหางเลขคดีทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้แก่กลุ่มบริษัทในเครือกฤษดามหานคร เพราะท่าทีของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชัดเจนเรื่องการทอดสะพานขอเจรจากับรัฐบาลทหาร
          ขณะที่อีกด้านหนึ่งที่ดูจะมีน้ำหนักมากกว่า คือการฉวยจังหวะที่รัฐบาล คสช.กำลังเซจากหลากหลายปัญหาที่กำลังรุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจตกต่ำ ภัยแล้ง การชุมนุมของพระสงฆ์จากปัญหาการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ และกระแสต้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ โดยเฉพาะเรื่องม็อบจีวรนั้น มีเส้นสนกลในโยงใยกับวัดดังที่มีเจดีย์รูปจานบิน ซึ่งต้องไม่ลืมว่าเจ้าอาวาสวัดนี้เคยโดนคดีฟ้องร้องถึงขั้นปาราชิก แต่จู่ๆ ก่อนศาลจะพิพากษาไม่กี่วัน อัยการสูงสุดในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทยก็สั่งถอนฟ้อง อ้างว่าเจ้าอาวาสคืนทรัพย์สินที่อ้างว่ายักยอกจากวัดกลับไปให้วัดแล้ว นี่คือสายสัมพันธ์ที่เคยเกื้อหนุนกันมา...
          ถอดรหัสการเคลื่อนไหวจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ กำลังส่งสัญญาณให้กลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่เคย “แยกกันเดิน” ให้หันกลับมา “รวมกันตี” อย่างพร้อมเพรียงกัน โดยใช้ประเด็นสาธารณะอย่างร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยเป็นจุดร่วม เนื่องจากเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่าย แม้แต่ฝ่ายที่เคยสนับสนุน คสช.ก็ยังออกมาตำหนิวิจารณ์ว่ารับไม่ได้
          การให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกฯ ทักษิณ มีการวางประเด็นอย่างเป็นระบบ เริ่มจากการถล่มร่างรัฐธรรมนูญ โยงมาถึงปัญหาการเมืองอันสืบเนื่องจากการที่รัฐบาลทหารไม่ได้รับการยอมรับจากชาติตะวันตก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และนั่นจึงนำไปสู่การขมวดปมให้มาพูดคุยเจรจากัน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการส่งสัญญาณต่อรองคดีน้องสาวกับลูกชาย ทุกอย่างมีการจัดวางอย่างลงตัว ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
          ข้อมูลการวิเคราะห์จากฝ่ายความมั่นคงที่ส่งถึง คสช. ระบุว่า หลังจากนี้รัฐบาลจะเผชิญศึก 3 ด้าน 3 แนวรบ คือ 1.แนวรบในประเทศ ทุกกลุ่มทุกเครือข่ายจะออกมาขย่มรัฐบาลพร้อมกัน จะเห็นได้ว่าช่วงที่อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ พรรคเพื่อไทยก็ออกแถลงการณ์ถี่ยิบ ขณะที่น้องสาวอย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เปิดตัว เปิดบ้านให้สื่อเข้าไปสัมภาษณ์
          2.แนวรบต่างประเทศ จะมีการใช้เครือข่ายคนเสื้อแดงที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศเคลื่อนไหวกดดัน พร้อมๆ กับการขับเคลื่อนของกลุ่มเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย การว่าจ้างหรือล็อบบี้สื่อต่างประเทศให้ช่วยโหมประโคมข่าว ตลอดจนประสานให้นักการเมืองชาติตะวันตกที่รู้จักหรือเป็นเครือข่ายกัน ให้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซ้ำเข้าไปอีก และ 3.แนวรบโซเชียลมีเดีย จะมีปฏิบัติการข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นงานถนัดของเครือข่ายคนเสื้อแดงและกลุ่มสนับสนุนอดีตนายกฯ ทักษิณอยู่แล้ว
          นี่คือศึกใหญ่ที่รัฐบาลต้องเตรียมรับ เพราะเอาแค่การเคลื่อนไหวผ่านสื่อต่างประเทศ ทีมงานของอดีตนายกฯ ก็ทำอย่างมียุทธศาสตร์ บางสื่อมีการนำเสนอบทสัมภาษณ์เป็นการเปิดประเด็นนำร่อง ก่อนจะมีสกู๊ปยาวๆ เกี่ยวกับชีวิตของ “ชายชื่อทักษิณ” ตามมาในเร็ววันนี้ เรียกว่ามีประเด็นเป็นข่าวต่อเนื่องนานเป็นสัปดาห์
          ทางออกของรัฐบาล คสช. จึงต้องเร่งกำหนดยุทธศาสตร์การชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ อย่างเป็นระบบ และที่สำคัญคือปลดชนวนระเบิดจากร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่เสนอแบ่งเวลาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญออกเป็น 2 ช่วงหรือ 2 ขยัก เพราะหนีไม่พ้นการถูกโจมตีเรื่องความไม่เป็นประชาธิปไตย และต้องการลากยาวสืบทอดอำนาจต่อไปของรัฐบาลและคสช.
          ประเด็นที่ฝ่ายความมั่นคงแจ้งเตือนไปยังรัฐบาลและ คสช. ก็คือ สิ่งที่อ่อนไหวกับสถานการณ์การเมืองมากที่สุดก็คือร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีเนื้อหาส่อไปในทาง “สืบทอดอำนาจ” เพราะกงล้อประวัติศาสตร์การเมืองอาจหมุนวนกลับไปเหมือนก่อนเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อปี 2535

ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20160224/223002.html

ไม่มีความคิดเห็น: