PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เมื่อจอมพลสฤษดิ์ รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่อีกไม่ถึง 5 ปี...

เมื่อจอมพลสฤษดิ์ รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่อีกไม่ถึง 5 ปี...

https://www.facebook.com/715431241835960/photos/a.715461781832906.1073741827.715431241835960/1087997064579374/?type=3&theater
ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์

ทำไมจอมพลสฤษดิ์จึงโกงคอรัปชั่นอย่างมากมายในช่วงเป็นนายกฯเผด็จการ 5 ปี?
ทำไมจอมพลสฤษดิ์จึงมีเมียน้อยอย่างมากมายในวิมานสีชมพู?
ทำไมจอมพลสฤษดิ์จึงชอบเพลง “ฟ้า... หัวเราะ... เยาะข้า.... ชะตาหรือ”?
ทำไมใครๆ จึงซุบซิบลือกันว่า อย่าทำให้จอมพลสฤษดิ์โกรธหรือเข้าใจผิด ท่านอาจเอาถึงตาย?
ทำไมจอมพลสฤษดิ์จึงออกแบบรัฐธรรมนูญชั่วคราวให้มีมาตรา 17 ที่คำสั่งและการกระทำของนายกฯ คือกฎหมาย?
เมื่อจอมพลสฤษดิ์รู้ว่าตนเองจะมีชีวิตได้อีกราว 5 ปี คุณคิดว่าจอมพลสฤษดิ์ในตำแหน่งผู้นำประเทศผู้นำทหารจะทำอย่างไรบ้าง?

ทำไมเมื่อจอมพลสฤษดิ์ยึดอำนาจเมื่อ 16 กันยายน 2500 ล้มรัฐบาลจอมพล ป. หัวหน้าพรรคเสรีมนังคศิลา พรรคทหารที่มาจากการเลือกตั้ง จอมพลสฤษดิ์จึงยังไม่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ให้ลูกน้อง
คือ พลเอกถนอม กิตติขจร ขึ้นเป็น “นายกฯหุ่น” แทน

คำอธิบายในพื้นที่สาธารณะคือ จอมพลสฤษดิ์ทำรัฐประหารไม่ใช่เพื่ออำนาจราชศักดิ์ผลประโยชน์ส่วนตน แต่ทำเพื่อชาติ แต่ในทาง “ลับ” กลุ่มผู้นำทหารรู้กันว่า จอมพลสฤษดิ์เจ็บป่วยหนัก... อาจ

ถึงตายในเร็ววัน

เมื่อพลเอกถนอมเป็นนายกฯ เพียง 4 วันแรก ได้ประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นวาระพิเศษในวันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2501 มีมติ ครม. อนุมัติให้จอมพลสฤษดิ์และคณะไปสังเกตการณ์ด้านทหารในสหรัฐ

และยุโรปเป็นเวลา 1 ปี หรือ “ดูงานเพื่อชาติ” ด้วยงบป้องกันราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอโดยเบิกค่าใช้จ่ายเบื้องต้น 1 ล้านบาท (ทองคำบาทละ 400)

จอมพลสฤษดิ์และคณะอีกราว 14 คน เดินทางด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำจากดอนเมือง ปลายทางที่โรงพยาบาลวอลเตอร์รีด (Walter Reed) วอชิงตัน ดี. ซี. สหรัฐ โดยทหารไทยเชื่อว่า นี้คือโรง

พยาบาลที่ดีที่สุดที่เคยรักษาประธานาธิบดีไอเซนฮาวมาแล้ว

คณะแพทย์วินิจฉัยว่า จอมพลสฤษดิ์ “ตับพิการ” วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2501 ได้มี “ผ่าตัดที่ม้าม และเชื่อมโยงเส้นโลหิตจากม้ามไปยังไต เพื่อเปลี่ยนระบบทางเดินของโลหิต”

หลังการผ่าตัดจอมพลสฤษดิ์ที่โรงพยาบาลวอลเตอร์รีด สหรัฐฯ นายแพทย์ไทยก็ได้แจ้งตามรายงานที่ได้รับแก่นายทหารผู้ช่วยจอมพลสฤษดิ์ ว่าจอมพลสฤษดิ์ “ไม่น่าจะมีชีวิตเกินห้าปี”(1)

และคณะแพทย์ฝ่ายสหรัฐฯก็ได้หวังว่า จอมพลสฤษดิ์ต้องปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัดในอนาคต เช่นเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การทานอาหาร และการออกกำลังกาย การควบคุม

น้ำหนัก

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐเป็นฝ่ายดูแลรับผิดชอบด้านค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรงพยาบาลและการรักษาด้านต่างๆ ของจอมพลสฤษดิ์ในครั้งนี้(2)

ในช่วงจอมพลสฤษดิ์พักฟื้น ฝ่ายสหรัฐประเมินว่ายังสามารถสนับสนุนให้จอมพลสฤษดิ์เป็นผู้นำทหารการเมืองของประเทศไทยต่อไปได้

จอมพลสฤษดิ์จึงนำทีมบินเหมาลำกลับสู่ประเทศไทย ทำการยึดอำนาจในเวลา 21.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2501 โดยพลเอกถนอมได้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ในช่วงเช้า ทั้งนี้ ประกาศการลาออก

ทางวิทยุเวลา 20.30 น.

นับแต่นั้นมา ประเทศไทยจึงได้มีนายกรัฐมนตรีทหาร จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่รู้ว่าตนจะต้องตายภายใน 5 ปี...

จอมพลสฤษดิ์อสัญกรรมในวันที่ 8 ธันวาคม 2506 เวลา 17.00 น. จากวันรักษาตัวมาถึงวันสิ้นก็มีชีวิตอยู่ได้ตามที่คณะแพทย์โรงพยาบาลวอลเตอร์รีด สหรัฐ คาดหมายไว้อย่างใกล้เคียง รวมมีอายุ 55

ปี

ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ ได้ประชุมพิเศษเริ่มเวลา 18.30 น. ยืนไว้อาลัยให้จอมพลสฤษดิ์ 1 นาที แล้วเสนอตั้งจอมพลถนอมเป็นนายกรัฐมนตรี จบการประชุมเวลา 19.00 น.

รัฐบาลใหม่ของอดีตลูกน้องที่ใกล้ชิด จอมพลถนอม ได้มีกระบวนการยึดทรัพย์นายกรัฐมนตรีจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่โกงกินคอรัปชั่นที่สุดในแผ่นดิน อย่างทันทีทันใด

Believe it or not?
บันทึกไว้ Tue.อัง. 5 Julyกรกฎา 2016/2559
อ้างอิง
1. “Telegram From the Department of State to the Embassy in Thailand, February 17,1958,” Foreign Relations of the United States, 1958-1960, Volume XV, South and Southeast Asia, p. 985. “Sarit

unlikely live longer than five years.”

2. “Memorandum From the Director of the Office of Southeast Asian Affairs (Kocher) to the Assistant Secretary of State for Far Eastern Affairs (Robertson), January 27,1958,” Foreign Relations of

the United States, 1958-1960, Volume XV, South and Southeast Asia, pp. 984-985.

3. “Instruction From the Department of State to the Embassy in Thailand, March 26,1958,” Foreign Relations of the United States, 1958-1960, Volume XV, South and Southeast Asia, p. 985. “Given

these precaution, there appears at this time to be no reason to assume that Sarit cannot serve as an active political and military leader upon his return to Thailand.”

ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์. “บทบาททางการเมืองของจอมพลถนอม กิตติขจร พ.ศ.2506-2516.” วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย, 2550. หน้า 95-103, 126-131

ไม่มีความคิดเห็น: