PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นทหาร และนักการทหาร และ กษัตริย์ผู้ทรงเป็น จอมทัพไทย

"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร" พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นทหาร และนักการทหาร และ กษัตริย์ผู้ทรงเป็น จอมทัพไทย
ทั้งนี้ พระองค์ทรงเป็นทหาร ทรงมีพระยศทหารสามเหล่าทัพ ทั้ง พลเอก พลเรือเอก และพลอากาศเอก และทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องแบบทหารอยู่เสมอๆ
ที่สำคัญ ทรงตั้งใจที่จะเป็นทหาร ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ โดยศึกษาด้านการทหาร จาก รร.เตรียมทหาร King's School ที่Parramatta ออสเตรเลีย และThe Royal Military College - Duntroon อันเลื่องชื่อของออสเตรเลีย
และ ทรงรับการฝึกหลักสูตรทางทหาร ทั้งที่ ออสเตรเลีย และ อังกฤษ ทรงฝึกบิน เฮลิคอปเตอร์ และเรียน วปอ.อังกฤษ
นอกจากนี้ ยังทรงศึกษา หลักสูตร รร.เสนาธิการทหารบก ด้วย .....ทรงรับราชการทหาร ในกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ทรงมีส่วนสำคัญในการกำหนดแบบปฏิบัติของทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และทหารรักษาพระองค์ รวมถึงการตั้ง หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
ที่สำคัญคือ ทรงเป็นนักบิน F5 ที่มีชม.บิน มากกว่า 2พันชม.บิน....จนทรงได้รับสมัญญานามว่า เป็น "เจ้าฟ้านักบิน".....มา ตอนนี้ ทรงเป็น พระมหากษัตริย์ แล้ว จึงทรงเป็น"กษัตริย์นักบิน" โดยที่พระองค์มาทำการบินเครื่องลำเลียง Boeing 737 ของการบินไทย อีกกว่า3พันชม.บิน อีกด้วย
ไม่แค่นั้น พระองค์ทรงเป็น กษัตริย์นักรบ ที่ทรงออกปฏิบัติการทางทหารที่ชายแดนภาคเหนือ ทรงประทับแรมที่ฐานทหาร บ้านหมากแข้ง จ.เลย และทรงใช้ชีวิตแบบทหาร และ ออกลาดตระเวณ รักษาอธิปไตย ในสมรภูมิคอมมิวนิสต์ เมื่อปี2519 และทรงปฏิบัติภารกิจ ดูแลชายแดน ไทย-กัมพูชา ด้วย
นอกจากนั้นทุกครั้งที่ ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเยี่ยมทหาร ที่ชายแดน พระองค์ ก็โดยเสด็จด้วยเสมอ รวมถึงการยกพลขึ้นบก ของทหารนาวิกโยธิน ที่ จ.นราธิวาส เมื่อปี2512 ด้วย
จึงทรงเป็นกษัตริย์ทหาร ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ กับทั้งทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ

ไม่มีความคิดเห็น: