PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560

จุดที่ 'บิ๊กตู่' ตอบชัดไม่ได้

ประเดิมเอาฤกษ์เอาชัย

บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. และ อาจารย์น้องรศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา นำคณะรัฐมนตรีและข้าราชการทำเนียบรัฐบาล ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 60 รูป

เนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2560

พ่วงด้วยเซอร์ไพรส์ นายกฯลุงตู่ ปล่อยซิงเกิลใหม่ เพลง สะพาน ที่เจ้าตัวแต่งให้กับ ครม.ทุกคนในการทำงาน เพื่อก้าวข้ามไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ตามฉากบรรยากาศชื่นมื่น

ท่ามกลางกระแสข่าวหนทางตามโรดแม็ปส่อเค้าไม่ราบรื่น

ล่าสุดเป็นคิวของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ยืนยันกับปากตัวเอง ยังยึดโรดแม็ปเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

เพิ่มเติมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ที่ยืนยันไม่จำเป็นต้องชี้แจงกับต่างประเทศกรณีมีกระแสข่าวเรื่องการเลื่อนโรดแม็ป เพราะไม่มีฝรั่งชาติไหนมาถามแล้ว เนื่องจากเห็นกระบวน

การและทิศทางแล้ว หลังไทยผ่านการทำประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา

ถือเป็นสัญญาประชาคมว่าจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ

แต่ยอมรับว่าสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ อาจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์วันที่ 13 ตุลาคม 2559 ขึ้น ซึ่งโรดแม็ปอาจจะมีบวกลบบ้าง แต่

เชื่อว่าไม่ว่าจะปรับอย่างไร ก็จะไม่กระทบกับความเชื่อมั่น เพราะเมื่อมีรัฐธรรมนูญทุกอย่างก็ต้องเดินตามนั้น ต่างชาติเขาเข้าใจในเรื่องนี้ดี

ท่าทีจากรัฐบาลทหาร คสช.พยายามยึดสัญญาประชาคมที่ประกาศไว้

แต่อย่างไรก็ตาม ประเมินตามรูปการณ์ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จับอุณหภูมิความร้อนแรงจะไหลไปอยู่ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

เปิดยุทธการปล่อยของเป็นชุด

ไล่ตั้งแต่การเปิดไฟเขียว พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ต่อเนื่องกับการเดินหน้าแก้ไขพระราชบัญญัติสงฆ์ พ.ศ.2505 ผ่าทางตันการตั้งสังฆราชองค์ใหม่

ลุยถั่วแบบม้วนเดียวจบ โดยไม่สนกระแสต้าน

จนมาถึงการปล่อยสัญญาณการเลื่อนโรดแม็ปเลือกตั้ง โดยคนระดับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. จุดพลุให้ สนช.ในปีกกลุ่มอดีต 40 ส.ว.แห่ตีปี๊บ

รีบเล่นเกมเร็ว โดยที่รัฐบาลได้แค่อ้อมแอ้มยึดตามสัญญาประชาคมเดิม

โดยเงื่อนไขสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ถึงจุดนี้สนช.คือ กลไกหลักในการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ทางการเมือง

เดินเกมแหลมๆคมๆแทนรัฐบาล คสช.

ตามโปรแกรมที่รออยู่ล้วนแต่คิวสำคัญ โดยเฉพาะกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ ที่มีการแบะท่าออกมาแล้ว แนวโน้มใช้เวลา ลากยาวกันแบบเต็มเหยียด

สนช.ยื้อจังหวะ ดึงเกมโรดแม็ปได้ตามกติกา

มาถึงตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ผู้รับผิดชอบสัญญาประชาคม ยังไม่ชัวร์เลยด้วยซ้ำ

ในเมื่อทุกอย่างมันอยู่ในกระบวนการของ สนช.

แต่ที่ต้องจับตา อีกส่วนที่ขยับก็คือมุกปรองดองที่เงียบหายไปนาน โผล่มาล่าสุดเจ้าเก่าหน้าเดิมอย่างนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับ

เคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เตรียมชงแนวทางให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 หรือเหมือนการใช้นโยบาย 66/23 สมัยรัฐบาลป๋าเปรมพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในการเปิดช่องให้ผู้หลงผิดเข้ามอบตัว

กับทางราชการโดยไม่ต้องถูกดำเนินคดี

โดยให้ผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองที่รับสารภาพไม่ต้องถูกจำคุก หรือให้มีการจำหน่ายคดี โดยไม่ต้องออกเป็นกฎหมายนิรโทษกรรม แต่จะไม่ครอบคลุมแกนนำการชุมนุม การกระทำผิดอาญาร้ายแรง

คดีทุจริต และการกระทำผิดตามมาตรา 112

และก็ตามฟอร์มเดิม เมื่อได้ยินคำว่าปรองดอง พรรคเพื่อไทยต้องลุ้นให้ถึง นายใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์ต้องดักคอไม่ให้เหมาถึงทักษิณ ต่างฝ่ายต่างตีกินในมุมที่เข้าทางตัวเอง

แต่ที่แปลกไป ทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทยไม่ด่ากันโขมงโฉงเฉง แค่เถียงกันในหลักการ

เหมือนจับคลื่นความถี่ได้ สัญญาณปรองดองรอบนี้มีที่มาที่ไป.

ทีมข่าวการเมือง

ที่มา:ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น: