PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

“โฆษกกห. แจง ความเห็นร่วม 4 พรรคการเมืองแรก ถกโต๊ะกลม ปรองดอง

“โฆษกกห. แจง ความเห็นร่วม 4 พรรคการเมืองแรก ถกโต๊ะกลม ปรองดอง ชี้ควรสร้างระบบการเมืองเป็นธรรม แนะทุกพรรคยอมรับผลการเลือกตั้ง ไม่เคลื่อนไหวนอกสภา /เผย พรรคชาติไทยพัฒนามา 16กพ. ปชป. มา 17 กพ.นี้

พลตรี คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกลาโหม แถลงข่าว ครั้งแรก ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองในชุดคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง
ภายหลัง ตัวแทนพรรคชาติพัฒนา (ชพ.) เข้าเสนอแนวทางปรองดอง อันเป็นพรรคที่4 ที่เข้ามาพูดคุยเป็นวันที่2
พลตรีคงชีพ กล่าวว่าบรรยากาศพูดคุย เสนอแนะเรียบร้อยเป็นกันเอง สร้างสรรค์ รวมทั้งเปิดใจกว้าง ตรงไปตรงมา ในการให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ

โดย พรรคการเมือง ทั้ง 4 คือ พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งกระเทศไทย พรรคความหวังใหม่ และพรรคชาติพัฒนา ต่างแสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการปรองดองว่าต้องสร้างความปรองดอง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เพราะความขัดแย้งที่ผ่านมาทำให้ประเทศเสียโอกาส สังคมไทยติดหล่ม เกิดความขัดแย้งมานาน ซึ่งกระบวนการปรองดองทำให้เราได้จะทำให้สังคมไทยเดินออกจากความขัดแย้งได้ เพื่อนำไปสู่อนาคตในการอยู่ร่วมกันประเทศ โดยจำเป็นต้องสร้างความปรองดองก่อนการเลือกตั้ง และเป็นการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตย และเป็นที่ยอมรับตามหลักสากล

ทั้งนี้ทุกพรรคเห็นว่า1.ประเด็นการเมืองมีความสำคัญมากที่สุดต่อความขัดแย้งที่ผ่านมา เพราะเกิดจากการแสวงหาอำนาจ และรักษาอำนาจ หาผลประโยชน์ รวมทั้งใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม และเลือกปฏิบัติ
โดยเสนอให้ใช้กระบวนการยุติธรรมในการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งเห็นควรให้ทำกระบวนการเลือกตั้งอย่างสุจริตเที่ยงธรรม และเกิดการยอมรับกันทุกฝ่าย
อีกทั้งพรรคการเมืองต้องไม่สร้างปัญหาทำให้ติดหล่มทางการเมือง โดยควรใช้กลไกรัฐสภาแก้ปัญหาเท่านั้น และไม่ออกมาเคลื่อนไหวนอกรัฐสภา ซึ่งทุกพรรคการเมืองควรมีข้อตกลงร่วมกันเหมือนสัญญาประชาคมว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมาทุกฝ่ายต้องยอมรับ และทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์
2.ความเหลื่อมล้ำต้องเข้าถึงการใช้ทรัพยากรและต้องบริหารจัดการน้ำโดยรัฐต้องบริหารที่ดิน และแหล่งน้ำประโยชน์สูงสุดอย่างเป็นธรรมกับเกษตรกร
3 . เรื่องกระบวนการยุติธรรม เพราะที่ผ่านมาในการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรม ด้วยการแทรกแซง ซึ่งทุกพรรคเห็นว่าควรสร้างหลักนิติรัฐและนิติธรรมให้ทั่วถึงทุกกลุ่มทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มทุกฝ่าย
4.สื่อมวลชน ทุกพรรคเห็นว่าสื่อมวลชนไม่ควรปลุกเร้าให้เกิดความขัดแย้งในสังคม ควรระวังรับผิดชอบในการเสนอข้อมูลข่าวสาร ภายใต้กรอบจริยธรรมสื่อ และสนับสนุนป้องกันการคุกคามในการทำงานของสื่อ อีกทั้งสื่อควรเสนอข่าวเพื่อให้คลี่คลายขัดแย้ง
5.การทุจริตคอรัปชั่นทุกพรรคตรงกันว่าต้องมีมาตรการทางกฎหมาย มีการจัดตั้งศาลเฉพาะในการดำเนินการคดีทุจริต เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยมีบทลงโทษที่รุนแรง และรวดเร็ว พร้อมทั้งมีมาตรการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐ เพื่อป้องกันการทุจริตภายในองค์กร
6.ด้านการต่างประเทศ ทุกพรรคเห็นว่าไม่ควรนำปัญหาภายในประเทศไปขยายให้เกิดผลกระทบต่อผลประโยชน์ชาติ
7.การปฏิรูปนั้นก็เห็นตรงกันว่าต้องปฏิรูปอย่างจริงจัง ทุกด้านพร้อมๆกัน
8.สังคมเศรษฐกิจเพื่อเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลตามกรอบรัฐธรรมนูญ และต้องมุ่งพัฒนาไปทุกกลุ่มรายได้ เพื่อนสร้างความเข้มแข็งและกระจายรายได้ให้กับประชาชน
9.ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นั้นทุกพรรคเห็นตรงกันว่าเป็นต้องมียุทธศาสตร์ชาติ เป็นเสมือนเครื่องมือที่ทำให้บรรลุเป้าหมาย และมีทิศทางที่ชัดเจน
ในวันที่16 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00-12.00 น. คณะอนุกรรมการฯ จะเชิญพรรคไทยรวมพลัง พรรคไทยมหารัฐพัฒนา พรรคประชากรไทย
ส่วนช่วงบ่ายเวลา13.30-16.30 น. จะเชิญ พรรคชาติไทยพัฒนา
และวันที่17 กุมภาพันธ์ เวลา09.00-12.00 น. จะเชิญพรรคประชาธิปัตย์ มาพูดคุย

พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ขอให้พรรคการเมืองใช้ดุลยพินิจความเหมาะสมในการเสนอข่าว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการสร้างความปรองดองทางสังคม รวมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชนด้วยในการตั้งประเด็นคำถามที่มีเงื่อนไขทางสังคม

“เราขอเวลาเพียง 3 เดือนในการรวบรวมความคิดเห็นของทุกพรรคการเมือง เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอร่วมเป็นสัญญาประชาคม ดังนั้นขอเวลานิดเดียวให้ทุกความเห็นตกผลึกเป็นสัญญาประชาคมที่กำหนดอนาคตการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมไทย” พล.ต.คงชีพ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: