PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

"บิ๊กโด่ง" เผย จีน - ยูเครน เล็งลงทุนสร้าง โรงงานผลิตอาวุธ-อะไหล่ ในไทย

มาแน่.....จีน -ยูเครน
"บิ๊กโด่ง" เผย จีน - ยูเครน เล็งลงทุนสร้าง โรงงานผลิตอาวุธ-อะไหล่ ในไทย หลังกองทัพซื้อรถเกราะ BTR ยูเครน และรถถังจีน VT4 มีพื้นที่รองรับแล้ว ชี้ ต้องแก้ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปิดทาง ยันไม่ใช่ผูกขาดซื้ออาวุธ จีน -ยูเครน ขออย่ามองอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ในแง่ลบ
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ฟัง สรุปผลการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่องการพัฒนากิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและมอบนโยบายการพัฒนากิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม
โดยมี บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ฐิตินันท์ ธัญญสิริ ผอ.ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร DTI ร่วม

โดยผลการสัมมนาสรุปว่า การจัดตั้งโรงงานซ่อมสร้างอาวุธนั้น จะตั้งคณะกรรมการเพื่อกำหนด ข้อปฏิบัติให้ชัดเจน ข้อดีข้อเสียและเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณา ใน 3 รูปแบบ คือ 1.ให้ส่วนราชการจัดตั้ง 2.ภาคเอกชนและส่วนราชการร่วมกันจัดตั้ง 3.ภาคเอกชนจัดตั้ง
สำหรับผู้ลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานซ่อมสร้างในไทยนั้น ต้องเสนอให้ ครม.เพื่อแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ
ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร. วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม เรื่องการพัฒนากิจการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการวิจัยพัฒนาเพื่อมุ่งไปสู่การผลิตใช้ในราชการและเพื่อการพาณิชย์ ให้เกิดผลเป็นรูปประธรรมภายใน 2560
และยังเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านความมั่นคงและลดภาระงบประมาณในการนำเข้าจากต่างประเทศ ด้วยการส่งเสริมและแสวงหาความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ภายในและภายนอกประเทศ
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า การผลักดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้เป็นรูปธรรม และขอให้หน่วยขึ้นตรง กระทรวงกลาโหมให้ความร่วมมือในด้านการผลิต
โดยกำหนดความต้องการอาวุธยุทโธปกรณ์ล่วงหน้า 5 ปี หรือในระยะยาว พร้อมให้ความสำคัญเข้าร่วมประชุมกับศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหารทุกครั้ง
พร้อมบูรณาการความต้องการ ทั้ง กระสุน วัตถุระเบิด ซ่อมยานยนต์ทุกประเภท และทำให้ผลผลิตการวิจัยมีมาตรฐานไปสู่สายการผลิต จัดทำโครงการ 5 ปี ให้เสร็จเดือนเมษายนนี้

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า สำหรับการตั้งโรงงานซ่อมสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์กับมิตรประเทศนั้น ขอให้ศึกษาถึงความเป็นไปได้โครงการ หนทางการปฏิบัติที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมและขอให้ดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้เช่นกัน
ในเรื่องการแก้ไขกฎหมายพ.ร.บ.ต่างๆซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลา แต่ในส่วนการปรับแก้ไขประกาศกระทรวงกลาโหมเรื่องรายการยุทธการทางทหารสามารถดำเนินการได้เร็วกว่า
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ในเรื่องของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศประชาชนมักจะมองในด้านลบเป็นส่วนมาก ซึ่งอยากชี้แจงว่า การดำเนินดังกล่าวมีผลดีในหลายด้าน ทำให้กองทัพสามารถพึ่งพาตนเองได้
สำหรับความร่วมมือกับมิตรประเทศในการตั้งโรงงานซ่อมสร้างกับจีนยูเครน อยู่ในระหว่างการดำเนินการ เพื่อหาแนวทาง ซึ่งก็มีหลักการอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องใช้เวลาศึกษาอีกสักระยะหนึ่งก็จะทำให้หนทางในการปฏิบัติมีความชัดเจน และนำเสนอรมว.กลาโหมได้

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า การร่วมมือกับมิตรประเทศในการตั้งโรงงานซ่อมสร้างนั้น มีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากว่าในอนาคตเมื่อเรามีอุปกรณ์จากมิตรประเทศเข้ามา หากชำรุด ต้องเข้ารับการซ่อมบำรุง หากเราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง หรือผลิตชิ้นส่วนอะไหล่บางอย่างที่มีความจำเป็นต้องใช้ สามารถลดปัญหาในเรื่องการใช้งบประมาณได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ ทางประเทศจีน และยูเครน มีความพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว เพียงแต่เขารอแนวทางความชัดเจน
ทั้งนี้การตั้งโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์จะต้องมีการแยกว่า ยุทโธปกรณ์ชนิดไหนซื้อมาจากประเทศไหน อย่างของจีนหรือยูเครนก็ต้องแยกกัน. จะนำมารวมกันไม่ได้
รวมทั้งความยินยอมของมิตรประเทศหากยอมรับในข้อตกลงได้ก็สามารถดำเนินการเข้ามาลงทุนได้ทันที ไม่จำเป็นที่จะต้องทำพร้อมๆกันทุกประเทศ
ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ มีห้วงระยะเวลาในการดำเนินการอยู่แล้ว รวมทั้งสำรวจ ยุทโธปกรณ์ต่างๆที่เราใช้อยู่ หากของประเทศใดมีจำนวนไม่มากนักก็ไม่จำเป็นต้องสร้างโรงงานซ่อมสร้าง
และยืนยันว่าการจัดตั้งโรงงานซ่อมสร้างจะไม่เป็นการผูกขาดว่าการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่อไปจะต้องมาจากประเทศนั้นๆ
ส่วนพื้นที่ที่จะตั้งโรงงานซ่อมสร้างนั้นได้ลงพื้นที่ดูเบื้องต้นเอาไว้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: