PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

"วีระ"จี้นายกฯสอบทหารพันสร้างตลาดฯภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา

Veera Somkwamkid ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 9 ภาพ
โกงชาติ ขายชาติ กันอีกแล้ว
รัฐบาล คสช. ปล่อยให้มีการย่ำยี
อธิปไตยของชาติได้อย่างไร ?
เมื่อวานนี้(อังคารที่ 7 มีนาคม 2560)
ผมได้รับแจ้งจากทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองว่าจะมีการประชุม ระหว่างจังหวัดบุรีรัมย์ ของไทย กับจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา
หัวข้อหลักในการเจรจา เกี่ยวกับการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าขายช่องสายตะกู(เขมรเรียกช่องจุ๊บกากี) และการที่เขมรจะขอซื้อไฟฟ้าจากไทย เพื่อใช้ในบ่อนกาสิโนและจังหวัดอุดรมีชัย(กฟผ.อ้างว่าไฟฟ้าของไทยไม่พอ ต้องรีบก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ แต่กลับมีไฟฟ้าไปขายให้เขมรเพิ่มขึ้น นี่คือหลักฐานสำคัญว่าไฟฟ้าของไทยไม่ได้ขาดแคลนจริง)
กรณีนี้มีทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในจังหวัดบุรีรัมย์ ยื่นเรื่องให้ผมตรวจสอบ
ตั้งแต่ปลายปี 2559
เนื่องจากเชื่อว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต
ก่อสร้างตลาดฯภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา โดยยังไม่ได้รับการอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช
หลังจากก่อสร้างตลาดฯเสร็จแล้ว
จึงมีการทำรายงานวิจัยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในภายหลัง ซึ่งขัดต่อกฎหมาย
ที่สำคัญ นอกจากเป็นพื้นที่อุทยานแล้ว
พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่มรดกโลกอีกด้วย
การที่เทศบาลจันทบเพชรไปบุกรุก
และก่อสร้างตลาดฯรวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ
บนพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา และบนเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์มรดกโลก โดยผิดกฎหมาย
จึงเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว
ไม่สามารถจะแก้ไขให้พ้นไปจากความผิดได้
ได้ทราบว่ามีทหารใหญ่ใน คสช.
ช่วยวิ่งเต้นให้ผู้ใหญ่ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รีบทำเรื่องอนุญาตย้อนหลังให้
เพื่อให้ช่วยหลุดพ้นจากความผิด
ก็ขอเตือนนะ ถ้าผู้ใดไปเซ็นอนุญาตย้อนหลังให้ มีสิทธิ์ติดคุกแน่
สิ่งที่อธิบดีกรมอุทยานฯสมคววรทำ คือรีบดำเนินคดีกับทุกคนที่บุกรุกที่อุทยานในทันที
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ก็เช่นกัน ต้องหยุดการร่วมกระทำความผิดในทันที
กรณีนี้จะต้องมีการยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการมรดกต่อไป
เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบกรณีเชื่อว่า
เจ้าหน้าที่รัฐของไทยกระทำความผิดเสียเอง
ทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ของมรดกโลก
มีข้อมูลว่า กรณีที่ต้องรีบผลักดัน
ให้มีการเปิดจุดผ่านแดนจุดนี้
ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรโดยเร็ว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐไทย หลายหน่วยงาน
ไปรับเงินก้อนโตจากนายทุนเจ้าของบ่อนกาสิโนมาแล้ว เพื่อให้รีบเปลี่ยนจากจุดผ่อนปรนการค้าฯ
เป็นจุดผ่านแดนถาวร
เนื่องจากขณะนี้บ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ ก่อสร้างใกล้จะเสร็จแล้ว(ดูรูปที่ผม ถ่ายหน้าจุดผ่านแดนด้านขวามือ ของผมคือบ่อนการสิโนชื่อ Resort) ก่อสร้างติดหน้าด่านเลย เดินข้ามเขตแดนไม่กี่ก้าว ก็เดินเข้าบ่อนกาสิโนได้เลย
ที่สำคัญ บริเวณที่ก่อสร้างจุดผ่านแดนนี้
เป็นบริเวณที่เขมรบุกรุกเข้ามายึดครอง
ยังเป็นพื้นที่ ที่มีการอ้างสิทธิทับซ้อนกันอยู่
ที่สำคัญ ยังอยู่ในระหว่างการเจรจาของทั้งสองประเทศ
อยากทราบว่าผู้มีอำนาจคนใด
ที่ไปยอมให้เขมรเข้ามาก่อสร้างบ่อนกาสิโน และยอมให้ทหารและพลเรือนเขมร
เข้ามาก่อสร้างตลาด อาคาร ร้านค้า และบ้านเรือน ติดจุดผ่านแดน
บนพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน ได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้มีนายทหารที่รับผิดชอบ ชื่อสนธยา ได้ทำการประท้วงและสั่งให้ชุมชนเขมร รื้อถอนอาคารบ้านเรือน ออกไปจากจุดพิพาทในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน แต่เรื่องทำไมเงียบหายไป
มีบิ๊ก คสช.คนใดไปสั่งปิดปาก
หรือเขาได้เลื่อนตำแหน่งให้ใหญ่ขึ้น จึงเหมือนถูกปิดปาก
เรื่องนี้ชัดเจนมาก ไปดูได้เลย ไปที่ด่านจะมองเห็นชุมชนเขมร ตั้งอยู่ติดริมรั้วของด่าน
ทหารไทยที่เฝ้าอยู่ที่นั่นทำอะไรกันอยู่
ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้อย่างไร?
เสียอธิปไตยให้เขมรอีกแล้ว
กรณีนี้เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ทำผิดกฎหมายเสียเอง
และเชื่อว่ามีการทุจริต
และเชื่อว่ามีการขายชาติอีกด้วย
นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา
จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้แล้วนะ
ผมนำมาเปิดเผยอย่างชัดเจนขนาดนี้
ต้องรีบจัดการตามกฎหมายจนถึงที่สุด
กับผู้กระทำความผิดทุกคนในทันที
มิฉะนั้น คนทั่วไปอาจเข้าใจว่านายกฯประยุทธ์ รู้เห็นเป็นใจด้วย หรือช่วยปกป้องผู้ที่กระทำความผิด ไม่ให้ต้องได้รับโทษ
ในอดีตสมัยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
มีการกล่าวหากันถึง การโกงชาติและการขายชาติของรัฐบาลในขณะนั้น
ไม่น่าเชื่อว่าในยุครัฐบาลทหาร คสช. การโกงชาติ และการขายชาติก็ยังไม่หมดไป
(ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง)

ไม่มีความคิดเห็น: