PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

"การเป็นนายกฯ ไม่ใช่เรื่องเหนื่อย หรือไม่เหนื่อย แต่มันเป็นความ ห่วง กังวล ทุกเรื่อง

"การเป็นนายกฯ ไม่ใช่เรื่องเหนื่อย หรือไม่เหนื่อย แต่มันเป็นความ ห่วง กังวล ทุกเรื่อง จะทำยังไง แก้ยังไง ....แล้วนำความกังวล มาสู่การปฏิบัติ ไม่ใช่กังวล แล้ว นอนเฉยๆ ผมว่า นายกฯทุกคนคงเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่า ผมกังวลมากกว่าคนอื่น แต่ผมกังวล แล้วต้องแก้ไขให้ได้..."
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 13มิย.2560

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ปัญหาหลายเรื่องนายกฯแก้คนเดียวไม่ได้ การที่นายกฯแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวและยาง นายกฯจะแก้โดยการตั้งทำงานพิเศษขึ้นมาซึ่งหลายภาคส่วน นายกฯเพียงแต่ริเริ่มอันไหนที่รู้มาจากสื่อ ก็เอาไปสั่งการว่าเรื่องนี้ว่ากันอย่างไร ให้เขาตอบคำถามให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองของเรา
"การเป็นนายกฯไม่ใช่เหนื่อยหรือไม่เหนื่อย แต่เป็นเรื่องของความห่วงกังวล และนายกฯห่วงกังวลทุกเรื่อง คนที่เป็นนายกฯอาจจะเป็นแบบนี้ "
ห่วงประชาชนผู้มีรายได้น้อย เกษตรกรจะทำจะอยู่กันอย่างไร เศรษฐกิจประเทศจะเป็นอย่างไร ค่าเงินบาทลดลง แข็งขึ้น หรืออ่อนตัว ขาดแคลนน้ำจะทำอย่างไร แม้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ผมก็กังวล ฝนตกทุกครั้งก็กังวล นั่นคือหน้าที่ของนายกฯที่ต้องกังวล และนำข้อกังวลมาสู่การปฏิบัติ ขับเคลื่อนนโยบาย นำปัญหาเดิม ปัญหาใหม่ และปัญหาวันข้างหน้า ซึ่งจะต้องทำทั้งวันนี้และทำเผื่อวันข้างหน้า โดยคิดมาตรการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่จะมีมากขึ้นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคน สาธารณสุข การศึกษา
“ผมไม่อาจจะกล่าวอ้างว่าผมกังวลมากกว่าคนอื่น หรือคนอื่นอาจจะมากกว่าผม แต่ผมจะต้องนำไปสู่การปฏิบัติ กังวลแล้วนอนเฉย ๆ มันไม่ได้ ผมนำทุกปัญหามาแก้ไขทั้งหมด บางปัญหาที่เล็ก ๆ ก็ต้องให้ผู้ปฏิบัติเขาทราบ ไม่เช่นนั้นผมคงต้องสั่งเองทั้งหมด ผมคงไม่ต้องมีรัฐมนตรี กระทรวง
การเป็นรัฐบาลมันมีนายกฯคนเดียวทำได้หรือไม่ มันไม่ได้หรอก การทำงานต้องทำด้วยระบบข้าราชการหลายล้านคน วันข้างหน้าถ้าจะลดข้าราชการก็ต้องสร้างความเข้มแข็งในภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคสังคม ธุรกิจ และประชาชนเข้มแข็ง เพื่อให้เขาเดินเองได้ ขณะที่รัฐบาลก็คอยดูเรื่องการกระจายรายได้ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเบาแรงไปเยอะ ผลประโยชน์และความโปร่งใสจะชัดเจนขึ้น ทุกคนจะมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศ บริหารประเทศ เพราะประชาธิปไตยประชาชนมีสิทธิ มีเสียง และต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ ว่าอย่างไรก็ไปตามนั้นก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

"การเป็นนายกฯ ไม่ใช่เรื่องเหนื่อย หรือไม่เหนื่อย แต่มันเป็นความ ห่วง กังวล ทุกเรื่อง จะทำยังไง แก้ยังไง ....แล้วนำความกังวล มาสู่การปฏิบัติ ไม่ใช่กังวล แล้ว นอนเฉยๆ ผมว่า นายกฯทุกคนคงเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่า ผมกังวลมากกว่าคนอื่น แต่ผมกังวล แล้วต้องแก้ไขให้ได้..."
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 13มิย.2560
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ปัญหาหลายเรื่องนายกฯแก้คนเดียวไม่ได้ การที่นายกฯแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวและยาง นายกฯจะแก้โดยการตั้งทำงานพิเศษขึ้นมาซึ่งหลายภาคส่วน นายกฯเพียงแต่ริเริ่มอันไหนที่รู้มาจากสื่อ ก็เอาไปสั่งการว่าเรื่องนี้ว่ากันอย่างไร ให้เขาตอบคำถามให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองของเรา
"การเป็นนายกฯไม่ใช่เหนื่อยหรือไม่เหนื่อย แต่เป็นเรื่องของความห่วงกังวล และนายกฯห่วงกังวลทุกเรื่อง คนที่เป็นนายกฯอาจจะเป็นแบบนี้ "
ห่วงประชาชนผู้มีรายได้น้อย เกษตรกรจะทำจะอยู่กันอย่างไร เศรษฐกิจประเทศจะเป็นอย่างไร ค่าเงินบาทลดลง แข็งขึ้น หรืออ่อนตัว ขาดแคลนน้ำจะทำอย่างไร แม้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ผมก็กังวล ฝนตกทุกครั้งก็กังวล นั่นคือหน้าที่ของนายกฯที่ต้องกังวล และนำข้อกังวลมาสู่การปฏิบัติ ขับเคลื่อนนโยบาย นำปัญหาเดิม ปัญหาใหม่ และปัญหาวันข้างหน้า ซึ่งจะต้องทำทั้งวันนี้และทำเผื่อวันข้างหน้า โดยคิดมาตรการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่จะมีมากขึ้นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคน สาธารณสุข การศึกษา
“ผมไม่อาจจะกล่าวอ้างว่าผมกังวลมากกว่าคนอื่น หรือคนอื่นอาจจะมากกว่าผม แต่ผมจะต้องนำไปสู่การปฏิบัติ กังวลแล้วนอนเฉย ๆ มันไม่ได้ ผมนำทุกปัญหามาแก้ไขทั้งหมด บางปัญหาที่เล็ก ๆ ก็ต้องให้ผู้ปฏิบัติเขาทราบ ไม่เช่นนั้นผมคงต้องสั่งเองทั้งหมด ผมคงไม่ต้องมีรัฐมนตรี กระทรวง
การเป็นรัฐบาลมันมีนายกฯคนเดียวทำได้หรือไม่ มันไม่ได้หรอก การทำงานต้องทำด้วยระบบข้าราชการหลายล้านคน วันข้างหน้าถ้าจะลดข้าราชการก็ต้องสร้างความเข้มแข็งในภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคสังคม ธุรกิจ และประชาชนเข้มแข็ง เพื่อให้เขาเดินเองได้ ขณะที่รัฐบาลก็คอยดูเรื่องการกระจายรายได้ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเบาแรงไปเยอะ ผลประโยชน์และความโปร่งใสจะชัดเจนขึ้น ทุกคนจะมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศ บริหารประเทศ เพราะประชาธิปไตยประชาชนมีสิทธิ มีเสียง และต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ ว่าอย่างไรก็ไปตามนั้นก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: