PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

โซเชียลฯไม่ได้กรอง

โซเชียลฯไม่ได้กรอง

ตลกร้าย ขำไม่ออก
กับปรากฏการณ์ที่สังคมชาวเน็ตแตกตื่นกระแส “ตึกทรุดเอียง” ที่มีการแชร์กันในโซเชียลมีเดีย ภาพอาคารมีลักษณะคล้ายกับทรุดเอียง คล้ายจะพังถล่มลงมา บริเวณถนนเพลินจิต ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพลินจิต เขตปทุมวัน กทม.
ถึงขั้นมีสำนักข่าวบางแห่งรายงานว่าจะถล่ม ทำเอาผู้คนแตกตื่น
แต่สุดท้ายมีการยืนยันจากผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ไม่ใช่ตึกเอียงแต่เป็นการดีไซน์ สถาปนิกตั้งใจออกแบบให้เห็นเป็นความโน้มเอียง
เล่นเอาเจ้ากรมข่าวโซเชียลฯหน้าแตก เขินไปตามๆกัน
และเมื่อตรวจสอบพบเป็นโครงการโรงแรมหรูของ “น้องเอม” น.ส.พิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร
ชาวโลกโซเชียลฯก็พาลด่าเป็นเหลี่ยมการตลาด เรียกเรตติ้ง
เรื่องของเรื่องอิทธิฤทธิ์โซเชียลฯ เรืิ่องจริง เรื่องเท็จ ชักจะแยกไม่ออก
หลอกคนเชื่อง่าย เป็นเครื่องมือปลุกปั่นอันทรงประสิทธิภาพยิ่งในสถานการณ์ห้วงปัจจุบัน
และนั่นก็เป็นจุดที่รัฐบาลทหาร คสช.ต้องจัดอยู่ในโหมดของ “ภัยคุกคาม”
ความมั่นคง
ที่แน่ๆ ณ ห้วงเวลานี้ สื่อออนไลน์ เครือข่ายโซเชียลมีเดียของแนวร่วมเสื้อแดงนปช. และพรรคเพื่อไทย คงถูกตามบล็อก ไล่สกัดกันแทบไม่ได้กระดิก
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่โยงกับเกมปลุกระดมมวลชน
แต่อย่างไรก็ตาม ผลจากยุทธการตามไล่บี้กันถึงลูกถึงคน ถึงตรงนี้ก็คงมั่นใจระดับหนึ่ง
เมื่อ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหมแสดงความมั่นใจสวนกระแสที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ปูดข้อมูลการขนมวลชนในวันตัดสินคดีอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว วันที่ 25 สิงหาคม
ไม่มีอะไร แค่พูดกันไป คสช.ไม่มีการสกัดกั้นอะไร
จะมาก็มา แต่ต้องพูดกันให้ชัดว่า มาแล้วจะไม่มีที่ยืน
ขณะที่ข้อมูล “ข่าวกรอง” อย่างเป็นทางการ จากปากของ พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ยืนยันจากการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าสถานการณ์คงไม่มีเหตุความวุ่นวาย
ไม่น่าจะมีอะไรเป็นกรณีพิเศษ การเคลื่อนไหวยังเป็นแค่การแสดงความคิดเห็น
ขณะที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เลขาธิการ คสช. ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ประเมินสถานการณ์วันตัดสินคดีจำนำข้าว คาดมวลชนจะมา 1–2 พันคน ห่วงแค่มือที่สามจะแทรกมาป่วน
มีคำสั่งให้หน่วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ดูแลพื้นที่ของตัวเองแบบทุกตารางนิ้ว ประกบติดแบบไม่ละสายตาจนกว่าจะถึงวันดีเดย์
โดยรูปการณ์ไม่ถึงขั้นซีเรียส แต่ก็ไม่กล้าประมาท
ตัดฉากไปที่ผู้นำก็ยังมีอารมณ์ขัน บ่นๆด่าๆไปวันๆ
อาการแบบคนที่รู้ตัวดีว่า “จุดเดือดต่ำ”
ตามลีลาล่าสุดที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. แกล้งยิงมุกกระเซ้าทีมงานนักวิจัยที่มาจัดอีเวนต์โชว์ผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวบำรุงหัวใจ ที่ทำเนียบฯ
อำกันเป็นนัย แก้โรคใจร้อนได้หรือเปล่า
คงอยากเอามาใช้กับตัวเองที่เกิดอาการ “หัวร้อน” บ่อยๆ
แบบที่โดนจับทางได้กับปมแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ที่อยู่ๆ “นายกฯลุงตู่” ก็ขึ้นเสียงสูง ออกตัวเรื่องทหารสายบูรพาพยัคฆ์กับสายวงศ์เทวัญ
หงุดหงิดกับการรายงานข่าวของสื่อที่โยงเส้นสายการโยกย้ายท็อปบูตตำแหน่งสำคัญ
กระตุกแรงกระเพื่อมในจุดที่ฝ่ายคุมเกมอำนาจกดให้นิ่ง
ตามรูปการณ์สะท้อนภาวะความอ่อนไหวในการจัดวาง
ขุมกำลัง การแต่งตั้งโยกย้ายขุนทหารทุกรอบปี เป็นห้วงเวลาที่ผู้นำรัฐบาลท็อปบูตต้องคิดหนัก
เพราะมันแปรผันตรงกับการประคองเกมอำนาจ
รอบนี้ที่ว่านิ่งๆ เอาเข้าจริง “บิ๊กตู่” ก็ยังแหยงภาวะทางใจของคนผิดหวัง.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: