PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

'พลังลาก' ของ 'นายกฯ ประยุทธ์'

ยิ่งลักษณ์แค่ "ตะกั่ว" ตีนแห
หาใช่ "ทองคำ" ไม่..........!
แล้วรัฐบาลจะเอาน้ำหนักทองไปประเมินค่าตะกั่วเพื่ออะไร?
ฉะนั้น........
วันที่ ๒๕ สิงหา ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำตัดสินคดีจำนำข้าว นั้น
ใครจะเดินทางมาให้กำลังใจหรือมาสะใจยิ่งลักษณ์ที่ศาล ก็เป็นเรื่องของเขา
ไม่เห็นจำเป็นที่รัฐบาลต้องไปแอกชัน-หวั่นไหวให้เสียรังวัด ต่อการมามาก-มาน้อย ของสาวกระบอบทักษิณ
แค่ "ลำไย ไหทองคำ" เด้งหน้า-เด้งหลังไม่ว่าที่ไหน คนยังแห่กันไปมุงตาลุกวาว เป็นร้อย-เป็นพัน
แล้วนี่ ระดับ "อดีตนายกฯ หญิงคนแรก" ของประเทศไทย จะติดคุกหรือไม่ติดเป็นประวัติศาสตร์ชาติคนแรก
ใจคอรัฐบาลจะไม่ให้ชาวบ้าน-ชาวเมือง ออกมาสืบสานเอกลักษณ์ "ไทยมุง" กันเลยเชียวหรือ?
ผมยังอยากเลย!
ผู้นำท้องถิ่นไหน นักเลือกตั้งไหน หัวคะแนนไหน จังหวัดไหน จะจ้างรถ-จ้างคนมา ก็ช่างเขาเหอะ
เงินของเขา เขารักของเขา เขาทำในสิ่งที่กฎหมายไม่ห้าม แล้วจะไปห้ามเขาทำไม
หรือ "หึง"?
ให้เขาออกลายมาให้เห็นครบทุกลาย-ทุกสี นั่นน่ะดีแล้วในระบบตลาด
ผู้บริโภคสินค้าการเมือง จะได้รู้เช่น-เห็นชาติ ประกอบการตัดสินใจในการเลือกได้ไม่ผิดพลาด
มองกันอีกด้าน คดียิ่งลักษณ์ จะเป็นเหมือนปรอทวัด "ทุกระบบ-ทุกยูนิต" สังคมประเทศ
คือทั้ง สังคมศาล-สังคมอัยการ-สังคมตำรวจ-สังคมทหาร-สังคมข้าราชการ-สังคมนักวิชาการ-สังคมการเมือง-สังคมชาวบ้าน กระทั่ง...
"สังคมพระ"
สังคมไหน-กลุ่มไหน-ตรงไหน-ใคร "ติดเชื้อไข้แดง-ไม่ติด"
วันที่ ๒๕ สิงหาเห็นเลย!
นี่ผลบวกในมุมกว้าง ..........
ส่วนมุมแคบ มหาดไทยของพลเอกอนุพงษ์และหน่วยความมั่นคง จะได้เก็บตัวเลข-เก็บข้อมูล แบบมีหลัก-มีฐาน เป็นรูปธรรม
การไปห้าม ไปขัดขวาง ไม่ให้เขามา เหมือนคนออกหัด แต่ไปกินยาสกัด ผลคือ
"หัดหลบใน"!
ในเมื่อกูต้องออกตามผิวหนังตามธรรมชาติ แต่มึงกินยาสกัด กูก็ต้องหลบแผลงฤทธิ์ข้างใน
แทนที่จะรักษาข้างนอกง่ายกว่า กลับยาก เผลอๆ ถึงตายเลย!
นั่นคือ...........
อย่าไป "สร้างประเด็น-สร้างเงื่อนไข" ให้เขาเอาไปอ้างสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมาย ด้านสิทธิ-เสรีภาพเลย
ประชาชนคนไทยทุกคน มีสิทธิ์จะเลือกถิ่นฐานที่อยู่อาศัย มีสิทธิ์จะไปไหน-มาไหนได้
ไปงานกฐิน งานผ้าป่า งานบวช งานศพ ไปเป็นสิบ-เป็นร้อยคน มีเจ้าภาพออกเงินเหมารถคนเดียว
กินข้าวกันทั้งโต๊ะ ๑๐-๒๐ คน มีเจ้ามือจ่ายคนเดียว
นี่มันบุคลิกสังคมไทย ซ้ำกฎหมายก็ไม่ผิด
การจะไปจ้องเล็ง-เพ่งโทษ-เพ่งจับ ว่าใครเป็นตัวการเหมารถมาให้กำลังใจแม่โฉมยง
แบบนี้ตะหาก ใจไม่กว้าง ไม่สง่างาม!
แต่ถ้าเป็นอย่างที่ "นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส" ผู้ว่าฯ สตง.บอก บาง อบต.เอางบหลวงจ้างรถขนคน
นั่นเป็นอีกกรณี ที่ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
คือไม่ใช่ผิดที่เกณฑ์คนมา แต่ที่เอาเงินหลวงจ้างรถหลอกคนมา ตรงนั้นแหละ น่าจะผิด
หรือที่นายก อบต.รายหนึ่ง โพสต์เฟซ.......
"กูเป็นนายก อบต.อยู่หนองหม้อ โคตรพ่อมึงพูดมาได้ว่า อบต.เอาเงินให้ชาวบ้านไปให้กำลังใจนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เขาไปด้วยใจกันทั้งนั้นไอ้เหี้...ย พูดหมาๆ มึงมาแถวบ้านกูจะให้ลูกน้องกระทืบให้จมขี้เลยไอ้สัต"
นี่...แบบนี้ก็ไม่ผิดที่โพสต์เฟซ
ที่จะผิด ก็อีตรง "เนื้อหา-ถ้อยคำ" ที่โพสต์นั่นแหละ!
เพราะเหตุนั้น การจะทำอะไร ต้องจัดอันดับเรื่องราวให้ลงจังหวะและขั้นตอนก่อน
แค่พวกเขาจะมาดูหน้า-มาให้กำลังใจ-มาสั่งเสียอาลัยกันเป็นครั้งสุดท้าย กับคนที่รัก-ที่ชัง ซักคน
ถึงใครเหมารถให้ ถ้าเป็นเงินเขา ไม่ใช่เงินหลวง และไม่ได้เป็นคนในระบบราชการ
เขาผิดตรงไหน?
ต่อเมื่อ มาแล้ว มีการทำผิดกฎหมาย ผิดกฎระเบียบทางราชการ นั่นแหละ..........
เป็นบทบาท-หน้าที่ ที่ตำรวจหรือทหาร จะต้อง "ออกฉาก" ส่วนจะออกแบบไหน ก็แล้วแต่ว่า ผู้มานั้น ทำความผิดสถานใด
ถูกต้องตามสุภาษิตไทยที่ว่า "ช้าเป็นการ นานเป็นคุณ"
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ บอกว่า ช้าเป็นการ นานเป็นคุณ คือ
"ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทํา ดีกว่าด่วนทํา"
ก่อนจะทำอะไร ใจเย็นๆ ใคร่ครวญให้รอบคอบ คิดก่อนทำ อย่าทำก่อนคิด แล้วจะมีผลสำเร็จ
ดีกว่า ผลีผลาม ใจเร็วด่วนได้ รีบๆ ทำ นั่นจะมีความผิดพลาดได้ง่าย
ครับ....จะเข้าทางเจ๊อังคณากับพวกหิวแม่น ออกมาอ้างสากลโลก-สากลจักรวาล
กวน..........เปล่าๆ!
ดังนั้น ทหารก็ดี ตำรวจก็ดี อย่าไปกัก-ไปกัน-ไปขัดขวางใครที่จะเดินทางมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์วันที่ ๒๕ สิงหา
ไปจัดเตรียมสถานที่บริเวณศาล คอยอำนวยความสะดวกให้เขาดีกว่า
ถ้าศาลตัดสินว่าไม่ผิด เขาก็จะเฮตามเป็นหางยิ่งลักษณ์ไปฉลองกันที่อื่นเอง
แต่ถ้าผิด จะได้ร่วมเป็น "นางร้องไห้" โพสต์ท่าให้โทรทัศน์แย่งกันถ่ายไปออกจอ
ญาติพี่น้อง ลูกหลาน เพื่อนฝูง ที่อยู่ทางบ้าน เห็นหน้าในโทรทัศน์ กลับไปดังใหญ่ คุยกันไปเจ็ดทุ่ง
แต่ถ้ามากันมากๆ แล้วของขึ้น มีหัวโจกปลุกปั่น-ก่อเหตุ
ปั่นกันตรงนั้น............
ก็ "วันสตอป เซอร์วิซ" กันไปตรงนั้นเลย!
ดีกว่าสกัด ให้มุดใต้ดิน ตรงนั้นที่-ตรงนี้ที่ มีเรื่อง มีเหตุแล้ว เสียเวลาไล่ล่า ขุดรู
มาถึงป่านนี้แล้ว อะไรดี..ก็รู้กันแล้ว, อะไรชั่ว..ก็รู้กันแล้ว ฉะนั้น อะไรที่เกิดขึ้น และเป็นไปในทางป่วนบ้านเมืองต่อจากนี้
ใครจะอ้าง "ไม่รู้" ฟังไม่ขึ้น!
และอะไรที่ไม่เป็นดังใจ ตัวเองเสียประโยชน์ มักพูดว่า "แล้วแบบนี้จะปรองดองกันได้อย่างไร"
ก็ไม่ต้องปรองดองกันหรอก.........
ในเมื่อปรัชญาปรองดองของเขา ตั้งอยู่บนฐาน "ปองแดก" อย่างเดียว
ก็ให้เขาปองในทางของเขาไปเหอะ!
๑๐ ปี หรือเอากันจริงๆ ๑๒ ปี ครบหนึ่งรอบนักษัตรพอดี มันเกินเวลาที่จะต้องพะเน้าพะนอขอร้องให้ใครมาปรองดองกับใครแล้ว
สังคมชาติเรา ไม่มีเวลาให้เสียไปกับพวกอันธพาลแผ่นดินอีกแล้ว
มัวอ้อร้อเป็นลาติดหล่มอยู่อย่างนี้ จีดีพีประเทศ โตปีละ ๒-๓ เปอร์เซ็นต์
ตายทั้งระบบแน่!
ถ้ารัฐบาล "อำนาจเด็ดขาด" ยังเข็นชาติขึ้นจากหล่มไม่ได้ในปีนี้ นึกหรือว่า ยังมี "ชาติหน้า" ให้เข็นอยู่อีก
กลุ่ม "ค้านทุกเรื่อง" คือ โคลน
รัฐบาล คสช.คือ กงล้อ
ผู้นำบริหาร "นายกฯ ประยุทธ์" คือ พลังลาก
"โคลนติดล้อ" เป็นธรรมชาติของเกวียนใช้งาน ดูเผินๆ เป็นตัวถ่วง-ตัวอุปสรรค แต่แท้จริงแล้ว โคลนคือพลังผลัก-พลังหมุนกงล้อ
ถ้าไม่มีโคลน จะมีเกวียนไปเพื่ออะไร?
ต้องอาศัยโคลน คือพวกค้านทุกเรื่องนี่แหละ เป็นตัว "สร้างสมดุล" ในมิติ แรงผลัก-แรงดัน-แรงเร่ง-แรงปะทะ
จะได้รู้ว่า "พลังลาก" ของนายกฯ ประยุทธ์ มีค่าควรเมืองจริงหรือไม่?
ฉุดกงล้อ คือ องคาพยพรัฐ ให้หมุนพันรอบ-หมื่นรอบต่อนาที ดันสังคมชาติที่จมหล่มขึ้นไปชมวิวบนยอดดอย "ดังหวัง" ได้หรือไม่?
ก็ให้รู้กันไปคาบนี้แหละ!

ไม่มีความคิดเห็น: