PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เผลอเพี้ยนตามโพล?

เผลอเพี้ยนตามโพล?

“รักลุงตู่ รักลุงตู่ รักลุงตู่”

เสียงตะโกนลั่นรอบอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ประชาชนคนโคราชต้อนรับ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีเดินสายประชุม ครม.สัญจรที่บ้านเกิด จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 21–22 สิงหาคม

บรรยากาศคึกคักตามท้องเรื่อง กระตุกอารมณ์ “นายกฯลุงตู่” ตอบกลับเสียงเชียร์ชาวบ้าน “คนอีสานน่ารักอยู่แล้ว เดี๋ยวผมจะทำงานให้ไม่ต้องห่วง”

ตามฉากปูพรมเต็มพื้นที่ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ภาคเอกชน

เข้าโหมดลุยงาน โชว์ความคืบหน้าเนื้องานตามนโยบายรัฐบาล

และโดยสถานการณ์ต่อเนื่อง ครม.สัญจรรอบนี้เป็นข่าวดังตั้งแต่ทีมงาน “นายกฯลุงตู่” ยังไม่ทันลงพื้นที่ ตามฉากที่นายกฯออกอาการเชิดใส่สื่อมวลชน ไม่ต้องมาสนใจตามทำข่าว

ไม่จำเป็นต้องอาศัยสื่อตีปี๊บ เพราะยี่ห้อนี้ยิ่งตียิ่งดัง

เป็นอารมณ์ตกค้างมาจากยุทธการขอความร่วมมือสไตล์ทหาร ที่ “เสธ.ไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ควบเก้าอี้รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เรียกประชุมบรรณาธิการข่าวสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง

ขอร้องเสียงเข้มๆให้ทีวีช่องต่างๆแยกกันติดตามทำข่าวการปฏิบัติภารกิจ

ของรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆในการประชุม ครม.สัญจรที่โคราช

ออกแนวเรียลลิตี้ “1 ช่อง 1 รัฐมนตรี”

นั่นก็ทำให้เจอปฏิกิริยาต่อต้านจากวงการสื่อยืนยันการทำหน้าที่เพื่อสาธารณะ

ไม่ใช่กระบอกเสียงของรัฐบาล ล้อไปกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมที่มองสไตล์ถนัด
ของทหาร เอะอะก็เน้นการสื่อสารทางเดียว ยัดเยียดข้อมูลให้ชาวบ้าน

ขาดความรู้ ความเข้าใจในธรรมชาติของงานทางการเมือง

เรื่องของเรื่อง มันสะท้อนภาวะ “หลงทิศทางกระแส” ของทีมงานรัฐบาลทหาร คสช.

คิดว่าการ “เสกข่าว” เข้าทางตัวเองเป็นของง่าย การทำให้สังคมชื่นชมผลงานรัฐบาลสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้เหมือนทหารเกณฑ์ในค่าย

นั่นไม่เท่ากับเผลอหลงว่าเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือซะเอง

และยิ่งเป็นอะไรที่ล้อไปกับข้อมูลแวดล้อมรัฐบาลที่ออกแนวเป็นอกเป็นใจ ตอกย้ำ
ต้นทุนส่วนตัวของผู้นำในเชิงบวกเข้าไปอีก

แบบที่ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “3 ปี ของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์”

อันดับหนึ่งร้อยละ 30.16 ระบุว่า “นายกฯลุงตู่” ทำงานในตำแหน่งนายกฯได้ดีมาก
แถมส่วนใหญ่ ร้อยละ 73.68 ยังเห็นว่า “นายกฯลุงตู่” มีประสิทธิภาพในการทำงานแก้ไขปัญหาของประเทศ และมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในการทำงาน

ท่ามกลางเสียงทักย้อนแย้ง ผลโพลสวนกับสถานการณ์แท้จริง

ตัวเลขมันผิดธรรมชาติ

แทนที่จะเป็นผลดี ตรงกันข้ามจะเสี่ยงทำให้ผู้นำรัฐบาลไขว้เขว

เพราะตัวเลขที่เพี้ยนๆจะพากันเพี้ยนไปหมด

ทำให้การตัดสินใจของผู้นำไม่ได้ยืนอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง

และจุดอันตรายยิ่งไปกว่านั้น ตามท้องเรื่องที่นักการเมืองคุยกันในหลายๆวง ว่ากันว่าวันนี้ไม่ใช่แค่ประเด็นของ “โพลเชลียร์” อย่างเดียว

แต่เป็นปรากฏการณ์ที่ชาวบ้านไม่บอกความจริงตรงๆก็เยอะ

โดยพัฒนาการของประชาชนมาถึงจุดที่กล้าหลอกการสำรวจโพลของสำนักต่างๆ หรือแม้แต่โพลของหน่วยความมั่นคงไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ มหาดไทย จะเจอเหมือนกัน

คนตอบแบบให้พ้นๆไป เพราะอยากให้การเมืองเปลี่ยนแปลง

ตามรูปการณ์ถ้ารัฐบาลทหาร คสช.ย่ามใจกับตัวเลขหรูๆ

ในโพล หรือล่าสุดที่ “นายกฯลุงตู่” แย็บถามคนโคราชจะเลือกใครเข้ามาเป็นรัฐบาล ชาวบ้านพากันตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์

จุดที่ยิ่งทำให้ตัวลอย กระหยิ่มยิ้มย่อง

ลองปล่อยไฟเขียวเลือกตั้งเมื่อไหร่

จะได้ยินเสียงหัวเราะดังๆมาจากเมืองดูไบ.


ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: