PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560

‘มาร์ค’ เตือน เมื่อประเทศเข้าสู่เลือกตั้ง การฝืนคนส่วนใหญ่เป็นเรื่องอันตราย

‘มาร์ค’ เตือน เมื่อประเทศเข้าสู่เลือกตั้ง การฝืนคนส่วนใหญ่เป็นเรื่องอันตราย



-
“มาร์ค” ชี้ “บิ๊กตู่” ลงสมัคร ส.ส.ไม่ได้ เว้นแต่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อเป็นนายกฯคนนอก ระบุ หลายฝ่ายกังวงปมยุทธศาสตร์ชาติ ย้ำ ประเทศต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า ยอมรับว่าหลายคนก็กังวลใจกรณีที่ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (กปปส.) ออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้ปิดทางที่จะจัดตั้งพรรคการเมือง ซึ่งที่ตนพูดไปก็ได้ฟังจากคำสัมภาษณ์ของนายสุเทพ ทั้งนี้ ก็เป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะคิดแบบนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาของวิถีทางทางการเมือง ตอนนี้สมาชิก กปปส.ทุกคนที่กลับเข้ามาพรรคปชป. เขาก็แสดงความจำนงค์ว่าต้องการจะอยู่กับพรรค และยังทำงานได้อย่างเรียบร้อย ไม่ได้มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม นายสุเทพและกลุ่ม กปปส.ได้แสดงจุดยืนให้หนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ หลังจากการเลือกตั้ง ตรงนี้ตนมองว่าแต่ละคนมีจุดยืนได้ สำหรับพรรค ปชป.ก็มีจุดยืนในเรื่องของทิศทางประเทศเป็นสำคัญ และก็จะทำชุดนโยบาย ตอบโจทย์ปัญหาของประชาชน ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งการจะทำก็ต้องมีการเลือกตั้งก่อน

เมื่อถามว่า ทิศทางการนำประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นความต้องการของประชาชนจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมีบทบาท มีส่วนร่วมในกระบวนการการเลือกตั้งอย่างไร เพราะว่าพล.อ.ประยุทธ์ สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้ ตนก็ไม่ทราบว่าท่านจะยินยอมให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ที่ผ่านมาตนเรียกร้องมาโดยตลอดว่าจะให้ ส.ส.รวบรวมเสียงข้างมาก เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะว่าเราต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนที่เลือก ส.ส.เข้ามา

เมื่อถามถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์บทความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณียุทธศาสตร์ชาติ จากยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศถึง อาจจะทำให้เกิด “คณะโปลิตบูโร” ขึ้นได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็มีความกังวลในเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปแต่ว่า เราก็ยังไม่เห็นเนื้อหาสาระการทำงานของคนกลุ่มนี้ ตนมองว่ารัฐบาลที่เข้ามาทำงานถ้ามีเหตุผลที่ชัดเจนว่า นำพาทิศทางประเทศไปทางไหน ก็จะต้องใช้เวลาและสามารถทำให้ผู้ที่ทำงานในด้านที่เกี่ยวข้องนั้นเห็นความจำเป็นและยอมรับในทิศทางที่วางไว้ได้ ซึ่งนี่เป็นขั้นตอนยุ่งยากขึ้นมาอีก แต่ตนเชื่อว่าคงไม่เกินกำลังของผู้ที่เข้ามาบริหารจัดการที่จะเข้ามาดูแลตรงนี้
“ผมขอย้ำว่าเมื่อประเทศเข้าสู่การเลือกตั้ง การไปฝืนความต้องการของคนส่วนใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เรามองเฉพาะในแง่ของตัวบทกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องมองเจตนารมณ์ของคนส่วนใหญ่ของประเทศด้วย ส่วนคนส่วนใหญ่มองอย่างไรนั้น เขาจะให้คำตอบตอนการเลือกตั้ง เราจะไปสันนิษฐานเอาเองนั้นไม่ได้ ผมถึงบอกว่า การออกมาพูดว่าจะจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเป็นแบบนั้น แบบนี้ ให้คนนั้นเป็นนั้น คนนี้เป็นนี้ มันเหมือนกับไม่ให้เกียรติประชาชน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าว่าเป็นการยากที่จะมาเจาะจงว่าจะไปเลือกตั้งเดือนไหน เพราะมีขั้นตอนที่มีความยืดหยุ่นอยู่ แต่ตนก็ต้องเรียกร้องไปยังผู้มีอำนาจว่า ขอให้เขาเดินตามโรดแมป ทำกฎหมายให้เรียบร้อย เพื่อเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้ง การที่เราไปคาดคั้นจะทำให้เกิดความขัดแย้งกัน ตนไม่อยากจะเห็นความหวาดระแวงว่ามีความจงใจที่จะไม่ผ่านกฎหมายเพื่อยืดเวลาออกไป ถ้าทำแบบนั้นถือว่าไม่เป็นผลดี ตนเห็นว่าทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แสดงความชัดเจนออกมาแล้วว่าต้องการที่ให้ผ่านพ้นช่วงของงานพระราชพิธีไปก่อน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการผ่อนคลายให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมที่ไม่ไปกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง ไม่มีการปลุกระดมมวลชน คสช.ก็น่าจะเปิดโอกาสให้ทำได้เพื่อให้พรรคการเมืองได้ปรับปรุงองค์กร เดินหน้าไปตามเจตนาของกฎหมาย

ไม่มีความคิดเห็น: