PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2560

เข้าจุดต้องชั่งน้ำหนัก

เข้าจุดต้องชั่งน้ำหนัก

“อยู่ดูไบ”

และแล้ว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ก็เอ่ยปากเฉลยแหล่งกบดานของ “อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาคดีจำนำข้าว

จำคุกอดีตนายกฯหญิง 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา

ไม่ได้ใช้ “สายลับ” ใดๆ แต่คิวนี้ “เชอร์ล็อกตู่” บอกสืบง่าย จากข้อมูลที่รายงานจากกระทรวงการต่างประเทศ สอดคล้องกับรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ทั้งเอพี เอเอฟพี รอยเตอร์

และแน่นอน ในฐานะผู้นำประเทศ เจ้าหน้าที่ของรัฐ “บิ๊กตู่” ระบุถึงคิวด่วนลำดับถัดไป จะต้องตามตัวอดีตนายกฯกลับมาตามหมายจับ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเป็นขั้นตอน “มันยากตรงนี้แหละ”

รับกันดื้อๆ จับ “ยิ่งลักษณ์” ไม่หมู

และที่คืบหน้าไปอีกนิด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ที่เด้งรับการข่าวของผู้นำ แถมแสดงความมั่นใจ ถึงแม้ว่า “ยิ่งลักษณ์” จะเดินตามรอยพี่ชาย

เผ่นไปปักหลักอยู่ที่นครรัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย

“เขาจะไม่ยุ่งการเมือง-ประเทศที่เขาไปอยู่บอกมา”

รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงให้หน่วยงานประสานแล้ว เชื่อว่าไม่น่าจะมีแรงกระเพื่อมตามมา

นั่นก็เป็นปฏิกิริยาหลังรู้คำพิพากษา “จำคุกปู” ที่นอกจากฝ่ายผู้คุมอำนาจรัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามหมายจับ ตั้งแต่ประกาศสืบจับ ประสานตำรวจสากล สืบเสาะสืบจับ

เช่นเดียวกับที่กำลังเร่งเคลียร์ของร้อน สืบสวนสอบสวนกระบวนการหลบหนี

ทั้งสอบปากคำ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ คลายปมรถยนต์ เช็กดีเอ็นเอ ตรวจค้นบ้าน “ยิ่งลักษณ์” รวมทั้งคิวเพิกถอนหนังสือเดินทาง

งานเคลียร์คิว “ปูเผ่น” ทำเอา “งานงอก” ทั้ง สตช.และกระทรวงการต่างประเทศ

นั่นก็วุ่นไม่แพ้กัน คิวชำแหละข้อกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ที่จำเลยต้องยื่นภายใน 30 วัน มีเงื่อนไขระบุ “ยิ่งลักษณ์” ต้องมาแสดงตนต่อเจ้าพนักงานเอง

รวมทั้งประเด็นคดีจำนำข้าวของ “ยิ่งลักษณ์” มีอายุความ 10 ปี หรือไม่นับอายุความระหว่างหลบหนี

ห้วงคาบเกี่ยวรัฐธรรมนูญเก่า-ใหม่ ยังมีเงื่อนไข พ.ร.บ.หลายฉบับ ทั้งกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญา
กฎหมาย ป.ป.ช. และกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เพิ่งมีผลบังคับใช้
ต้องรอองค์กรที่เกี่ยวข้องชี้ชัดต่อไป

แต่สำหรับทิศทางบ้านเมืองเริ่มเข้าจังหวะฝ่ายคุมอำนาจรัฐ ได้เบาใจระดับหนึ่งเมื่อหมดเสี้ยนหนาม แรงเสียดทานจากขั้วนายใหญ่เบาลงชั่วคราว ส่วนป้อมค่ายการเมืองอื่นๆไม่มีอะไรกระทบ เพียงคอยจับสัญญาณขยับลงสนาม

ที่ปั่นป่วนจริงๆน่าจะอยู่ภายใน “เครือข่ายนายใหญ่”

จุดศูนย์กลางแห่งความวุ่นฝุ่นตลบที่มีมาตั้งแต่ “ยิ่งลักษณ์เผ่น” ยามที่พรรคเพื่อไทยและเครือข่าย
เหมือนไร้หัว ไม่มีตัวแทนนายห้างคอยคุมเกม

ชนิดที่ผ่านมา “ทักษิณ” ต้องแสดงตัวแสดงตนผ่านโซเชีียลมีเดีย นอกจากปรามขู่เกมรุกไล่
อีกทางก็ได้กระตุกลูกข่าย ยังฮึดได้ ไม่ถึงจุด “แพแตก”

และอีกไม่นาน ไม่ “ทักษิณ” ก็ “ยิ่งลักษณ์” คงต้องโผล่ประคองสถานการณ์ และแรงหวั่นไหวของลูกทัพอีกแน่

กระนั้นก็ดี ในจังหวะเกมที่ต้องถอยสุดกู่ ที่ไม่รู้สุดว่าไล่กันสุดทางสุดเกมแล้วหรือยัง กับคิวที่ ปปง.ส่งเรื่องให้ดีเอสไอ

ดำเนินคดีฟอกเงินเกี่ยวโยงกับ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนนายใหญ่

“ไข่จงอาง” จ่อโดนทุบ

จนล่าสุดต้องส่งทีมกฎหมายไปยื่นหนังสือ ยื้อจังหวะเร่งดีเอสไอ

ถึงห้วง “ทักษิณ” ต้องคิดหนัก จะยอมศิโรราบ แล้วลุ้นสัญญาณเยียวยา หรือหาช่องพลิกเกมสู้อีกครั้ง
กับจุดเสี่ยงสุดในชีวิต เพราะอาจเป็นเดิมพันทั้ง “ตระกูลชินฯ”.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: