PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

ดวงชะตานักการเมืองบนกำมือ“หมออีที” : แค่ฝันตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

ดวงชะตานักการเมืองบนกำมือ“หมออีที” : แค่ฝันตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

หมอดูพม่ากับการเมืองไทย หลังสิ้น “ส่วย ส่วย วิน” หรือ “หมอดูอีที” ชาวเมียนมา ซึ่งเกี่ยวโยงกับนักการเมืองไทยมาเป็นระยะ ทีมข่าวการเมือง ขอเริ่มต้นตั้งแต่สมัย “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก้าวขึ้นเป็นใหญ่ในกองทัพ ก็เดินทางไปเยือนเมียนมาพบผู้นำเบอร์หนึ่ง เจรจาถูกคอก็แนะนำให้ไปตรวจชะตาราศีหมอดูชื่อดังในเมืองย่างกุ้ง

ตรวจดวงแม่นเหมือนจับวาง ชะตาชีวิตพลิกผันจากนายทหารเป็นนักการเมืองเต็มตัว นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ แม่นถึงขนาดบอกถึงเส้นทางชีวิตว่าจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากนั้นไม่นานเป็นที่ร่ำลือในกองทัพ นับจากนั้นถนนทุกสายก็วิ่งเข้าสู่ย่างกุ้ง เพื่อตรวจดวงชะตากับหมอดูชื่อดัง

ด้วยเพราะความแม่นและศรัทธา ในยุคพรรคไทยรักไทย ส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงสนามสู้ศึกเป็นครั้งแรก
ระดับแกนนำของพรรคบางคนขอให้ “หมออีที” ทำนายรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ แล้วทำเครื่องหมายหน้าชื่อบุคคลที่จะสอบได้และสอบตก

ผลที่ออกมาปรากฏได้ทะลุเกิน 240 คน ในจำนวนนี้มีผู้สมัคร ส.ส.ที่มีชื่อเสียงถูกกาให้ตก และคนที่โนเนมประเภท “นกแล” กลับสอบได้เป็นทิวแถว วันเลือกตั้งจริงมาถึง ผลคะแนนออกมาตามนั้นเกือบทั้งหมด กวาด ส.ส.มาได้ 247 คน จากจำนวน ส.ส. 500 คน เล่นเอาแกนนำคนดังกล่าวถึงกับอ้าปากค้าง

เช่นเดียวกันในปี 49 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ก็ไปเช็กดวงชะตาครั้งสุดท้ายก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดย “หมออีที” ระบุว่าจะไม่ได้กลับประเทศไทยอีก

สุดท้ายเป็นจริงตามคำทำนาย รัฐบาลทักษิณถูกกองทัพปฏิวัติ

แม้แต่บิ๊กเนมใน คสช.บางคนสมัยเป็นนายพลยังเคยไปดู และอดีต ผบ.ทบ.บางคนก็ไปดูก่อนได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ. เป็นไปตามคำทำนายเหมือนหยั่งรู้อนาคตได้

ขณะที่ในยุคนี้มีทั้งบุคคลในวงการเมืองมีแง่มุมสะท้อนถึง “หมออีที” และความน่าจะเป็นของการตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ”

เริ่มจาก นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า “หมอดูอีที” กับนักการเมืองไทยมีมานานมากแล้ว ได้ยินเสียงร่ำลือว่าดูแม่นมาก เชื่อว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แวดวงนักการเมืองและทหารไปดูที่พม่าหรือเชิญ “หมออีที” มาดูที่บ้าน

เมื่อเจอหน้าครั้งแรกเรายังไม่ได้พูดอะไรเลย ก็รู้สึกทึ่งตั้งแต่ทายหมายเลขแบงก์ในกระเป๋าสตางค์เรา รวมถึงคณะที่ไปด้วยกัน ปรากฏว่าตรงเป๊ะ จากนั้นหมอดูก็เขียนชื่อ นามสกุล จังหวัดภูมิลำเนาที่เกิด วัน เดือน ปีเกิด ทำนายถูกหมด ไม่ทราบว่ารู้ได้อย่างไร ทั้งที่ไม่ได้ถามเราเลย

การทำนายทางการเมืองก็บอกเพียงว่าอยู่ในวงการนี้มานาน เพราะเราไม่ได้ถามในเรื่องของตำแหน่ง แต่คณะที่ไปด้วยในช่วงเดือน ก.ค.59 ในจำนวนนี้ได้ถามถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “หมออีที” เขียนมาว่าจะได้เป็นนายกฯรอบสอง ดูสถานการณ์การเมืองวันนี้มันยากมาก แต่เวลากำลังรอพิสูจน์เรื่องนี้อยู่

ดูแล้วมีโอกาสแค่ไหนจะเกิดรัฐบาลแห่งชาติตามที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เสนอ เรื่องนี้ไม่ต้องให้หมอดูทำนาย แต่ขอให้นักการเมืองรุ่นใหญ่อย่าง นายถวิลทำนายว่า ส่วนตัวเห็นว่าไม่น่าจะเป็นไปได้

แค่เป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือมีพรรคหลักแล้วทาบพรรคอื่นมาร่วมเป็นรัฐบาลก็ยังวุ่นวาย เพราะมีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีดูแลกระทรวงต่างๆ เสถียรภาพของรัฐบาลไม่ค่อยมี

ยิ่งในยุคนี้ถ้าจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ อีกสมัย
พรรคประชาธิปัตย์คุยในสภากาแฟ ส่วนตัวเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าไปร่วมด้วยแน่ หัวหน้าพรรคก็พูดชัดเจนว่า เป็นไปไม่ได้ ถ้าถูกเชิญเข้าร่วมรัฐบาล จะต้องดูนโยบายก่อนว่าสอดคล้องกันหรือไม่ มันยากพอสมควร

และ พล.อ.ประยุทธ์ควรจะถามตรงไปเลยว่าเลือกพรรคเพื่อไทยมาร่วมเป็นรัฐบาลด้วยหรือไม่

เชื่อว่าทุกพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ไม่มีทางเกิดขึ้นในประเทศไทย

ขณะที่ “เสธ.อู้” พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช รองประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน บอกว่า เริ่มสัมผัส “อาจารย์อีที” ปี49 มีวิถีชีวิตอยู่ในห้องสวดมนต์ตลอดวัน เป็นคนที่ทำบุญมากที่สุดคนหนึ่งในพม่า และมี 3 เรื่องห้ามถาม คือ การเมืองในพม่า การพนันและของหาย

ช่วงแรกๆไปบ่อย ช่วงหลังนัดยากมาก ไป 2 ปีครั้ง การทำนายใช้พลังญาณทิพย์เพ่ง สามารถมองเห็นจิตใจของเราได้ แล้วเขียนเป็นภาษาอังกฤษตัวโตๆ และมีพี่สาวช่วยอธิบายให้

เริ่มจากทายเลขแบงก์ในกระเป๋าสตางค์ ซึ่งจะทำกับทุกคน ถูกร้อยละ 99 ที่ผิดอาจจะเกิดจากแบงก์พับ
ผมพาคนไปดูครั้งละ 5-6 คน แต่ละวันดู 5 คน ประมาณ 3 ชั่วโมง เวลา 08.30-11.00 น. แค่นั้น จะเขียนลงในกระดาษหน้าละ 7-8 บรรทัด ประมาณ 4-5 หน้าต่อครั้ง ก่อนเปิดให้ถาม ถามปุ๊บท่านก็เขียนเลย แต่ส่วนใหญ่แค่เราอ้าปากจะถาม ท่านก็เขียนแล้ว นี่แหละที่เขาเรียกว่าญาณวิเศษ รู้หมดว่าใครชอบเรา เกลียดเรา ก็เตือนให้ระวัง

ในสมัยก่อนเป็น ส.ว. ท่านก็ทำนายว่าจะได้รับตำแหน่งทางการเมือง สุดท้ายก็เป็นไปตามนั้น

วันนี้เกิดคำถามว่าจะมีรัฐบาลแห่งชาติเกิดขึ้น มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้เกิดขึ้นได้บ้าง ในฐานะที่ยังอยู่วงในแม่น้ำ 5 สาย พล.อ.เลิศ-รัตน์ บอกว่า รัฐบาลแห่งชาติจะไม่มีฝ่ายค้าน ไม่ได้กำหนดว่ารัฐบาลจะมี ส.ส.กี่คน ถ้ามี 500 คนก็ร่วมกันเป็นรัฐบาลแห่งชาติ

ทั้งหมดจะเกิดขึ้นเมื่อเลือกตั้งใหญ่เสร็จ หัวหน้าพรรคต่างๆตกลงกันว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้จะมาร่วมกัน กำหนดตัวนายกรัฐมนตรี แบ่งโควตาว่าพรรคไหนคุมกระทรวงไหน ทำงานร่วมกัน 4 ปี นี่เป็นรัฐบาลแห่งชาติภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลแห่งชาตินอกรัฐธรรมนูญจะเป็นอีกแบบ โดยจะต้องฉีกรัฐธรรมนูญ

สุดท้ายไม่เชื่อว่าจะเกิดรัฐบาลแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญ

แต่รายนี้ นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย ซึ่งเป็นพรรคเกิดใหม่ บอกว่า การดูดวงเป็นความเชื่อและศรัทธาของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักการ เมือง ทราบว่ามีบุคคลในแวดวงการเมืองไปพบดูดวงชะตากับ “หมออีที” ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง ทำนายแม่นเหมือนตาเห็น

หมอดูในประเทศไทยก็มี บังเอิญบางรายชอบเรื่องการเมือง ทำนายอ่านสถานการณ์การเมืองถูก ก็เลยกล่าวขานกันว่าทำนายแม่น

แต่ที่แม่นต้องเป็นหมอดูที่ศึกษาจากตำราโหราศาสตร์โบราณ ซึ่งเป็นโหราจารย์อยู่ที่สำนักพระราชวัง หรือโหรประจำสำนักพระราชวัง ดูดวงประเทศ วางเวลา วางฤกษ์ ดูฤกษ์แล้วก็ต้องดูยาม เรียกว่าจับยามสามตา

เราทุกคนก็เป็นหมอดูได้เหมือนกัน เพราะหมอดูมันคู่กับหมอเดา เป็นการคาดการณ์จากประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว เปรียบปัจจุบันและเทียบไปข้างหน้า

รวมถึงกองทัพเวลาออกทัพจับศึก จะต้องดูฤกษ์ดูยามก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและปลุกจิตปลุกใจ
ขอกลับไปดูมุมมองรัฐบาลแห่งชาติที่ถูกจุดพลุขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องนี้ นายอุเทน วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันคนไทยไร้ซึ่งความสามัคคีไม่ใช่เป็นคนที่กล้าหาญ ไม่กล้าพูดในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่กล้าทำ แต่เราเก่งเอาตัวรอด

ส่วนใหญ่ช่างคิดช่างพูด แต่ไม่ปฏิบัติ การรับฟังต่ำ นี่คือปัญหาของคนไทย

ฉะนั้นพรรคการเมืองต่างจะรวมตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

ขอใช้คำว่าฝันกลางวัน.

ไม่มีความคิดเห็น: