คสช.ยืนกรานไม่ปลดล็อคคำสั่งให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้
แม้จะมีเสียงเรียกร้องดังถี่ หลังพรป.พรรคการเมืองมีผล
หลังจากที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองปี2560ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่เมื่อวันที่8ตค. เริ่มมีท่าทีจากนักการเมือง และ
พรรคการเมืองอีกครั้งที่จะให้คสช.ทำการปลดล็อกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ฉบับที่57/2557คือห้ามมิให้พรรคการเมืองที่มีอยู่ดำเนินการประชุม
หรือดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
และการดำเนินการเพื่อการจัดตั้งหรือจดทะเบียนพรรคการเมืองให้ระงับไว้เป็นการชั่วคราว
รวมทั้งให้ระงับการจัดสรรเงินสนับสนุนแก่พรรคการเมืองของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองไว้เป็นการชั่วคราว
คำสั่งดังกล่าวมีมาตั้งแต่คสช.ได้เข้ามายึดอำนาจ และ บริหารประเทศ
ที่ผ่านมามีเสียงเรียกร้องจากพรรคการเมืองต่างๆหลายต่อหลายครั้ง
และในวันนี้ถือเป็นการเรียกร้องอีกครั้งหนึ่งของบรรดาพรรคการเมืองโดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญหลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองประกาศใช้
แต่ดูเหมือนท่าทีความเคลื่อนไหวของนักการเมือง พรรคการเมือง
จะไม่ได้ทำให้รัฐบาลและคสช. ยี่หระปลดล็อคให้ตามเสียงเรียกร้อง
พล.อ ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
กล่าวยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมือง
เพราะการจัดทำกฎหมายลูกยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่สามารถปลดล็อกให้ได้
และยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อใด เพราะยังมีเวลาอีกปีกว่า
ขณะที่ซุปเปอร์โพล ไปสอบถามความเห็นของประชาชน
ว่า
คิดว่าระยะเวลาใดที่รัฐบาลควรอนุญาติให้พรรคการเมืองและนักการเมืองออกมาเคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ปรากฎว่า ร้อยละ44.5 ระบุว่า มากกว่า1ปีขึ้นไป หรือ
ช่วงก่อนเลือกตั้ง ซึ่งย่อมหมายความว่า ประชาชนยังคงต้องการให้พรรคการเมือง และ
นักการเมืองยุติบทบาทไปอีกสักระยะ คืออีก1ปี
ขณะที่ก่อนหน้านี้พล.อ ประยุทธ์ จันทรโอชา
นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช.เคยกล่าวให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่10สค.ที่ผ่านมาว่า ขออย่าวุ่นวายให้มาก
ยังไม่ถึงเวลาที่จะปลดล็อคพรรคการเมืองให้จนกว่าจะผ่านพ้นพระราชพิธีสำคัญไปก่อน
จากท่าทีทั้งหมดที่กล่าวมา
อาจสรุปได้ว่าการปลดล็อกคำสั่งคสช.ตามเสียงเรียกร้องที่แม้จะมีมาหลายต่อหลายครั้ง
ไม่ได้ทำให้คสช.สะดุ้งสะเทือน
และจะยังคงเดินหน้าคุมความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่อไปอีกยาว
หรือปีหน้าโน่น...จึงค่อยกลับมาตามดูในประเด็นนี้อีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น