PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เสียงสะท้อนพระสังฆาธิการ-นักวิชาการ ปมคำสั่ง ‘มหาเถร’ จัดระเบียบสงฆ์-พุทธพาณิชย์

เสียงสะท้อนพระสังฆาธิการ-นักวิชาการ ปมคำสั่ง ‘มหาเถร’ จัดระเบียบสงฆ์-พุทธพาณิชย์


หมายเหตุ – ความเห็นพระสังฆาธิการและนักวิชาการ กรณีมหาเถรสมาคม (มส.) มีคำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ที่ 1/2560ลงวันที่ 28 กันยายน ให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง ทั้งในเรื่องวัตรปฏิบัติและการจำกัดพื้นที่จำหน่ายวัตถุมงคลต่างๆ


พระเทพวินยากรณ์

พระเทพวินยากรณ์

เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
รองเจ้าคณะภาค 16-17-18 (ธรรมยุต)
อาตมายังไม่เห็นจดหมายฉบับดังกล่าว แต่เมื่อ มส.ออกมาแบบนั้น เท่ากับเป็นการขีดกรอบให้พระสงฆ์พึงระมัดระวังการปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ที่พึงกระทำ ความจริงกฎหมายมีอยู่แล้ว แต่ไม่ปฏิบัติ ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น แต่เป็นเพียงส่วนน้อย ถามว่าอึดอัดใจหรือไม่กับเรื่องนี้ คงไม่ลำบากอะไร หากสงฆ์ปฏิบัติตามกฎก็อยู่กันตามปกติ
กรณีห้ามขายวัตถุมงคลในวัด จะทำให้ทางวัดขาดรายได้เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัดหรือไม่นั้น ความจริงไม่ได้ห้ามขาย แต่ห้ามจำหน่ายภายในอุโบสถ แต่ภายนอกยังจำหน่ายได้ ควรทำแต่พองาม อย่ามากเกิน พุทธพาณิชย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้มีมากเกินไป อ้างสรรพคุณมากมาย โฆษณาเกินจริง ความจริงแล้ว มส.ไม่ได้ห้ามสร้าง แต่ห้ามโฆษณา ถามว่าจะกระทบต่อวัดเรื่องการจำหน่ายหรือไม่ ก็กระทบบ้าง เพราะพระไม่มีรายได้อะไร แต่ในวัดมีค่าใช้จ่าย ต้องพึ่งพาตนเองบ้างจากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา แต่โดยภาพรวมแล้วเห็นว่าดีมากกว่าเสีย ถือเป็นทางออกที่ดีสำหรับสงฆ์ด้วย


พระราชโพธิวรคุณ

พระราชโพธิวรคุณ

เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง จ.เชียงใหม่
เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด
เห็นด้วยกับคำสั่งเจ้าคณะปกครองสงฆ์ ยินดีสนองแนวทางดังกล่าว โดยเฉพาะไม่จำหน่ายวัตถุมงคลภายในโบสถ์และพระวิหาร ไม่ขึ้นป้ายทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล แต่มีข้อควรคิดว่าวัตถุมงคลบางอย่างควรห้าม เพราะไม่เหมาะสมกับชาวพุทธ เช่น พระพุทธรูปไปแปลงเป็นพระพุทธนวโกฏ มีเศียร 9 เศียร ทำให้ผิดไปจากพุทธลักษณะ บางรายไปทำกุมารทอง เงาะ ชูชก ผ้ายันต์ หรือเครื่องรางของขลัง ไม่อยากให้มอมเมาประชาชนเกินไป
ส่วนการสร้างพระพุทธรูปประดิษฐ์สถาน หรือพระเครื่อง ไม่ควรห้าม เพราะพระเป็นที่พึ่งของพุทธศาสนิกชนด้านจิตใจ แต่ควรอยู่ในความเหมาะสม อย่าเกินเลยไป สร้างพอดีๆ สร้างขึ้นมาเพื่อเจริญพุทธมนต์ ไม่ต้องทำพิธีปลุกเสกอะไร เพียงอัญเชิญพุทธคุณสถิตในพระพุทธรูป หรือพระเครื่องเหล่านั้น เพื่อมอบเป็นของสมนาคุณและพุทธานุสติ อาตมาคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนการห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลภายในโบสถ์ พระวิหาร ถือเป็นเรื่องถูกต้อง เพราะเป็นสถานที่สักการะ กราบไหว้บูชา ปฏิบัติธรรม และเผยแผ่คำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ไม่ใช่สถานที่มอมเมาพุทธศาสนิกชน
อยากให้เข้าถึงพุทธธรรม ไม่ใช่เป็นการปฏิรูป แต่เป็นการพัฒนาใหม่ อาทิ หลักสูตรคำสอน ปัจจุบันเน้นสอนบาลีอย่างเดียว ควรประยุกต์คำสอนปัจจุบัน โดยเฉพาะภาษาอังกฤษให้พระสงฆ์ สามเณรเรียนบาลีควบคู่ภาษาอังกฤษ ให้มีความรู้ทั้งทางโลก ทางธรรม และเห็นด้วยกับคำสั่งให้กวดขันพระภิกษุ สามเณร อยากให้พระสงฆ์ สามเณร มีสมาร์ทการ์ด อยากให้เลิกใช้ใบสุทธิ เพราะมีการปลอมแปลงขายกัน แม้แต่ตราเจ้าคณะอำเภอยังปลอมได้
อย่างไรก็ตาม กรณีการร่างกฎหมายควบคุมพระ ห้ามจับเงินทอง ไม่เห็นด้วย เพราะวัดมีค่าใช้จ่าย พัฒนาวัด ค่าคนงาน สร้างศาสนสถาน เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม หากมอบให้คณะกรรมการวัดดูแล บางครั้งก็ไม่ซื่อสัตย์ จึงไม่เห็นด้วยกับการให้คณะกรรมการหรือญาติโยมมาคุมวัด อยากให้พระสงฆ์บริหารจัดการกันเอง จัดระบบบริหารให้ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ ให้เป็นมาตรฐานทุกวัด และควรให้พระถือปัจจัยพอประมาณ ไม่อยากให้ใช้กฎหมายบังคับแบบสุดโต่งหรือหย่อนยานเกินไป ควรใช้กฎหมายแบบทางสายกลาง
รายได้ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่มอบแก่วัด ส่วนใหญ่เป็นค่าประจำตำแหน่ง ค่าน้ำ ค่าไฟ ตามระเบียบกฎหมายกำหนด ที่เหลือทางวัดต้องหารายได้เอง หากไม่ให้สร้าง และจำหน่ายวัตถุมงคล อาจมีผลกระทบต่อการบริหารจัดการและพัฒนาวัดได้ โดยเฉพาะวัดเล็กหรือวัดที่อยู่ห่างไกล ส่วนวัดหลวงหรือวัดขนาดใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะมีพุทธศาสนิกชนมาทำบุญ บริจาค ค่อนข้างมากอยู่แล้ว
โดยภาพรวมอำเภอดอยสะเก็ด วัดส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างวัตถุมงคล หรือเครื่องรางของขลังมากนัก ซึ่งได้ประชุมพระสังฆาธิการ และเจ้าอาวาสทุกวัดแล้ว ให้ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าคณะปกครองสงฆ์ ทำอะไรให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม อย่าทำอะไรตามใจตัวเองเกินไปนัก
เหตุว่า หนึ่ง มีกฎหมายควบคุม หรือตีกรอบพระสงฆ์อยู่ สอง อยู่ในกรอบของพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ สาม อยู่ในกรอบพระธรรมวินัย สี่ อยู่ในกรอบของสายตาประชาชน ดังนั้นต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสม เป็นพระสงฆ์ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเป็นพระดี มีคนเคารพ กราบไหว้ ถ้าเป็นพระไม่ดี ย่อมถูกโจมตีเช่นกัน อยากให้ช่วยกันสร้างภาพลักษณ์พระที่ดี เป็นพระนักปฏิบัติ หรือพระนักพัฒนา เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนตลอดกาล



พระราชสิทธิเมธี

พระราชสิทธิเมธี

เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร
กรณี มส.มีหนังสือถึงวัดแต่ละพื้นที่ งดพุทธพาณิชย์ ห้ามจำหน่ายพระเครื่อง ห้ามขึ้นป้ายโฆษณาพระเครื่อง คงต้องรอหนังสือจากพระผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการเพื่องดการปุกเสกพระเครื่อง เรื่องนี้อาตมาเห็นด้วย และมีกฎมานานแล้วแต่ไม่บังคับใช้จริงจัง อีกทั้งควรทำมานานแล้ว การออกกฎมาแบบนี้เป็นเรื่องดี เพราะเป็นการเตือนสติพระที่อยู่นอกรีตที่ชอบอวดอุตริ นอกจากนี้ ยังเป็นการห้ามบุคคลที่ชอบหากินกับวัดกับพระ มีการจำหน่ายวัตถุมงคลเต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม มส.ไม่ได้ห้ามว่าจำหน่ายวัตถุมงคล ไม่เช่นนั้นจะนำเงินตรงไหนมาพัฒนาวัด เพียงแต่ห้ามจำหน่ายในโบสถ์ ในวัด ขณะนี้ได้แจ้งไปยังทุกวัดกว่า 500 แห่ง ในจังหวัดพิจิตร ห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลในอุโบสถ์แล้ว
พร้อมขอความร่วมมือเอาป้ายลงหรือห้ามโฆษณา ซึ่งทุกวัดขานรับพร้อมให้ความร่วมมือ


พระครูปภัสสรวรพินิจ (หลวงพ่อไพโรจน์)

พระครูปภัสสรวรพินิจ (หลวงพ่อไพโรจน์)

เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ขณะนี้วัดห้วยมงคล ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ปกครองคณะสงฆ์อย่างเคร่งครัด และไม่มีผลกระทบกับการเช่าวัตถุมงคลเหรียญหลวงปู่ทวด เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมจากลูกศิษย์ทั่วประเทศ ทำให้ที่ผ่านมาวัดมีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท
จากนั้นนำไปมอบให้โรงพยาบาลหัวหินเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ และมอบให้องค์กรสาธารณกุศล การแจกวัตถุมงคลเนื่องในโอกาสสำคัญ รวมทั้งใช้งบประมาณในการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์รวมทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ อ.หัวหิน


ทวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์

ทวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์

กำนันตำบลกุดพิมาน
กรรมการวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
เดิมวัดบ้านไร่ให้เช่าบูชาวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณที่ใต้อุโบสถ เมื่อมีคำสั่ง มส.ก็ได้ปฏิบัติตามและนำวัตถุมงคลไปจัดไว้ในสถานที่ที่เหมาะสม ขณะนี้วัตถุมงคลของวัดบ้านไร่เหลือไม่มาก หลังจากหลวงพ่อคูณละสังขารไป วัดก็ไม่ได้จัดสร้างวัตถุมงคลอีกเลย
ผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าวต้องมีบ้าง ทางวัดต้องปรับลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าเดือนละเป็นแสนบาท เพราะรายได้ส่วนใหญ่มาจากแรงศรัทธาของประชาชน คำสั่งให้ยกเลิกในเรื่องต่างๆ นั้น วัดบ้านไร่ยังไม่ทราบว่าจะให้ยกเลิกตลอดไปหรือไม่ คงต้องรอคำสั่งที่ชัดเจนจากทางคณะสงฆ์ แต่ไม่ว่าคำสั่งจะออกมาเช่นไร วัดบ้านไร่พร้อมปฏิบัติตาม


อดิศร เนาวนนท์

อดิศร เนาวนนท์

คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
ข้อห้ามทั้งหมดน่าจะมาจาก 5 สาเหตุ คือ กรณีพระรูปหนึ่งที่ใช้ โซเชียลโจมตีศาสนาอื่น กรณีพระตุ๊ดพระแต๋วใช้โซเชียลในทางไม่เหมาะสมกับสมณเพศ พระที่ออกมาวิจารณ์การเมือง พระที่ประพฤติผิดเพศบรรพชิต เช่น ขายยาบ้าและเสพยาเสพติด และสุดท้ายคือ เรื่องพระและวัด เป็นพุทธพาณิชย์ โดยจุดแตกหักที่ทำให้ออกข้อห้ามเหล่านี้มา คือกรณีของรูปหนึ่งที่ถูกให้ลาสิกขา และเรื่องของพระพุทธพาณิชย์ ทั้งนี้ มหาเถรและรัฐบาล ต้องพิจารณาว่าการสั่งห้ามดังกล่าวจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ โดยเฉพาะการห้ามเล่นโซเชียล ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปมาก จะออกข้อห้ามเหมือนสมัยพุทธกาลคงเป็นไปได้ยาก เพราะพระจำนวนมากใช้โซเชียลในการสอนธรรมะ ซึ่งยุคนี้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด และพระบางแห่งบางพื้นที่มีความจำเป็นต้องขับรถเอง เป็นต้น มหาเถรควรคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกจะไปออกข้อห้ามทั้งหมดโดยไม่คำนึงบริบทอื่นๆ คงสำเร็จยาก
ทุกวันนี้เกือบทุกวัดมีการติดป้ายโฆษณาบอกบุญญาติโยม เช่น สร้างโบสถ์ ฝังลูกนิมิต สร้างพระพุทธรูป สร้างวัตถุมงคล กฐิน ผ้า หรืองานอื่นๆ มากมาย การไม่ห้ามวัดเรี่ยไรหรือเชิญชวนทำบุญ ห้ามมีป้ายโฆษณาจะทำได้หรือ มหาเถรจะไปตระเวนปลดป้ายวัดลงอย่างนั้นหรือ เมื่อห้ามแล้วจะติดตามตรวจสอบอย่างไร การออกข้อบังคับมาดูเหมือนดีแต่ในทางปฏิบัติทำได้ยาก มหาเถรและรัฐบาลควรพิจารณาปัญหาเรื่องของพระเป็นเรื่องๆ ไป สำคัญควรให้ความรู้แก่พระสงฆ์จะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า

ไม่มีความคิดเห็น: