PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560

"เอ็นจีโอ-รัฐบาล"ในเหตุการณ์ใต้

ยุคนี้ เป็นยุคไอที.......!
ฉะนั้น
ในการสัประยุทธ์กัน แต่ละฝ่าย ซึ่งต่างมี "อาวุธมหาประลัย" เพื่อการแพ้-ชนะอยู่ในกำมือ พอฟัด-พอเหวี่ยงกัน
ใครจะแพ้-จะชนะ จึงขึ้นอยู่กับว่า
ฝ่ายไหนจะออกอาวุธ "ชิงความเชื่อ" จากประชาชนไปได้มากกว่ากัน
อาวุธมหาประลัยที่ว่านั้น คือ เรื่องราว-ข่าว-ภาพ
ผ่านช่องทางสื่อสารต่างๆ ไม่ว่าเฟซบุ๊ก ไลน์ โทรทัศน์ดิจิทัล หนังสือพิมพ์ โซเชียลมีเดีย
อย่าง ๓-๔ วันมานี้ เกิด "สงครามประกอบฉาก" ขึ้นที่สงขลา ในช่วง "นายกฯ ประยุทธ์" ยก ครม.สัญจรใต้
คู่ศึก ก็ระหว่าง "เอ็นจีโอ" กับ "ตำรวจ-ทหาร"
เอ็นจีโอ คือกลุ่มต่อต้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จังหวัดสงขลา
กลุ่มนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด หากแต่เกิดพร้อมโครงการเกิดนั่นแหละ!
เขาทราบว่า นายกฯ ลงมาสงขลา
พวกเขาก็จะไปยื่นหนังสือคัดค้านโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพากับนายกฯ!
การจะเอาหนังสือไปยื่นซื่อๆ เหมือนอย่างชาวบ้านทั่วไปเขายื่น ดูจะด้อยมูลค่าทางข่าว
คือมันไม่กระแทกหู-กระแทกตาชาวบ้านน่ะ
ผิดทั้งวิสัย ผิดทั้งยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีทางมวลชนเพื่อเอาชนะรัฐ ของชนชั้นเอ็นจีโอเขา
ดังนั้น จึงมีรูปแบบแห่งพิธีกรรม แบกธง-แบกป้าย เดินเท้าตากแดด-ตาก ฝนข้ามวัน-ข้ามคืน ดรามาประกอบฉากข่าวไปเรื่อยๆ
กะให้พอดี.......
นายกฯ ลงไปถึงสงขลา ขบวนดรามาขาประจำ ก็ไปถึง!
การยื่นหนังสือนายกฯ นั้น ที่ไหน-เมื่อไหร่ก็ยื่นได้ และใช่ว่า ที่ผ่านมาในแต่ละรัฐบาลไม่มีการยื่นคัดค้าน
แต่ที่อุตส่าห์เดินย่ำเท้าเข้าฉากกันมาเป็นวันๆ ในหนนี้ เพราะเจตนาพิเศษมันมีอยู่ ในความเห็นผม
๑.ศรศิลป์มันไม่กินกับรัฐบาลทหารอยู่แล้ว และ
๒.รัฐบาลนี้ ถือดีในอำนาจ ยั่วให้ปะทะได้ง่าย จะได้ใช้เป็นเงื่อนไขเรียกแขกด้านสิทธิมนุษยชน
ก็ไม่ผิดจากที่เขาประเมิน...........
เมื่อตำรวจ-ทหารเข้าขัดขวาง ก็ "เข้าทาง" เอ็นจีโอเป๊ะเลย!
เขาต้องการภาพชุลมุนเชิงปะทะจากกำลังรัฐอยู่แล้ว
ต้องการให้เกิดประเด็นละเมิดสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เรื่องถึงยูเอ็นอยู่แล้ว
ต้องการให้เกิดภาพ-ทัศนคติ "ลบในลบ" กับรัฐบาลประยุทธ์อยู่แล้ว
และต้องการให้เกิดประเด็นขัดแย้งทางศาสนาผ่านตัวบุคคลผสมอยู่ด้วย
ดังนั้น .......
ภาพชุลมุนเชิงปะทะก็ดี การจับกุมตัวผู้ชุมนุมใส่กุญแจมือก็ดี การเคลื่อนย้ายผู้ถูกจับกุมไปควบคุมตัวไว้ก็ดี
กระทั่งภาพ
"ทหารชี้หน้า" ที่นำมาเบี่ยงเป็นทางขยี้ประเด็นกันจนแตกมันขณะนี้ก็ดี
แต่ละเหตุการณ์ แต่ละช็อต-ละฉาก...........
"ตำรวจ-ทหาร" กลายเป็น "ผู้ร้าย" ใช้อำนาจ-ใช้อาวุธ-ใช้กุญแจมือ กับกลุ่มเอ็นจีโอที่ต่อต้านโรงไฟฟ้าไปโดยไม่รู้ตัว
ที่ผมสรุปเล่ามาตั้งแต่ต้นนั้น ก็เพื่อจะบอกว่า
การสู้รบทางการบ้าน-การเมืองทุกวันนี้ เปลี่ยนรูปแบบอาวุธที่ใช้ห้ำหั่นกันในขั้นแพ้-ชนะ
จากอาวุธปืนผาหน้าไม้ มาเป็นใช้เรื่องราว-ข่าว-ภาพ ซัดสาดใส่กันผ่านทางสื่อ
โดยเฉพาะสื่อ "อินเทอร์เน็ต"!
ในกรณีนี้ เป็นตัวอย่างชัดมาก ติดตามนั่งดู-นอนดูมา ๒-๓ วัน ดูการสัประยุทธ์ ด้วยการ "ออกอาวุธ" แก้ทางกัน
ระหว่างฝ่ายเอ็นจีโอกับฝ่ายรัฐบาล เรียกว่า....
......มันมาก!
รัฐบาล โดยตำรวจ-ทหาร เป็นฝ่าย "เข้าร่องแข้ง" เอ็นจีโอเอง คือรู้ทั้งรู้ว่า แผนของขบวนการนี้ ต้องการต่อยอดไปสู่อะไร
หลังจาก "มุกแป้ก" มาเป็นปีๆ!
แต่ฝ่ายตำรวจ-ทหาร กลับไปต่อแข้ง-ต่อขาในสถานการณ์ให้เอ็นจีโอดูมีราคาขึ้นมาเอง
ก็เพิ่งเห็นที่ครั้งนี้แหละ ........
คนถูกจับดีอก-ดีใจ เซลฟีกันยกใหญ่ เมื่อได้เป็นคู่กรณีกับรัฐในฐานะ "ผู้ถูกกระทำ"
ชูมือ-ชูแขน ที่ถูกใส่กุญแจมือให้ช่างภาพ-ช่างกล้องถ่ายรูป ด้วยหน้าเบิกบาน สายตาสมหวัง
เพราะทั้งหมด ก็เพื่อสิ่งนี้แหละ..........
เพื่อได้ตะโกนว่า รัฐบาลเผด็จการปราบปรามประชาชน ไม่ฟังเสียงประชาชน ย่ำยีสิทธิมนุษยชน ใช้อำนาจกับประชาชน
และ.....
"ชี้หน้าประชาชน"!
เหล่านี้ คืออาวุธที่ฝ่ายเอ็นจีโอยิงถล่มใส่รัฐบาลเผด็จการให้ปรากฏผ่านโซเชียลมีเดีย ผ่านโทรทัศน์ ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์
พวกเอ็นจีโอ "รู้ทาง" ดี ว่ายั่วให้ถูกจับ "คุ้มเกินคุ้ม" ทางด้านจิตวิทยามวลชน สุดท้าย ฝ่ายรัฐก็ต้องปล่อย ต้องให้ประกัน
ก็เล่นเอารัฐบาล คสช.เอียงวูบวาบไปเหมือนกัน
ถึงขั้นพูดกันว่า.........
นายกฯ ประยุทธ์ลงใต้เที่ยวนี้ คะแนนนิยมตกหกหายไปเกือบเกลี้ยง
เนื่องจาก ดรามา "เอ็นจีโอถูกกระทำ" เรียกน้ำตาและความเห็นใจจากแฟนๆ ที่ซื่อ-ใส ได้พอสมควร
รวมทั้งเรื่องนายกฯ "ตะคอกใส่คน" ชาวบ้าน-ชาวเมือง พูดกันด้วยความอิดหนาระอาใจ กับ "นายกฯ เจ้าอารมณ์" ว่า
"ชักเยอะ" ไปหน่อยแล้วนะ...ท่าน!
นี่เป็นกระบวนการรบทางฝ่ายเอ็นจีโอ ผู้ต่อต้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
มาดูกระบวนยุทธ์ "ยุทธการทางสื่อ" ของทีมงานฝ่ายรัฐบาลในการตีโต้สถานการณ์บ้าง
ผมว่า เดี๋ยวนี้ "ยุทธการทางสื่อ" ของทีมงานรัฐ ทำงาน "ทันลูก-ทันเล่ห์" ฝ่ายตรงข้ามได้ชนิด "ดอกต่อดอก" เข้าขั้นเอาการอยู่
เรียกว่า "ภาพไหน" ที่อีกฝ่าย...........
เลือกนำเผยแพร่ ด้วยการตัดต่อบ้าง เลือกมุมกล้องในทางเบี่ยงเบนความเป็นจริง หวังใช้ ๑ ภาพ แทน ๑๐๐คำพูด "ฟ้องการกระทำจากรัฐ" บ้าง
ทีมงานรัฐ ที่ตามประกบ "เก็บภาพ-เก็บเรื่อง" เช่นเดียวกับอีกฝ่าย
ก็จะนำภาพ "เหตุการณ์เดียวกัน" จากมุมกล้องครบด้านออกเผยแพร่ เพื่อให้เห็น "ความเป็นจริง" ในเหตุการณ์นั้น เป็นการหักล้างจากอีกฝ่าย
เช่นภาพชุลมุนให้คนดูเข้าใจว่า ตำรวจ-ทหาร ทำรุนแรง ไล่ทุบตีเพื่อจับกุม
ทีมงานฝ่ายรัฐ ก็นำภาพในทุกด้านออกเผยแพร่หักล้าง ให้เห็นว่า
มีการจัดฉาก ผลักดันพวกันเข้าใส่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ให้ล้มลุก-คลุกคลานเป็นภาพปล้ำจับกันประมาณนั้น
หรืออย่างภาพ นายทหารชี้หน้าใส่กลุ่มคนเผชิญหน้า ที่นำออกมาดรามากันขนานใหญ่
คนอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ ทนเห็นบิดเบือนไม่ไหว นำวิดีโอที่ถ่ายครบด้านออกเผยแพร่
กลายเป็นว่า นายทหารท่านนั้น พูดจาน่ารักกับชาวบ้านไทยมุสลิม ระหว่างพูดกัน ท่านชี้มือไปที่ธงข้างหลัง
ด้วยความจงใจของอีกฝ่ายนั่นแหละ.......
คัดเอาภาพจาก "มุมกล้อง" ที่มองแล้วเหมือนชี้หน้าผู้ชุมนุมเผยแพร่
กะใช้ภาพนี้เป็นคมแฝก "ตีแสกหน้า" โป้งเดียวรัฐบาลชักแหง็กๆ!
เหล่านี้ คือสงครามใน "ยุทธภูมิสื่อสารไอที" วันนี้
เอ็นจีโอ "ละเลงภาพ ๔ สี" ใดออกมา
ถูกทีมงานรัฐบาลโต้กลับด้วย "ยุทธการย้อนเกล็ด" เป็นการจับเท็จ "ตามประกบ"
ชนิด "ภาพต่อภาพ-เรื่องต่อเรื่อง"!
จะเห็นว่า ทุกวันนี้ ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อจากเอ็นจีโอแทบไม่เหลือเท่าไหร่ในสายตาชาวบ้าน
ยิ่งบางเอ็นจีโอไปผูกติดกับระบอบแดงทั้งแผ่นดิน เลยยิ่งม้วยมรณังไปด้วยกัน
ไม่เพียงที่เมืองไทย ในหลายประเทศ เอ็นจีโอ กลายเป็นตัวเสนียด อยู่ไหนสร้างความจัญไรให้ที่นั่น!
ดูการบ้าน-การเมืองยุคนี้ ดูจากพื้นราบไม่ได้
ต้องใช้โดรนเก็บภาพชนิดพาโนรามา ดูทุกซอก-ทุกมุม จึงจะเห็น "ความจริง-ที่เป็นจริง"
จากกรณีนี้ ดูแล้ว "ขิงก็รา-ข่าก็แรง"
เอ็นจีโอสายแดงกับรัฐบาล คสช.ใครจะเป็นฝ่ายเก็บใครในสงครามสื่อ..........
ก็อยู่ที่ฝ่ายไหน "ให้ความจริง" กับประชาชนได้ก่อนและได้ชัดเจน.

ไม่มีความคิดเห็น: