PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ระแวงสัญญาณขาลง!

ระแวงสัญญาณขาลง!


ใส่เกียร์เดินหน้าพร้อมทำงานเต็มตัว

ภายหลัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. นำทีม ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนทำหน้าที่อย่างเป็นทางการ

รัฐมนตรีหลายคนเข้าประจำการในหน่วยงานใหม่ กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เอาฤกษ์เอาชัยเพื่อความเป็นสิริมงคลในการทำงานวันแรก

ได้เวลาดรีมทีม “ประยุทธ์ 5” พิสูจน์ฝีมือ ในคิวที่มีปรากฏการณ์ร้อนๆหลายเรื่องจ่อคิวอยู่

อย่างที่เห็นๆกับด่านทดสอบเฉพาะหน้า เรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคใต้หลายจังหวัด

ที่ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะวิกฤติจากฝนตกหนักต่อเนื่อง เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทีมงานชุดใหม่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย

ยังไม่รวมถึงปมยืดเยื้ออย่างปัญหาราคายางพาราตกต่ำที่เรื้อรังมานาน มีแนวโน้มคุกรุ่นในอนาคต

เป็นปมร้อนที่ “บิ๊กตู่” ลงมากำกับบท แก้ปัญหาด้วยตัวเอง เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบายยางพาราไปใช้สร้างถนน คอสะพานและผลิตภัณฑ์ต่างๆในภาวะที่ยางกำลังล้นตลาด

โจทย์ยากประเดิมต้อนรับทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ ทั้ง นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ป้ายแดง และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ต้องเร่งหาทางเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ

ดันราคายางทุกวิถีทาง ช่วยชีวิตเกษตรกรชาวสวนยางพาราพ้นวิกฤติ เบรกม็อบไม่ให้ ขยับเข้ามาเคลื่อนไหวชุมนุมในเมืองกรุง

อุดช่องโหว่กันเต็มที่ ป้องกันไม่ให้ลามไปถึงม็อบเกษตรกรอื่นๆ อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ขยับผสมโรงร่วมสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลตามมาอีกทาง

บรรยากาศไม่ชวนให้น่าแฮปปี้ เพราะมีสารพันเรื่องที่รอให้ถอดสลัก ทั้งราคายางพารา โรงไฟฟ้าถ่านหิน ปัญหาประมง และค่าครองชีพปากท้องชาวบ้าน

รุมเร้ากดดันผู้นำ คสช.จนเสียศูนย์ เผลอตัวตวาดตัวแทนประมงที่มาเรียกร้องขอความช่วยเหลือ ระหว่างการลงพื้นที่ จ.ปัตตานี และประชุม ครม.สัญจร จ.สงขลา

ฉุดภาพลักษณ์ทหารติดลบในสายตาประชาชน ต่อเนื่องจากช็อตที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พูดกระทบกระเทือนจิตใจครอบครัวนักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิต

นั่นย่อมไม่เป็นผลดี ลดเครดิตฝ่ายอำนาจพิเศษ จน “พี่ใหญ่-น้องเล็ก” ต้องออกมาขอโทษและแสดงความเสียใจกับสิ่งที่แสดงออกไป

สลัดภาพแข็งกร้าวสไตล์กองทัพ ทหารรู้จักขอโทษประชาชน ผ่อนคลายกระแสความไม่พอใจของสังคม ไม่ให้ผูกขาดภาพเผด็จการอำนาจนิยม

ในยามที่หน้าตักท็อปบูตลดทอนลงไปตามกาลเวลา ไม่ได้แน่นปึ้กเหมือนเดิม

ตามสถานการณ์พักหลังๆที่ชักมีคนกล้าลองของแหย่หนวดเสือมากขึ้น

ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามผลโพล 4 คำถามของนายกรัฐมนตรีที่เพจ “ไทยคู่ฟ้า” ของสำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรี ระบุประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนให้ “บิ๊กตู่” อยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าการปฏิรูปประเทศจะแล้วเสร็จ

สภาพความเป็นจริงในปัจจุบันสวนทางกับคำตอบในโพล ไม่สามารถใช้เป็นบรรทัดฐานวัดความนิยมและความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาลได้

ยิ่งเส้นทางกว่าจะไปถึงสนามเลือกตั้งปลายปีหน้า อำนาจพิเศษยังมีอุปสรรครออีกหลายด่าน ไม่ได้มีเพียงแค่แรงเสียดทานจากกลุ่มเกษตรกรเพียงอย่างเดียว

แต่ยังต้องเจอแรงต้านฝ่ายการเมืองที่จะกดดันรัฐบาลเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ตามรูปการณ์ล่าสุดที่ “บิ๊กป้อม” บอกอาจจะปลดล็อกให้นักการเมืองเคลื่อนไหวได้ช่วงใกล้เลือกตั้ง

หลังจากโยงเงื่อนปมการตรวจพบอาวุธสงครามจำนวนมากที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีส่วนเชื่อมโยงกับ “โกตี๋” นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำเสื้อแดง โดยยกการข่าวพบว่า เริ่มมีกลุ่มคนเคลื่อนไหว และถ้าเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้อยู่ คงปลดล็อกการเมืองยาก เพราะหากรีบปลดล็อกจะทำให้หน่วยงานความมั่นคงทำงานกันหนักขึ้น

“พี่ใหญ่” ส่งสัญญาณชัดเจนคลายล็อกกฎเหล็กต้องรอกันอีกยาว

ยังจำเป็นต้องยกการ์ดสูง ไม่ไว้วางใจสถานการณ์ขณะนี้ ในห้วงที่ยังไม่สามารถเคลียร์ใจกับสารพัดม็อบที่ตั้งแท่นกดดันรัฐบาลอยู่

ตามห้วงอารมณ์ที่ยังสลัดอาการระแวงนักการเมืองไม่หลุด ขืนชิงปล่อยผีพรรคการเมือง ก็มีความเสี่ยงเปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองปลุกระดมกลุ่มม็อบต่างๆได้ง่ายขึ้น

ท็อปบูตก็จะกลายเป็นฝ่ายลำบากเอง!!!

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: