PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561

เสริมขาค้ำยันไว้ก่อน

เสริมขาค้ำยันไว้ก่อน


เสมือนหนึ่งว่า “นาฬิกาหรู” เริ่มนับเวลาถอยหลัง

ตามรูปเกมที่ขบวนการไล่บี้ไล่ต้อน “เซตฉาก” มาถึงโรเล็กซ์เรือนที่ 24

สถานการณ์มาถึงจุดที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ต้องชิ่งตอบคำถามนักข่าว กรณีกระแสกดดันให้พักงาน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม หลังโดนโจมตีปมนาฬิกาหรูอย่างหนัก

และถึงจังหวะที่ “มวยรุ่นใหญ่” นักการเมืองอาชีพกระโดดร่วมวงสกรัม

กับอาการ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาพูดถึงปมนาฬิกาของ “บิ๊กป้อม” เป็นเชิงยุให้ผู้นำรัฐบาลรีบจัดการเคลียร์กระแสสังคม

ขู่เรื่องยืดเยื้อ ประชาชนไม่พอใจอาจลามถึง “นายกฯลุงตู่” ด้วย

อารมณ์เดียวกับ “เดอะอ๋อย” นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ขู่เป็นเชิงกดดัน ผูกสถานการณ์เชื่อมโยงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่นัวเนียกับปมนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” ฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแตก

ถ้า ป.ป.ช.ชุดนี้ยังอยู่ได้ คสช.ก็พังแน่

ต่างฝ่ายต่างทิ้งไพ่ตาย เพราะมั่นใจกระแสมาถึงจุด “สุกงอม” เต็มที

และโดยเงื่อนไขสถานการณ์ที่ผูกโยงเป็นปมล็อก ระหว่างนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” กับสถานะของ ป.ป.ช.ที่มี “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ สายตรง “วงษ์สุวรรณ” นั่งแท่นเป็นประธาน

งานนี้ถูกเหมาเข่ง ตั้งธงให้โดนล้างกระดานพร้อมกัน

เรื่องของเรื่องในแง่กฎหมายกับกระแสต้องแยกกัน แต่จุดสำคัญจริงๆมันอยู่ที่เดิมพันเกมอำนาจ

เพราะนี่คือโอกาสที่ดีที่สุดและอาจเป็นโอกาสเดียวที่ขบวนการจ้องโค่น “พี่ใหญ่” จะหักเหลี่ยมขุมอำนาจบูรพาพยัคฆ์ โค่นทีม 3 พี่น้องลงได้

ตามเงื่อนไขที่ฝังลึกอยู่ พรรคเพื่อไทยจ้องพลิกขั้วกลับมาคุมอำนาจ เหลี่ยมแฝงในพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการเขย่าให้เกลี่ยผลประโยชน์กันใหม่ในหมู่ขบวนการโค่น “ทักษิณ” อารมณ์แค้นของกลุ่มพันธมิตรฯที่ฝังใจการลอบสังหาร “สนธิ ลิ้มทองกุล” และขุมข่ายสายบ้านสี่เสาฯที่หมั่นไส้การวัดรอยเท้า “ป๋า”

เจ้าภาพจองกฐินสามัคคีเพียบ “บิ๊กป้อม” โดนล้อมกรอบสหบาทา

และตามเหลี่ยมการเมือง สถานการณ์เกมอำนาจ ถ้าโค่น “บิ๊กป้อม” สำเร็จ เปิดแผล “ผ่าตัด” รัฐบาล คสช.ได้ โดยสภาวะสุขภาพอ่อนแอ โอกาสโรคแทรกลุกลามไว

เป้าต่อไปก็หนีไม่พ้น “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจรัฐบาล
ตามสูตรทำลาย “ขาค้ำยัน” ล้มกระดาน “ลุงตู่”

เจาะยาง สกัดเส้นทางนายกฯคนนอก ตามวิถีประชาธิปไตยไทยนิยม

แต่อย่างไรก็ตาม เหมือนจะรู้เกมรู้ทางดี นาทีนี้ผู้นำ คสช. ต้องเสริมขาให้แข็งแรงไว้ก่อน

ตามโปรแกรมล่าสุดที่ “นายกฯลุงตู่” บินตรวจราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มุ่งหน้าพื้นที่ไกลปืนเที่ยง
จังหวัดที่มีปัญหาคนจนอันดับต้นๆของประเทศไทย เดินหน้ายุทธศาสตร์ที่ประกาศไว้ จะทำให้ประเทศไทยพ้นขีดเส้นความยากจนให้ได้มากที่สุดภายในปี 2561

เริ่มนับหนึ่ง “คณะกรรมการแก้จน” ออกสตาร์ตงานตามยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (คนส.) โดยการแจกที่ดินทำกินให้ชาวบ้าน อัดฉีดงบประมาณช่วยเหลือ พร้อมมาตรการส่งเสริมการสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ในระยะยาว

ไล่เก็บแต้มชาวป่าชาวเขาห่างไกล ซื้อใจคนยากคนจนในเมือง

รัฐบาลเร่งเครื่องกู้ปัญหาปากท้องฐานราก หลังจากอัดฉีดมาตรการบัตรคนจนเฟส 2 เพิ่มวงเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 300–500 บาท

ขณะที่เศรษฐกิจภาพรวมก็ติดลมบนต่อเนื่อง ตามจังหวะที่ “จอมยุทธ์กวง” สั่งใส่เกียร์ห้าเร่งเครื่องเต็มสูบ เตรียมชง “นายกฯ

ลุงตู่” ปรับเป้าหมายการลงทุนในเมกะโปรเจกต์ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) จาก 5 ปี 5 แสนล้าน เพิ่มเป็น 6 แสนล้านบาท

ตามแนวโน้มสดใส นักลงทุนทั้งนอกและในประเทศแห่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนทะลุเป้า ภายหลังโครงสร้างพื้นฐานและการออก พ.ร.บ.อีอีซี เป็นไปตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้

เศรษฐกิจกำลังไหลลื่น ขาค้ำยันด้าน “สมคิด” แข็งขึ้นตามลำดับ

“ลุงตู่” ยังประคองตัวบนวิถี “การเมืองไทยนิยม” ไปได้เรื่อยๆ.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: