PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561

"ยอดมนุษย์ Watch Man"

วันนี้ท่านพูด ไม่ใช่การชี้แจง หลังจากบอกปัด หลบเลี่ยงนักข่าวตลอดมาถ้าถามเรื่อง "แหวนมารดา นาฬิกายืมเพื่อน" นับแต่เรือนที่ 1 วันที่ 4 ธันวาคม 2560 จนถึงเรือนที่ 24 ในวันนี้!
และเป็นการพูดยอมรับกลายๆแล้วว่า "นาฬิกายืมเพื่อน" จริงๆ เพียงแต่ยังไม่ได้แจงว่า ยืมเพื่อนกี่คน? กี่เรือน? เพื่อนเป็นใคร? เป็นนักธุรกิจใช่ไหม? เพื่อนตายไปแล้วหรือเปล่า?
มีทั้งหมดกี่เรือน? เป็นของตัวเองกี่เรือน? แล้วแหวนล่ะ? และ...ทำไมไม่แจ้งตอนที่ต้องแสดงทรัพย์สินต่อ ปปช.? (เรือนที่ 16 ใส่ปี 2553 และเรือนที่ 20 ใส่ปี 2557)
คนจะมีบารมี..ได้รับความเคารพนับถือจากสังคมนั้น มิได้ขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์ต้องร่ำรวย มีเครื่องประดับราคาแพงแต่อย่างใด
กรณีนี้เห็นชัดเจนว่า ขีดความน่าเชื่อถือ ได้สูญสลายหมดแล้ว จะโบ้ยไปที่ ปปช. เขาก็ตามไปยี้ใส่ เพราะทุกคนเขารู้ว่า ตัวประธาน ปปช.นั้น คืออดีตรองเลขาธิการรองนายกฯ คือ เด็กท่าน!
จากนี้ไปเวลาพูดถึงท่าน ทุกคนก็จะล้อเลียนแต่เรื่อง นาฬิกา ท่านกลายเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่แบบไทยๆ "ยอดมนุษย์ Watch Man"
"เนื้อข่าว"
วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม. ถึงการถูกตรวจสอบเรื่องนาฬิกาหรู โดยล่าสุด มีเรือนที่ 24 ปรากฏผ่านทางโซเชี่ยลมีเดีย ว่า
“มันวนกันไป เอาเรือนเก่าออกมา ก็ไม่เป็นไร ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบและชี้มูลว่าผมผิด ผมก็ออก ผมไม่นอยด์อะไร ไม่มีอะไร”
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นว่า หากพล.อ.ประวิตร ชี้แจงเรื่องนี้ไม่ชัดเจน จะส่งผลกระทบต่อนายกรัฐมนตรี และภาพลักษณ์รัฐบาลได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า...
"ก็พูดกันไป พูดอย่างไรก็พูดได้ ตนไม่มีนาฬิกาสะสม แต่มีเพื่อนที่เอามาให้ใส่แค่นั้น แล้วตนก็คืนหมดทุกเรือนซึ่งไม่ใช่การซื้อมาฝาก และตนก็มีเป็นของส่วนตัวแต่ไม่พูดว่ามีกี่เรือน"
ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวการเล่นหุ้นนาฬิกาในแวดวงของทหาร รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ไปเอาที่ไหนมา

ไม่มีความคิดเห็น: