PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561

ต้องให้ศาลคอร์รัปชันตัดสิน

ต้องให้ศาลคอร์รัปชันตัดสิน
.
ตำรวจมักกล่าวว่า จำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหา จะพูดอ้างอะไรก็ได้เพื่อให้พ้นผิด แต่ตำรวจจะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน
.
กรณีแหวนเพ็ชรและนาฬิกาหรู ได้มีผู้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. โดยอาศัยภาพถ่ายที่ปรากฏต่อสาธารณชนจำนวนมากเป็นหลักฐานให้ตรวจสอบว่ามีการทำผิดหรือไม่ เช่น จงใจปกปิดหรือไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือยื่นเท็จ ร่ำรวยผิดปรกติ รวมถึงเรื่องการเสียภาษีรายได้และการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศโดยไม่เสียภาษี 
.
สิ่งที่คาดหวังจาก ป.ป.ช. ต่อกรณีนี้
.
1. สำนักตรวจสอบฯ ที่มีคุณสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้กำกับดูแล ต้องเร่งตรวจสอบเชิงลึกหาความจริงให้กระจ่างและเปิดเผยความคืบหน้าต่อสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง
2. ให้เชิญตัวผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง พร้อมกับบุคคล/นิติบุคคลและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนาฬิกาที่เป็นข่าว เพื่อสืบสาวถึงต้นตอการซื้อขาย ที่มาของเงินและการเสียภาษี
3. ในการชี้มูลความผิด ขอให้กรรมการ ป.ป.ช. แต่ละท่านทำบันทึกเหตุผลการตัดสินใจแล้วนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน
4. หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลว่า “ผิด” แล้วส่งเรื่องให้อัยการสั่งฟ้องต่อศาลคอร์รัปชัน เชื่อว่าศาลจะเรียกบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างพร้อมหลักฐานมาไต่สวนพิสูจน์ ว่าข้อมูลหลักฐานเหล่านั้นเชื่อถือได้หรือไม่ ถึงเวลานั้นเชื่อว่าความจริงทุกอย่างจะปรากฎ ความโปร่งใส ความสง่างาม ก็จะเกิดขึ้นในสังคมไทย
5. ขอให้ประชาชนติดตามและสนับสนุนให้ข้าราชการประจำสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างอิสระ เป็นกลาง สมกับการเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเป็นคนของแผ่นดิน
.
คณะกรรมการและข้าราชการของ ป.ป.ช. ต้องร่วมกันทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามอำนาจหน้าที่ เพื่อพิสูจน์ศักดิ์ศรีและป้องกันมิให้ตัวเองตกเป็นจำเลยสังคมหรือถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเสียเอง
.
เหตุผลของท่านพลเอกประวิตรออกจะดูถูกดูแคลนสถานภาพของตัวเองมากเกินไป และไม่รู้ว่าพูดแล้ว “คนเชื่อกับคนชัง” อย่างไหนมากกว่ากัน แต่ดูเหมือนความรับผิดชอบและมโนสำนึกของรัฐบาลได้หมดสิ้นแล้วในสายตาประชาชน
.
ดร. มานะ นิมิตรมงคล
17/1/61

ไม่มีความคิดเห็น: