PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

จังหวะถอยลงเหลี่ยม

จังหวะถอยลงเหลี่ยม


ไฮไลต์ความคึกคักไปอยู่ที่ภาคตะวันออก จันทบุรี ตราด ตามฉากที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. นำทีม ครม.สัญจร
ยกทัพหลวงบุกเมืองจันท์
ขนโครงการไปลงพื้นที่ ทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นชาติมหาอำนาจด้านการค้าผลไม้เมืองร้อนของโลก รวมถึงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายถนน รถไฟทางคู่ รถไฟโดยสารด่วนพิเศษ แก้ไขปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคและไฟฟ้าดับ พัฒนาด่านชายแดน ท่าเทียบเรือ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
ตามโปรแกรมเพิ่มขีดความสามารถในทุกด้าน รองรับกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เมกะโปรเจกต์ “เรือธง” ของรัฐบาล
ภาพออกมาในโทนที่ “นายกฯลุงตู่” เดินหน้าปั่นเนื้องาน
เน้นเติมวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกันรัฐบาล ตุนแต้มเดินหน้าต่อช่วงเปลี่ยนผ่าน
ในจังหวะตีกรรเชียงออกห่างจากเกมมะรุมมะตุ้มทางการเมือง ตามท้องเรื่องที่ “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กำลังตกอยู่ในวงล้อมฝ่ายจ้องโค่นกระดาน
ตามสถานการณ์ทางกระแสมาถึงขั้นที่ “ข่าวลือ” ยกระดับใกล้เคียงกับข่าวจริง แบบที่นักข่าวแทบแยกไม่ออกกับกระแสวงนอกวงในที่ “พี่ใหญ่” ทิ้งไพ่ “ไขก๊อก” ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ว่ากันถึงขั้นให้ลุ้นจับตาภายในเวลา 48 ชั่วโมง
แต่ถึงตรงนี้ก็ยังไม่มีอะไรในกอไผ่ ล่าสุด พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร มีกำหนดเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอาเซียนที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5–7 กุมภาพันธ์ 2561
พร้อมยืนยัน ยังเข้มแข็งและมีกำลังใจทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป
ตามรูปการณ์นอกจาก “พี่ใหญ่” ไม่ได้ถอดใจไขก๊อกแล้ว ยังส่อแววเบิ้ลกลับด้วยโพลหนุนให้อยู่ต่อเพื่อให้ประเทศสงบปลอดจากม็อบป่วนเมือง แถมด้วยออปชั่นการล็อบบี้บริษัทเอกชนในขุมข่าย “พี่ใหญ่” ซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก 2018 ให้ชาวบ้านได้ดูถ่ายทอดสดจากประเทศรัสเซีย
จัดโพลเชียร์สู้กับโพลของฝ่ายรุกไล่
“พี่ใหญ่” ยังไม่ถอดใจถอยง่ายๆตามแรงกดดัน
เรื่องของเรื่อง ย้อนไปโฟกัสจากประโยคร้อนๆบนเวทีเลี้ยงปีใหม่กระทรวงกลาโหมที่ “บิ๊กป้อม” ถอดหัวใจพูดกับแม่ทัพ นายกอง ขุนทหารใหญ่
“ผมรับราชการมาตั้งแต่ปี 2511 จนถึงขณะนี้ผ่านมา 50 ปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องอะไรหนักๆ ก็ดูเอาแล้วกันว่าผมได้ทำอะไรที่เสียหายกับประเทศชาติบ้านเมืองหรือไม่ ผมเข้ามาเพราะอยากจะช่วยเหลือบ้านเมืองอยากทำงานให้บ้านเมือง ถ้าประชาชนไม่ต้องการ ผมก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้ เพราะฉะนั้นอยากจะฝากกับสื่อว่าอยากให้ดูว่าผมทำงานมาตลอด 50 ปีได้ทำอะไรไว้บ้าง”
จับทางทหารอาชีพอย่าง “บิ๊กป้อม” ยึดถือศักดิ์ศรีเป็นสำคัญ
นั่นยังไม่นับวีรกรรมวัยหนุ่มที่เจ้าภาคภูมิใจ ถูกส่งไปรบแบบจรยุทธ์ในประเทศลาวในช่วงติดร้อยตรีหมาดๆ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแบบฉายเดี่ยวคนเดียว มีแค่ปืนเอ็ม 16 ประจำกาย กับมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ
เผชิญสถานการณ์บีบคั้นมาซะขนาดนั้น คงไม่มีแรงกดดันทำอะไร “บิ๊กป้อม” ได้
ที่แน่ๆถ้ายอมถอย ไขก๊อกตอนนี้ เท่ากับ พล.อ.ประวิตร ยอมรับสภาพมอมแมมตามที่ถูกรุมถล่มโจมตี ศักดิ์ศรี บารมีที่สั่งสมมาเกินค่อนชีวิตมลายหายหมด
แต่อย่างไรก็ดี ถึงจังหวะนี้ก็เริ่มมีกระแสฝั่งหนุนทั้งโพลเชียร์และเสียงของทหารผ่านศึกที่บอกให้ “บิ๊กป้อม” สู้ต่อ ระหว่างเป็นประธานพิธีสวนสนามวันทหารผ่านศึก
ไม่ได้มีแค่ขบวนการไล่ ฝ่ายเชียร์ก็มี มันก็เป็นไปได้ ถ้าถึงจังหวะที่กระแสซา แรงกดดันเบาบางลงไป
พอได้เหลี่ยม “ถอยแบบมีเชิง” พล.อ.ประวิตร อาจตัดสินใจทิ้งไพ่ โดยไม่เสียอาการทรงตัว
และถ้าสถานการณ์ออกมาในมุมนั้น พวกที่จ้องกระโดดข้าม “ซ้ำไม้ล้ม” ก็ต้องประเมินเกมกันให้ดีๆ
เพราะโดยสถานะของ “พี่ใหญ่” ผู้มากบารมี “บิ๊กป้อม” ก็คือ “บิ๊กป้อม” ฐานยังแน่นทั้งในกองทัพ ตำรวจ มหาดไทย และเครือข่ายการเมืองที่ต่อสายได้
นึกสภาพ “บิ๊กป้อม” ที่พ้นสถานะใน ครม. ไม่ได้มีตำแหน่งแห่งหนเป็นทางการ
ตัดชนวนเสียงครหาในการใช้อำนาจรัฐไปได้
“พี่ใหญ่” ลุยปั้นพรรคการเมืองได้แบบ “full time” เต็มเวลาเลย.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: