PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561

ต้องเน้นชัวร์ไว้ก่อน!

ต้องเน้นชัวร์ไว้ก่อน!



เปิดตัววูบวาบออกมาล่าสุด
การจดแจ้งขอตั้ง “พรรคอนาคตใหม่” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บิ๊กบอสบริษัท ไทยซัมมิท ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยานยนต์ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการสายนิติราษฎร์
แม้ตีตลาดออกมาทีหลัง แต่เกาะกระแสตีกิน ดังเปรี้ยงปร้างมากกว่าใคร
โชว์คอนเซปต์ สร้างการเมืองใหม่ ฟื้นความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย ออกแบบนโยบายทำให้ประชาชนมีโอกาสเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ
ออกตัวล่วงหน้าไม่ถือหางฝ่ายใด ทั้งพรรคเพื่อไทยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หรือแม้กระทั่ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.
แม้ประกาศตัวเป็นพรรคคนรุ่นใหม่ เสนอตัวเป็นตัวเลือกในยามที่ประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมืองรุ่นเก่าจากทุกค่าย หรือการบริหารงานยุคใหม่ สไตล์ทหาร
แต่อย่างน้อยตามเหลี่ยมที่แฝงอยู่ ก็พอเห็นสีเสื้อรางๆของพรรคอนาคตใหม่ กับการแพลมไต๋ไม่สนับสนุน นายกฯคนนอก ตั้งท่าไม่ขอญาติดีกับ “บิ๊กตู่”
หนีไม่พ้นถูกเกี่ยวโยง แตกหน่อออกจากยี่ห้อนายใหญ่ ตามดีเอ็นเอของแกนนำกลุ่มที่มีศักดิ์เป็นหลานชายของอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย
หลายพรรคแข่งกันเปิดตัวสร้างจุดยืน โชว์จุดขายคึกคัก ปั่นแบรนด์ของตัวเองให้ติดตลาดแต่เนิ่นๆ ไม่รู้ยี่ห้อไหนของจริงของปลอม
ผิดกับบรรยากาศในขั้ว 2 พรรคใหญ่ “เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์” เปิดศึกชิงอำนาจในพรรคกันฝุ่นตลบ เสียงเจี๊ยวจ๊าวไม่ลงรอยกัน โผล่ให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
ยังต้องหาจังหวะตั้งลำ ปรับจูนกันให้ลงตัวอีกพักใหญ่ก่อนลงสังเวียนเลือกตั้ง
แต่ที่ต้องตั้งลำ ปรับกระบวนไม่แพ้กัน คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่เปลี่ยนท่าที ยอมยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.
ลดโทนดื้อดึง หลังมีเสียงเตือนดังขึ้นเรื่อยๆจากปรมาจารย์กฎหมายแถวหน้าของประเทศอย่าง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้ยื่นตีความร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ
ยอมถอยยื่นตีความแค่ฉบับเดียวแลกกับความชัวร์ ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในอนาคต
ป้องกันการตกอยู่ในสภาพ “ล้มทั้งยืน” หากมีผู้ไปยื่นล้มกระดานสรรหา ส.ว. ภายหลังจากประกาศบังคับใช้กฎหมายไปแล้ว
ในเงื่อนไขที่โมเดล 250 ส.ว. ถือเป็นกลไกสำคัญในการบริหารประเทศช่วงเปลี่ยนผ่าน ตามเกมที่ฝ่ายอำนาจพิเศษวางไว้ ไม่สามารถปล่อยให้เกิดอุบัติเหตุการเมืองกับกระบวนการคัดเลือก ส.ว.ได้
เพราะอาจมีผลต่อการคอนโทรลอำนาจของ คสช.ในอนาคต
ทุกเสียง ส.ว. มีความหมายต่อการต่อวีซ่าให้ “บิ๊กตู่” แค่เสียงหล่นหายไปแต้มเดียวก็มีผลกระทบแล้ว หากหล่นหายไปทั้งกระดานทุกอย่างก็จบเห่ทันที
ขืนบุ่มบ่ามเดินหน้าวัดดวง ไปเสี่ยงตายเอาดาบหน้า อาจจะได้ไม่คุ้มเสีย
ถึงนาทีที่โรดแม็ปกำลังตีโค้งมาถึงปลายทาง ยังไงก็ต้องยึดหลักช้าแต่ชัวร์ ท่องคาถาปลอดภัยไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในอนาคต
เพราะหากภายหลังมีการเลือกตั้ง ส.ส. และสรรหา ส.ว.เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่มีผู้ไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญคัดค้านประเด็นการสรรหา ส.ว. ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
เลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดภาวะชะงักงัน มีปัญหาเปิดประชุมรัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะมีเรื่องคาราคาซังอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ
ท็อปบูตอุตส่าห์คอนโทรลอำนาจมาใกล้สังเวียนเลือกตั้งในอีกไม่กี่อึดใจ มีกองหนุนจากพรรคขนาดกลาง และพรรคเล็ก ยินยอมพร้อมใจอุ้ม“ลุงตู่” นั่งเสลี่ยงเชิญมานั่งเก้าอี้นายกฯ อีกสมัย
แต่ถ้าผลสุดท้ายเปิดประชุมรัฐสภาไม่ได้
ถึงตอนนั้นอาจต้องฝันค้าง!!!
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: