PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561

แค่ต่อลมหายใจ

แค่ต่อลมหายใจ



หลังปล่อยให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล เดือดร้อนเลือดตากระเด็น มานานนับปี
ในที่สุด “ดร.วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ก็ชงใส่พานเสนอ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯและ หน.คสช.ให้ใช้อำนาจพิเศษ “ม.44” ช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ที่ประสบปัญหาขาดทุน ริดสีดวงบานเป็นกลีบมะไฟ
ให้สามารถประคองตัวผ่านช่วงวิกฤติลูกผีลูกคนไปก่อนชั่วคราว
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า 2 มาตรการเร่งด่วนฉุกเฉินเพื่อต่อลมหายใจ ทีวีดิจิตอล ฉลองเทศกาลเช็งเม้งมีดังนี้คือ...
1, ผ่อนผันให้พักชำระหนี้ค่าใบอนุญาตทีวีเป็นเวลา 3 ปี
แต่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลต้องชำระดอกเบี้ย 1.5 ของวงเงิน
2, ลดค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิตอล ภาคพื้นดิน 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 2 ปี
โดย กสทช.ยอมจ่ายค่าเช่าครึ่งหนึ่งแทนผู้ประกอบการเอกชน
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่รัฐบาลจะใช้มาตรการช่วยเหลือธุรกิจทีวีดิจิตอลที่กำลังขาดทุนอ่วมอรไท
แม้จะเป็นการช่วยเหลือระยะสั้นๆแค่ 3 ปี
แต่อย่างน้อย ทำให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทุกช่องได้มีเวลาพักหายใจ ไม่ต้องกระเสือกกระสนหาเงินไปประเคนจ่ายค่าใบอนุญาตส่วนที่ยังเหลืออีก 30 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 3 ปีที่ได้พักหนี้ชั่วคราว
ส่วนมาตรการลดค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิตอล ภาคพื้นดิน 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 2 ปี น่าจะช่วยลดภาระขาดทุนของกลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ได้อีกพอสมควร
ถ้ามองมุมรัฐบาล แม้มาตรการนี้ทำให้รายได้ค่าใบอนุญาตทีวี 24 ช่อง ที่ค้างอยู่อีก 1.3 หมื่นล้านบาท จะไหลเข้ากระเป๋ารัฐบาลช้าไปอีก 3 ปี
แต่รัฐบาลยังได้ฟันดอกเบี้ยอีก 180 ล้านบาท ไปพลางๆ
ดังนั้น มาตรการพักชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลชั่วคราว 3 ปี จึงไม่ได้ทำให้รัฐบาลขาดทุนแม้แต่สลึงเดียว
แถมยังได้กำไรดอกเบี้ยเพิ่มอีกฟรีๆ
ข้อสำคัญ ถ้าหากรัฐบาลไม่ยอมลดหย่อนผ่อนปรน ไม่ยอมช่วยเหลือเยียวยา มุ่งแต่จะเก็บค่าใบอนุญาตตะพึดตะพือ
เท่ากับรัฐบาลซํ้าเติมให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล แบกภาระขาดทุนต่อไปอีกไม่ไหว จนต้องเจ๊งกันระนาว
รายได้จากค่าใบอนุญาตทีวีจะต้องสูญหายไปอีกก้อนโต!!
สรุปว่า การต่อท่อหายใจพักชำระหนี้ชั่วคราว 3 ปี เป็นประโยชน์ทั้งเอกชนผู้ลงทุนทีวีดิจิตอล และเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลเอง
“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่าการเปิดประมูล ใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 24 ช่อง ทำให้รัฐบาลฟันรายได้เข้ากระเป๋าถึง 5 หมื่นล้านบาท
สูงกว่าที่รัฐบาลประเมินไว้ 3 เท่าตัว
ล่าสุด ผู้ประกอบการทีวีจ่ายค่าใบอนุญาตเข้ากระเป๋ารัฐบาลไปแล้วกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท
เท่ากับรัฐบาลฟันกำไรหวาน คอแร้งไปแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์
การยืดเวลาจ่ายค่าใบอนุญาตที่ยังเหลืออีก 1.7 หมื่นล้านบาท จึงไม่กระเทือนซางรัฐบาลอะไรเลย
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีวีดิจิตอล ขาดทุนบานทะโร่ เกิดจากปัจจัย 2 ประการ
1, ผลกระทบจากเศรษฐกิจซึมยาว ทำให้รายได้จากโฆษณาหดลง สวนทางกับสถานีทีวีที่เพิ่มจาก 5 ช่อง เป็น 24 ช่อง จึงนำไปสู่วิกฤติขาดทุนจั๋งหนับบุเรงนอง
2, การเปิดทีวีดิจิตอลพรวดเดียว 24 ช่อง มันมากเกินไป เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจไทย และจำนวนประชากรที่เป็นฐานผู้ชม
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แลเฮย.
“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: