PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ผู้ว่าฯ กทม. ยอมถอยยึดหอศิลปกรุงเทพฯ “ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม. ก็จะไม่เข้าไปยุ่ง”

ผู้ว่าฯ กทม. ยอมถอยยึดหอศิลปกรุงเทพฯ “ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม. ก็จะไม่เข้าไปยุ่ง”
.
หลังมีกระแสการคัดค้านต่อกรณีที่ กทม. จะเข้าไปบริหารจัดการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นแคมเปญรณรงค์ใน change.org โดยมีผู้ลงชื่อร่วมสนับสนุนล่าสุดกว่า 13,000 คน (17.00 น)
.
ล่าสุด พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวินระบุว่า กทม. จะยอมถอยหากประชาชนไม่เห็นด้วย โดยมีเนื้อหาระบุว่า
.
‘Ars Longa, Vita Brevis’ ประโยคดังกล่าวได้รับการแปลอย่างลึกซึ้ง โดย ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี มีใจความว่า “ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” แสดงถึงความสำคัญของศิลปะ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการสนับสนุนให้ประชาชนมีพื้นที่สาธารณะปราศจากการแทรกแซงเพื่อสร้างสรรค์งานศิลป์ ไม่ว่าจะใช้เพื่อการแสดงออก เพื่อศึกษาหรือร่วมแบ่งปันงานศิลป์ และหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในจุดสำคัญของประเทศที่ใช้ในการทำกิจกรรมเหล่านี้
จากการที่มีกระแสข่าวในทำนองว่า กทม. จะนำพื้นที่ในหอศิลปกรุงเทพฯ ทั้งหมดไปทำอย่างอื่น หรือแม้กระทั่งนำไปทำห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงแคมเปญออกมา คัดค้านการที่ กทม. จะเข้ามาบริหารจัดการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครด้วยตนเองนั้น
ผมคงต้องตอบว่า กทม. ไม่เคยคิด และไม่มีทางที่จะทำลายสถานที่แสดงศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศเรา เพียงแต่เราต้องการพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันพื้นที่บางส่วนของหอศิลปกรุงเทพฯ ยังไม่ได้มีการใช้ประโยชน์ เราต้องการนำพื้นที่เหล่านั้นมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ หนึ่งในแนวทางที่อยากจะปรับปรุงก็คือ การนำพื้นที่เหล่านั้นมาปรับเป็นให้เป็นสถานที่ที่ทุกคนได้เข้ามาใช้ สร้างสรรค์งานศิลป์ ทำงาน พบปะ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือที่เรียกกันว่า Co-Working Space ในส่วนนิทรรศการก็ยังจะต้องใช้เพื่อแสดงงานศิลปะและวัฒนธรรมอย่างเดิม
แต่การที่ กทม. จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ส่วนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์นั้น อาจติดด้วยระเบียบและกฎหมายการมอบกิจการให้มูลนิธิ กทม. จึงมีเป้าหมายที่จะพัฒนาพื้นที่เหล่านั้น เพื่อให้ทุกคนมีพื้นที่ที่ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันและดึงดูดให้ประชาชนสนใจงานศิลป์มากขึ้น สำหรับแนวทางการพัฒนานั้นอาจมีการดึงผู้ที่เกี่ยวข้องและมีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญมาช่วยพัฒนา
ผมเชื่อมั่นว่าศิลปะเป็นเรื่องของอิสระทางความคิดและจินตนาการ ศิลปะเป็นสิ่งจรรโลงใจหาใช่เพื่อวัตถุประสงค์ใด และสถานที่แสดงศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าแห่งนี้จะต้องยังคงอยู่เพื่อประชาชนทุกคนครับ
สุดท้ายนี้ ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม. ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพัฒนาในพื้นดังกล่าวครับ
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร #BACC #News#TheStandardCo #TheStandardTH #StandUpForThePeople

ไม่มีความคิดเห็น: