PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2561

มั่นใจกระโดดขึ้นเวที

มั่นใจกระโดดขึ้นเวที



พลังความรักความสามัคคีของคนไทยที่ผุดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
กระแสผู้คนทั่วประเทศส่งกำลังใจให้กับปฏิบัติการค้นหาช่วยเหลือ 13 เยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลทีม “หมูป่า อคาเดมี” ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ภายใต้พระมหากรุณาธิคุณ “ในหลวงรัชกาลที่ 10” ทรงห่วงใย รับสั่งให้ช่วยเหลือเด็กๆอย่างเต็มที่
พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ที่ประทานกำลังใจและกำลังทรัพย์ให้ปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิต
สถานการณ์แบบที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. เรียกประชุมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันทีที่เครื่องบินลงแตะรันเวย์ กลับจากเยือนอังกฤษ–ฝรั่งเศส
และตั้งแต่ช่วงแรกๆของวันเกิดเหตุ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้เดินทางไปบัญชาการในพื้นที่ด้วยตัวเอง
ขณะที่ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ก็ไปปักหลักสั่งการกำลังพลทหารเรือ ทหารบก ทหารอากาศ ตำรวจ ข้าราชการพลเรือนมหาดไทยทุกหน่วยต่างระดมบุคลากร หน่วยซีล ตำรวจน้ำ ทหารรบพิเศษ พร้อมอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ เครื่องปั่นไฟฟ้า ฯลฯ
ทั้งคนทั้งเครื่องมือครบอยู่หน้างาน ลุยสู้กับสภาวะธรรมชาติที่ยากลำบาก
จากรูปการณ์อย่างน้อยก็ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองของเยาวชนที่ติดอยู่ในถ้ำได้อุ่นใจรออย่างมีความหวัง รวมทั้งประชาชนทั่วไปก็ชื่นชมการเร่งทำงานอย่างเต็มกำลังของทุกฝ่าย
แน่นอนวิกฤตการณ์สำคัญคือบทพิสูจน์เชิงบริหารของรัฐบาล
งานนี้ทีมของ “บิ๊กตู่” ได้โชว์ให้เห็นถึงความพร้อมในแบบฉบับของทหารที่เข้าถึงสถานการณ์ได้รวดเร็วฉับไว รวมถึงศักยภาพในการระดมกำลังคน เครื่องมือเครื่องไม้
นี่คือจุดที่เหนือกว่ารัฐบาลพลเรือนทั่วไป
กระตุกจุดเด่น ประโยชน์ความจำเป็นของทหาร
และแน่นอน มันคือ “แต้มบวก” ต่อเก้าอี้ผู้นำของ พล.อ.ประยุทธ์
ในสถานการณ์ทางการเมืองที่เดินมาจุดที่ผู้นำรัฐบาลเปิดหน้าซัดแรงๆกระแทกชิ่งไปถึงอดีตผู้นำสองพี่น้อง อดีตนายกฯทักษิณและอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยแถลงยืนยันหลังลงเครื่องเลยว่า การไปเยือนอังกฤษและฝรั่งเศสด้วยศักดิ์ศรีของตัวเอง โดยเอาคนไทยและประเทศไทยไปด้วย
ไม่ไร้เครดิตเหมือนพวกที่หนีคดีอยู่ต่างประเทศ
และย้ำกันอีกรอบที่ทำเนียบรัฐบาล “บิ๊กตู่” ยืนยันที่พูดโจมตีคนที่หนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะระหว่างเดินทางเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส มีคนมาต่อต้าน บางทีก็รำคาญ
ชัดเจนว่าเป็นอาการตกค้าง จากการโดนเกมเจาะยาง
“นายกฯลุงตู่” โคตรฉุนเกมเขี้ยว “ทักษิณ” ล็อบบี้สื่อต่างประเทศถล่มผู้นำไทย ดิสเครดิตในจังหวะคุยกับผู้นำโลกทั้ง “เทเรซา เมย์” และ “เอ็มมานูเอล มาครง”
เกือบทำให้การบ้านที่นายกฯและทีมงานอุตส่าห์ลงทุนลงแรงไป ต้องเหนื่อยฟรี
ข่าวดีๆที่นายกฯอังกฤษ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ให้การต้อนรับผู้นำไทย โดยไม่มีเงื่อนไขทางการเมืองต่อต้านผู้นำทหาร แถมตอบรับยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ นักลงทุนทั้งสองประเทศสนใจตอบรับมาลงทุนในเมกะโปรเจกต์ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี)
โดนประเด็นกระพี้การเมืองกลบหมด
เหลี่ยมการตลาดเดิมๆมุกเก่าๆอาศัยสื่อต่างประเทศของ “นายใหญ่” ยังตีกินได้ไม่เบื่อ
และก็เชื่อว่า เกมล็อบบี้สื่อต่างประเทศทาสีผู้นำไทยจะยกระดับขึ้น ภายหลังภาพที่ผู้นำอังกฤษและผู้นำฝรั่งเศสให้การต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ แบบที่ไม่มีการถามถึงเรื่องการเมือง
มีแต่ฝ่ายนายกฯไทยที่ยืนยันการเลือกตั้งตามโรดแม็ปต้นปีหน้า
สถานการณ์เดียวกับคิวของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” แห่งสหรัฐอเมริกา ที่เปิดห้องรูปไข่ ทำเนียบขาว วอชิงตัน ดี.ซี. ต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์แบบกันเอง มาทั้งครอบครัว
นั่นหมายถึงหมากโลกล้อมประเทศไทยใช้ไม่ได้ผลแล้ว
ตามแนวโน้มสถานการณ์ที่แรงเสียดทานภายนอกประเทศลดลงไป แรงเสียดทานภายในคุมเกมได้
มันก็ไม่แปลกใจที่จะได้เห็นอารมณ์เปิดหน้าท้าแลกหมัดกับ “ทักษิณ” ตีราคาแค่พวกไร้เครดิตหนีคดีอยู่ต่างประเทศ บอกปัดข่าวไปแอบนัดพบกันในลอนดอน ถึงอยากพบก็ไม่ให้พบ
จับอาการดุดัน ลีลาปล่อยหมัดสวนเข้าปลายคางอดีตผู้นำ 2 พี่น้องแบบไม่ไว้ไมตรี
“ลุงตู่” โดดขึ้นเวทีการเมืองเต็มตัวแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: